ประกัน
วิริยะประกันภัยโชว์ศักยภาพระบบสินไหมข้ามแดน


 


วิริยะประกันภัย โชว์ศักยภาพระบบสินไหมข้ามแดนกรณีอุบัติรายใหญ่ในสปป.ลาว จ่ายทันควัน 119 ล้านกีบ 
 

วิริยะประกันภัย ชูศักยภาพการบริการสินไหมทดแทนข้ามแดนระหว่างประเทศ ล่าสุดเกิดอุบัติเหตุรายใหญ่ในสปป.ลาว ส่งทีมสินไหมหอบเงิน 119 ล้านกีบข้ามโขงไปจ่ายทันที ก่อนที่ผู้ขับขี่รถยนต์คันที่ทำประกันภัยต้องติดคุกก่อนตามกฎหมายลาว เผยเป็นระบบการจ่ายสินไหมที่ทำงานร่วมกับบริษัท Allianz General Laos ประกันภัยอันดับ 1 ของลาวมากว่าทศวรรษจนมีศูนย์บริการสินไหมทดแทนครบวงจรอยู่ครบทุกแขวงในสปป.ลาว พร้อมเตือนผู้ขับขี่รถยนต์ทะเบียนไทย เข้าสปป.ลาวต้องซื้อประกันวงเงินคุ้มครองสูงกว่ากฎหมายลาวกำหนด เพราะถ้าเป็นฝ่ายผิดจะถูกเรียกร้องสูงมาก อีกทั้งเจ้าทุกข์ยังไม่พึงพอใจ ต้องเข้าคุกก่อนเจรจารอบใหม่
 
นายณัฐพงศ์ บุญเย็น ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการภาค 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ได้มีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economic Community : AEC) อย่างเป็นทางการ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้เกิดการสัญจรทางรถยนต์ข้ามแดนกันมากขึ้นกว่าเดิมโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศCLMV และที่สำคัญการสัญจรส่วนใหญ่จะเป็นการสัญจรในเส้นทางไทย ลาว เวียดนาม 

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ฝ่ายปฏิบัติการภาค 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)  บมจ.วิริยะประกันภัยซึ่งดูแลรับผิดชอบให้การบริการด้านประกันภัยในพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือต้องซักซ้อมระบบการทำงานร่วมกันกับบริษัท อลิอันซ์ ประกันภัยลาว (Allianz General Laos : AGL) บริษัทประกันภัยอันดับ 1 ของสปป.ลาวอยู่ตลอดเวลา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เอาประกันภัยและผู้ประสบภัยจากรถที่ทำประกันภัยไว้กับบริษัทฯ และ AGL รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจของโรงพักต่างๆ ใน สปป.ลาว ว่าจะได้รับความคุ้มครองอย่างเต็มที่ 

ทั้งนี้ ตามกฎหมายของ สปป.ลาว เมื่อเกิดเหตุถ้าเป็นฝ่ายผิดจะถูกเรียกร้องค่าเสียหายในวงเงินสูงมาก หากผู้ขับขี่มีกรมธรรม์ประกันภัยไม่ครอบคลุมความเสียหายก็จะถูกคุมตัวและถูกยึดพาหนะไว้จนกว่าจะมีการเจรจาไกล่เกลี่ยกับฝ่ายผู้เสียหายจนเป็นที่พอใจ ดังนั้น จากการที่บริษัทฯ มีความร่วมมือ ในเรื่องการบริการสินไหมกับ AGL เมื่อเกิดเหตุขึ้น จึงทำให้เจ้าหน้าที่สินไหมของ AGL สามารถเข้าไปเจรจาได้อย่างทันท่วงที และทีมสินไหมของวิริยะประกันภัยสามารถเข้าไปตรวจสอบประเมินความเสียหายร่วมกับทาง AGL เพื่อดำเนินการจ่ายสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกันภัยได้อย่างรวดเร็ว โดยทั้งทางวิริยะประกันภัยและ AGL ได้ร่วมกำหนดวงเงินสำรองเอาไว้เป็นค่าสินไหมทดแทน เพื่อสะดวกในการจ่าย แต่ถ้าเป็นวงเงินที่เกินกว่านั้นทั้งวิริยะประกันภัยและ AGL พร้อมส่งทีมงานข้ามแดนมาจ่ายให้ทันที

อย่างกรณีล่าสุดรถยนต์บรรทุกน้ำมันของ บริษัท ทองนที อินเตอร์เทรด จำกัด เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำบริเวณถนนสายจำปาสักไปอัตตปือ ช่วงผ่านแขวงเซกอง สปป.ลาว ซึ่งนอกจากรถยนต์ที่ทำประกันภัยได้รับความเสียหายอย่างสิ้นเชิงแล้ว ยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมไปถึงป้อมตำรวจและสถานที่ราชการอื่นๆเสียหายไปด้วย  แต่ด้วยระบบที่วางไว้และการซักซ้อมอยู่ตลอดเวลา ทำให้ AGL สามารถส่งเจ้าพนักงานสำรวจอุบัติเหตุรถยนต์เข้าไปถึงที่เกิดเหตุทันที และเมื่อพบว่าเป็นการเกิดอุบัติเหตุรายใหญ่และเป็นรถยนต์ที่จดทะเบียนในประเทศไทย ข้อมูลจึงถูกส่งมายังศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทน จังหวัดอุบลราชธานีของบมจ.วิริยะประกันภัย และทางศูนย์ฯได้จัดส่งเจ้าหน้าที่สำรวจอุบัติเหตุรถยนต์เข้าไปร่วมประเมินความเสียหาย ซึ่งได้ข้อสรุปว่าต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนทั้งสิ้น 137,497,250 กีบ 

โดยแยกเป็นการจ่ายตามความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 3 (ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับของสปป.ลาว) ของบริษัท AGL 17,500,000 กีบ และตามกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 ขยายอาณาเขตความคุ้มครองในพื้นที่สปป.ลาว (ประกันภัยรถยนต์ข้ามแดน) 119,997,250 กีบ

“จากกรณีอุบัติเหตุในครั้งนี้ทำให้วิริยะประกันภัยตระหนักว่า นอกจากระบบการประสานงานเพื่อเข้าเจรจาและการจ่ายสินไหมทดแทนให้กับผู้เสียหายอย่างรวดเร็วแล้ว  การที่ทางวิริยะประกันภัยได้เข้าไปสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนตลอดไปถึงหน่วยงานรัฐท้องถิ่น ทั้งในรูปของกีฬาเชื่อมความสามัคคีหรือกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์อื่นๆ ทำให้เกิดความไว้วางใจซึ่งกันและกันมากขึ้น ดังนั้นตนจึงต้องมุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์เพื่อให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือไปยังแขวงอื่นๆ ในสปป.ลาวให้มากขึ้นและครอบคลุมมากกว่าเดิม” นายณัฐพงศ์ กล่าวในที่สุด

 
 
ภาพ:นายณัฐพงศ์ บุญเย็น ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการภาค 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มอบสินไหมทดแทน จำนวน 119,997,250 กีบ ให้กับผู้ประสบภัยจากกรณีรถบรรทุกน้ำมันของ บริษัท ทองนที อินเตอร์เทรด จำกัด เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำบริเวณถนนสายจำปาสักไปอัตตปือ ช่วงผ่านแขวงเซกอง สปป.ลาว ซึ่งนอกจากรถยนต์ที่ทำประกันภัยได้รับความเสียหายอย่างสิ้นเชิงแล้ว ยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมไปถึงป้อมตำรวจและสถานที่ราชการอื่นๆ เสียหายไปด้วย  โดยพิธีมอบสินไหมดังกล่าวจัดขึ้น ณ  เมืองปากเซ  แขวงจำปาสัก สปป.ลาว

 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 23 มิ.ย. 2559 เวลา : 15:29:07
11-01-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ January 11, 2025, 4:51 am