เริ่มมีแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้นสำหรับตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าไทย เนื่องจากผู้ประกอบการต่างชาติเริ่มหันมาให้ความสนใจทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยมากขึ้น เพราะไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจในทิศทางที่ดีเมื่อเทียบกับภูมิภาคยุโรป อเมริกา และตะวันออกกลาง ซึ่งกลุ่มประเทศดังกล่าวขณะนี้ยังคงประสบกับปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว
แนวโน้มที่ดีดังกล่าวส่งผลให้เริ่มมีการคาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยในช่วงครึ่งปีหลัง น่าจะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีกว่าครึ่งปีแรกอย่างแน่นอน เนื่องจากขณะนี้เริ่มเห็นผู้ประกอบการออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายและเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าทำตลาดอย่างคึกคัก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าทีวี เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงของการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 ถือเป็นอานิสงส์ สำหรับการกระตุ้นตลาดทีวีให้กลับมาเติบโตอีกครั้งหลังจาก 4 เดือนแรกติดลบไปสูงถึง 10% แต่หลังจากมีการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 ภาพรวมตลาดก็กลับมาเติบโตได้ถึง 10%
นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส บริหารสินค้าเพาเวอร์มอลล์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงครึ่งปีหลังมั่นใจว่าจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรกอย่างแน่นอน เนื่องจากขณะนี้ผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้าเริ่มหันมาให้ความสนใจกับการทำตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้นโดยเฉพาะในไทยและประเทศเวียดนาม เนื่องจากเป็นประเทศที่เศรษฐกิจยังมีความแข็งแกร่ง ซึ่งแนวโน้มที่ดีดังกล่าวเห็นได้จากการที่ผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละรายให้ความสนใจเข้ามาดูงานที่แผนกเพาเวอร์มอลล์ที่ พารากอน ดีพาร์ทเมนท์สโตร์
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ายังเริ่มทยอยออกมาเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่เข้าทำตลาด เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคและกระตุ้นยอดขาย ซึ่งจากแนวโน้มที่ดีดังกล่าว ทำให้คาดการณ์กันว่าภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าครึ่งปีหลังน่าจะมีอัตราการเติบโตได้ประมาณ 5% เพิ่มขึ้นจากช่วง 4 เดือนแรกที่ภาพรวมตลาดเติบโตเพียง 1-2% เท่านั้น เนื่องจากสินค้าหลายกลุ่มมียอดขายลดลง ขณะที่บางกลุ่มมียอดขายเติบโตไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับยอดขายที่เติบโตลดลงในช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมา คือ ทีวีมียอดขายเติบโตติดลบที่ 10% ส่วนสินค้าที่เติบโตไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ คือ สมาร์ทโฟน ทั้งที่มีปัจจัยหนุนในด้านของ 4G ซึ่งน่าจะส่งผลให้ยอดขายสมาร์ทโฟนเติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเดิมทีคาดว่าจะเติบโต 20% แต่ความจริงเติบโตเพียง 4-5% เท่านั้น เนื่องจากผู้ประกอบการในตลาดไม่มีการออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายและเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาด จึงไม่สร้างแรงดึงดูดให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสมาร์ทโฟนมากขึ้นในช่วง 4 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา
ส่วนกลุ่มสินค้าที่ถือว่ามียอดขายเติบโตดีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา คือ กลุ่มสินค้าทำความเย็นไม่ว่าจะเป็นพัดลม เครื่องปรับอากาศ หรือตู้เย็น นอกจากนี้ในกลุ่มของเครื่องซักผ้าก็ถือเป็นอีกกลุ่มสินค้าที่ขายดี เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการทำตลาดสินค้าดังกล่าว ซึ่งในกลุ่มสินค้าทำความเย็นที่เติบโตสูงต่อเนื่อง เพราะปีนี้ประเทศไทยมีอากาศร้อนที่ยาวนาน ส่วนเครื่องซักผ้าที่ขายดีก็เพราะปีนี้ประเทศไทยมีฝนตกอย่างต่อเนื่องหลังจากก้าวเข้าสู่หน้าฝน
อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะได้รับอานิสงส์ดีจากปัจจัยบวกในหลายด้าน แต่ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในปีนี้ก็ยังคาดการณ์กันว่าไม่น่าจะเติบโตถึง 5% จากปี 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ามีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 227,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสมาร์ทโฟน 45% เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน 20% ทีวี 15% และสินค้าไอที 20%
นายจักรกฤษณ์ กล่าวว่า ในส่วนของภาพรวมของเพาเวอร์มอลล์ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมามีรายได้เติบโตที่ประมาณ 4% ถือเป็นอัตราการเติบโตที่น่าพอใจ เนื่องจากเติบโตสูงกว่าตลาดในทุกกลุ่มสินค้า เช่น ไม่ว่าจะเป็นทีวี เครื่องปรับอากาศ พัดลม ตู้เย็น หรือเครื่องซักผ้า ซึ่งแนวโน้มที่ดีดังกล่าวถือว่าเป็นการเติบโตต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปี 2558 ที่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการคืนภาษีกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภคของภาครัฐ
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายให้เติบโตตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ในช่วงสิ้นปี 2559 ซึ่งเพาเวอร์มอลล์ วางเป้าหมายไว้ว่าจะมียอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 7% ล่าสุดจึงได้มีการใช้งบ 50 ล้านบาท จัดงาน POWER MALL ELECTRONICA SHOWCASE (เพาเวอร์ มอลล์ อิเล็คทรอนิก้า โชว์เคส) ครั้งยิ่งใหญ่ใจกลางเมืองต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ด้วยการนำสินค้านวัตกรรมสุดล้ำ พร้อมด้วยสินค้าที่ใหม่ที่สุดในท้องตลาด กับโปรโมชั่นสุดคุ้มมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็นทีวี เครื่องเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้า สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือสินค้าไอทีระดับคุณภาพ
การจัดงานดังกล่าวปีนี้ เพาเวอร์มอลล์ ได้จัดขึ้นพร้อมกัน 2 สถานที่ คือ เพาเวอร์มอลล์ ที่พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ภายใต้รูปแบบแฟล็กชิพสโตร์ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายในย่านสยาม และเพาเวอร์มอลล์ ที่ ดิ เอ็มโพเรียม ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายในย่านสุขุมวิท ซึ่งจากการจัดงานพร้อมกัน 2 สถานที่ทำให้ปีนี้ เพาเวอร์มอลล์ มีพื้นที่ขายรวมกันประมาณ 8,000 ตร.ม.
นอกจากจะมีการจำหน่ายสินค้าพิเศษ และเปิดตัวสินค้าใหม่แล้ว ภายในงาน เพาเวอร์มอลล์ ยังได้รับความร่วมมือจากพันมิตรทางธุรกิจมาเปิดแฟลกชิฟสโตร์แสดงไฮไลท์ของสินค้า เช่น ซัมซุง จัดแสดงสินค้าภายใต้คอนเซ็ปต์ Samsung Open House ที่ปรับโฉมของหน้าร้านเพื่อดึงดูดลูกค้าและสร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจในการลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ส่วนแอลจี ก็เปิดตัวแฟล็กชิพสโตร์ ด้วยคอนเซ็ปต์ “World Class Shopping Phenomena” พร้อมกองทัพสินค้าเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และมีดีไซน์ที่โดดเด่น มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งในส่วนของสินค้า NEW ARRIVAL และ สินค้ายอดนิยม พร้อมโปรโมชั่นพิเศษมากมาย ที่จัดเตรียมให้กับลูกค้าของ POWER MALL ที่นี่ที่เดียว
ขณะที่ ไมโครซอฟท์ ก็เปิดโซน Windows Experience ที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจได้เรียนรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ๆใน Windows 10, Office 2016, Office 365 รวมไปถึงอุปกรณ์เสริมและบริการอื่นๆ สร้างประสบการณ์การซื้อสินค้าที่สมบูรณ์แบบที่สุดในทุกขั้นตอน เพิ่มความสะดวกสบายในการเลือกสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ด้านโซนี่ ก็มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ The True Beauty Of 4K HDR สัมผัสกับความสวยงามแห่งภาพของทีวี 4K HDR ภายใต้บรรยากาศมหานครแห่งแสงสีลาสเวกัสเพียงก้าวเข้ามาที่งาน POWER MALL ELECTRONICA SHOWCASE ที่แรกและที่เดียวในประเทศไทย และ อีเลคโทรลักซ์ เปิดตัวคอนเซ็ปต์ “Electrolux Inspiration” ที่นับว่าเป็นการปรับโฉมและเปิดตัวครั้งแรกในเซ้าท์อีสต์เอเชียรวมทั้งถือโอกาสนี้ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด คือ ตู้เย็นระดับพรีเมียมรุ่น Nutri Fresh™ Inverter เป็นครั้งแรก พร้อมโปรโมชั่นพิเศษภายในงาน
หลังจากออกมาทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพาเวอร์มอลล์ คาดว่าจะมีรายได้จากการจัดงานดังกล่าว 400 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมรายได้ของเพาเวอร์มอลล์ สิ้นปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ 7% หรือมีรายได้ 10,200 ล้านบาท ซึ่งเพาเวอร์มอลล์มั่นใจว่าจะทำได้ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน
ข่าวเด่น