ผู้ถือหุ้น PACE โหวตอนุมัติเพิ่มทุนในรูปแบบ PP โดยการออกหุ้นใหม่แลกกับที่ดินที่นิเซโกะ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เพื่อสร้างโครงการบ้านพักตากอากาศมูลค่าโครงการประมาณ 110-120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดเริ่มก่อสร้างปี 60 รับรู้รายได้ปี 62
นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เพซ ดีเวลลอปเมนท์ (PACE) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการพัฒนาโครงการบ้านพักตากอากาศที่นิเซโกะว่า บริษัทฯ มีแผนจะเซ็นสัญญาซื้อที่ดินกับเจ้าของที่ดินที่ฮอกไกโดเร็วๆ นี้ หลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2559 มีมติอนุมัติให้ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัด (PP) จำนวนไม่เกิน 176.35 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 3 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 529,050,000 บาท เพื่อเป็นค่าตอบแทนแทนการชำระด้วยเงินสดในการเข้าซื้อที่ดิน เนื้อที่รวมประมาณ 87 ไร่ 3 งาน 33.295 ตารางวา ในราคาไม่เกิน 529,050,000 บาท จาก Bell Investments Limited และ Asension Trading Limited
โดยที่ดินดังกล่าว ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นโครงการบ้านพักตากอากาศระดับไฮเอนด์สำหรับรองรับกลุ่มลูกค้าชาวไทย โดยมีแผนที่จะสร้างบ้านพักตากอากาศ มูลค่าหลังละประมาณ 1,500,000 – 4,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าโครงการ ประมาณ 110,000,000 - 120,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2560 และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2562
“แผนการเพิ่มทุนเพื่อซื้อที่ดินในครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทฯ ไม่ต้องเพิ่มภาระหนี้สินจากการกู้ยืมเงินและสามารถรักษาและเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน อีกทั้งเป็นการสนับสนุนแผนการดำเนินธุรกิจที่จะช่วยในการผลักดันรายได้ของ PACE ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน รวมถึงการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต” นายสรพจน์กล่าวย้ำ
นอกจากนั้น ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2559 ยังมีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ทำการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนที่ผู้ถือหุ้นแต่ละคนถืออยู่ (Rights Offering) จำนวนไม่เกิน 320,000,000 หุ้น และ/หรือให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 320,000,000 หุ้น อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้ง 2 วิธี รวมแล้วไม่เกินกว่า 320,000,000 หุ้น หรือ 10% ของทุนที่ชำระแล้ว ซึ่งเท่ากับ 326,167,820 หุ้น ภายในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีครั้งต่อไป โดยบริษัทฯ จะเสนอขายที่ราคาไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด (ราคาตลาด หมายถึง ราคาซื้อ-ขายถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยย้อนหลัง 7-15 วันทำการติดต่อกัน ก่อนวันกำหนดราคาเสนอขาย)
ข่าวเด่น