นายพิชา สิริโยธิน ผู้อำนวยการบริหารสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า เบี้ยประกันชีวิตรับรวม ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2559 มีทั้งสิ้น 226,428.32 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.52 จำแนกเป็นเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่จำนวน 65,132.03 ล้านบาท และเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไปจำนวน 161,296.29 ล้านบาท อัตราความคงอยู่ร้อยละ 83 โดยเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่ จะประกอบด้วย (1) เบี้ยประกันชีวิตปีแรก มีจำนวน 46,244.52 ล้านบาท (2) เบี้ยประกันชีวิตจ่ายครั้งเดียว จำนวน 18,887.51 ล้านบาท
ในการพิจารณาข้อมูลสถิติของธุรกิจประกันชีวิต สมาคมจะพิจารณาแยกเป็น 2 กรณี คือ ประการแรกจะพิจารณาถึงขนาดของบริษัท และประการที่สอง จะพิจารณาถึงการขยายงานของบริษัท จากสถิติเบี้ยประกันชีวิตรับ เดือนเมษายนของปี 2559 ซึ่งสมาคมประกันชีวิตไทยได้รวบรวมจากบริษัทประกันชีวิตทุกบริษัท มีดังนี้
1.เบี้ยประกันชีวิตรับรวม เดือนพฤษภาคม 2559 มีทั้งสิ้น 226,428.32 ล้านบาท โดยบริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันชีวิตรับรวมสูงสุด หรือมีขนาดใหญ่สูงสุด 7 อันดับแรก คือ
อันดับที่ 1 บจ.เอ.ไอ.เอ. จำนวน 45,432.22 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 20.06
อันดับที่ 2 บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต จำนวน 41,266.73 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 18.23
อันดับที่ 3 บมจ.ไทยประกันชีวิต จำนวน 29,972.26 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 13.24
อันดับที่ 4 บมจ.กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต จำนวน 24,084.62 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 10.64
อันดับที่ 5 บมจ.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำนวน 22,905.76 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 10.12
อันดับที่ 6 บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต จำนวน 17,883.74 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 7.90
อันดับที่ 7 บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำนวน 11,880.07 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 5.25
รวม 7 อันดับแรก ครองสัดส่วนการตลาดร้อยละ 85.44 และอีก 15 บริษัทที่เหลือครองสัดส่วนการตลาด ร้อยละ 14.56
2. เบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ เดือนพฤษภาคม 2559 มีทั้งสิ้น 65,132.03 ล้านบาท โดยบริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่สูงสุด หรือมีการขยายงานสูงสุด 7 อันดับแรก คือ
อันดับที่ 1 บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต จำนวน 14,600.15 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 22.42
อันดับที่ 2 บจ.เอ.ไอ.เอ. จำนวน 9,677.30 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 14.86
อันดับที่ 3 บมจ.ไทยประกันชีวิต จำนวน 7,889.94 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 12.11
อันดับที่ 4 บมจ.กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต จำนวน 6,896.51 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 10.59
อันดับที่ 5 บมจ.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำนวน 6,019.30 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 9.24
อันดับที่ 6 บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต จำนวน 3,514.58 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 5.40
อันดับที่ 7 บมจ.พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำนวน 3,035.15 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดร้อยละ 4.66
3. เบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไป เดือนพฤษภาคม 2559 มีทั้งสิ้น 161,296.29 ล้านบาท โดยมีอัตราความคงอยู่ร้อยละ 83 ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี แสดงให้เห็นถึงผู้เอาประกันชีวิตเห็นความสำคัญของการประกันชีวิตเป็นอย่างดี
ผู้อำนวยการบริหารสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ธุรกิจประกันชีวิตยังคงเติบโตต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการปรับกลยุทธ์ของบริษัทเกี่ยวกับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระยะสั้น หรือ Single Premium ให้มีความเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน อย่างไรก็ดี ภาคธุรกิจยังคงมีการพัฒนาศักยภาพการดำเนินงานในทุกๆ ด้าน เพื่อรองรับกับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์ความรู้เกี่ยวกับการประกันชีวิตให้ประชาชนทั่วไปได้ตระหนัก และเล็งเห็นประโยชน์ของการทำประกันชีวิตมากขึ้น สำหรับสมาคมประกันชีวิตไทยก็ได้ส่งเสริมการเผยแพร่การประกันชีวิตโดยการจัดงานวันประกันชีวิตแห่งชาติ (National Life Insurance Day) ร่วมกับสำนักงาน คปภ. และสมาคมตัวแทนและที่ปรึกษาการเงิน ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ในปีนี้นับเป็นครั้งที่ 17 โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30-31 กรกฎาคม 2559 ณ บริเวณชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต จังหวัดนนทบุรี ภายใต้แนวความคิด “Digital Life” จึงขอเชิญชวนประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงานวันประกันชีวิตแห่งชาติ ครั้งที่ 17 ซึ่งในงานจะมีการให้ความรู้ และวางแผนชีวิตทั้งในเรื่องความคุ้มครอง การออม ตลอดจนการวางแผนภาษี จากบริษัทประกันชีวิตต่างๆ
ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายข้อมูลเพื่อการพัฒนาธุรกิจ สมาคมประกันชีวิตไทย โทรศัพท์ 0-2679-8080 ต่อ 532 หรือ Download ข้อมูลสถิติได้จาก www.tlaa.org/2012/statistics.php
ข่าวเด่น