หลังจากเคเอฟซี เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เมื่อปี 2527 ที่ผ่านมา บริหารงานโดย บริษัท ยัม เรสเตอรองส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทเซ็นทรัล เรสเตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด ด้วยการเปิดให้บริการสาขาแรกที่ เซ็นทรัลลาดพร้าว ในปี พ.ศ.2527 จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เคเอฟซี ยังคงเดินหน้าขยายสาขาใหม่ ควบคู่ไปกับการพัฒนาเมนูอาหารใหม่ๆ เข้ามาทำให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่มเป้าหมาย
จากจำนวนสาขา ซึ่งปัจจุบันมีมากถึง 560 สาขาทั่วประเทศ และเมนูอาหารที่หลากหลาย ปัจจุบันเคเอฟซียังคงเป็น ผู้นำในตลาดไก่ทอดด้วยการครองส่วนแบ่งการตลาดไก่ทอดมากกว่า 50% และเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดไก่ทอด ล่าสุดได้ออกมาเสริมความแข็งแกร่งของแบรนด์ด้วยดีเอ็นเอ ‘KFC Always Original’ ในแนวคิด “เป็นตัวจริง...เป็นสิ่งที่ดีที่สุด” เพื่อสะท้อนถึงแก่นแท้ของความเป็นตัวตนอันเป็นแบบฉบับของเคเอฟซีผ่านความเป็นออริจินอลของผู้พันแซนเดอร์ส ผู้ก่อตั้งแบรนด์เคเอฟซีเจ้าของไก่ทอดสูตรต้นตำรับ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้กลุ่มเป้าหมาย
นายอัลฮูล ซัวฮาน รองประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด – เคเอฟซี บริษัท ยัม เรสเตอรองส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ด้วยเอกลักษณ์ที่ชัดเจนของผู้พันแซนเดอร์ส ผู้ก่อตั้งเคเอฟซีที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อในการคิดค้นไก่ทอดสูตรต้นตำรับแม้ชีวิตเต็มไปด้วยอุปสรรค ถ่ายทอดสู่ความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการพัฒนานวัตกรรมด้านอาหารและบริการที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย
การออกมาประกาศแบรนด์ดีเอ็นเอดังกล่าวในครั้งนี้ เคเอฟซี ต้องการเป็นมากกว่าแบรนด์ที่ผู้บริโภคยอมรับในรสชาติและคุณภาพของอาหาร ควบคู่ไปกับการมุ่งหวังที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้บริโภคยุคใหม่ได้แสดงความเป็นตัวของตัวเอง เคารพตัวเองและผู้อื่น กล้าคิด กล้าทำตามฝัน เพื่อให้เกิดทัศนคติในเชิงบวก เปิดโอกาสให้พวกเขาได้เปลี่ยนแปลงในเชิงพฤติกรรมที่จะช่วยส่งผลต่อการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน เพราะการเป็นตัวจริงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและเป็นพื้นฐานสู่ความสำเร็จในทุกๆ เรื่อง
นายอัลฮูล กล่าวต่อว่า ‘KFC Always Original’ คือ ภาพสะท้อนของความมีเอกลักษณ์ที่ยากจะเลียนแบบของเคเอฟซี ทั้งไก่ทอดสูตรต้นตำรับ 75 ปีของผู้พันแซนเดอร์ส ที่ต้องคัดสรรวัตถุดิบและไก่สดที่มีคุณภาพ ปราศจากฮอร์โมนเร่งโต เตรียมด้วยกรรมวิธีและขั้นตอนเฉพาะที่ปฎิบัติมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ครั้งที่ผู้พันคิดค้นสูตร ไก่ทอดเคเอฟซีทุกชิ้นปรุงและทอดสดใหม่ภายในร้าน และต้องถูกเสิร์ฟภายในระยะเวลาที่กำหนด
นอกจากนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกและตรงต่อความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ให้มีไลฟ์สไตล์ในแบบของตัวเอง เคเอฟซีจึงพัฒนาเพิ่มการให้บริการในรูปแบบที่หลากหลายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานภายในร้าน ซื้อกลับบ้าน เดลิเวอรี่ทั้งช่องทางออนไลน์และ 1150 รวมถึงติดต่อสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ ภายใต้ดีเอ็นเอ ‘KFC Always Original’ เคเอฟซี จะใช้กลยุทธ์มิวสิคแอนด์ป๊อปอาร์ต เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายอันได้แก่ กลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z ได้ดียิ่งขึ้น เพราะกลุ่มเป้าหมายเปิดรับดนตรีและศิลปะมากที่สุด โดยเคเอฟซี เชื่อมั่นว่า ดนตรีและศิลปะเป็นศาสตร์ที่ดีที่สุดศาสตร์หนึ่งของการแสดงออกถึงตัวตนของผู้สร้างงานชิ้นนั้นๆ และยังสามารถสร้างแรงบันดาลใจต่อให้กับผู้เสพได้อีกด้วย
ดังนั้น เคเอฟซี จึงได้มีการนำบทเพลงยอดนิยม “ตัวปลอม” มาเรียบเรียงดนตรีและขับร้องใหม่โดย ‘ลุลา’ และวง ‘โปเตโต้’ ซึ่งผลิตออกเป็นมิวสิควิดีโอ 2 เวอร์ชั่น ตามบุคลิกลักษณะของศิลปินผู้ถ่ายทอดเนื้อหา ซึ่งเน้นนำเสนอแง่คิดในความสำคัญของการเป็นตัวของตัวเองผ่านยูทูบและเฟซบุ๊ค KFC Thailand รวมถึงช่องทางออนไลน์อื่นๆ ผ่านพาร์ทเนอร์อย่างแกรมมี่และค่ายเพลงของทั้งสองศิลปิน
ขณะเดียวกัน ก็จะนำกลุ่มศิลปินวาดภาพประกอบชื่อดัง (Illustration) ได้แก่ จักรกฤษณ์ อนันตกุล, TUNA Dunn, ClubPopp, Benz Tanawat และ Jayoto มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่สื่อความเป็นออริจินอลภายในแบบฉบับของตนเอง เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ค KFC Thailand และสื่อประชาสัมพันธ์นอกบ้านภายในเดือนกรกฎาคมนี้ พร้อมเชิญชวนผู้บริโภคร่วมกิจกรรมแสดงความเป็นตัวจริง ภายใต้แนวคิดนี้ ผ่านแฮชแทค #KFCAlwaysOriginal ที่จะจัดขึ้นตลอดปี ซึ่งการจัดงานในรูปแบบดังกล่าว เคเอฟซี มั่นใจว่าจะสามารถนำแบรนด์ เคเอฟซี เข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภค Gen Z ได้เป็นอย่างดี
นายอัลฮูล กล่าวอีกว่า นับจากนี้บริษัทมีแผนที่จะปรับดีไซน์ การบริการ และบรรยากาศภายในร้านที่เน้นให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภครุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น เพื่อต้องการให้ลูกค้าได้มีไลฟ์สไตล์ในแบบของตัวเองขณะที่มาทานอาหารที่ร้าน โดยเริ่มที่เคเอฟซี สาขาฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ซึ่งมีการให้บริการไวไฟอีกด้วย ขณะเดียวกัน ก็มีแผนที่จะทยอยปรับโฉมสาขาอื่นๆ รวมถึงร้านที่สร้างใหม่จนครบทั่วประเทศ โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนก.ค.นี้เป็นต้นไป ด้วยการนำร่องบริการอินเทอร์เน็ตไวไฟฟรีในเคเอฟซีสาขาในกรุงเทพฯ และตัวเมืองขอนแก่นกว่า 100 สาขา ก่อนขยายบริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนก.ย.นี้
ด้านแผนการเปิดสาขาใหม่ร้านเคเอฟซีในปีนี้ บริษัท ยัมฯ มีแผนที่จะขยายเพิ่ม 2 เท่าตัวจากปี 2558 ที่เปิดไปประมาณ 20 สาขา เนื่องจากปีนี้ บริษัท ยัมฯ มีแผนที่จะเปิดตัวพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่อย่างเป็นทางการในเดือน ส.ค.นี้ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ จากปัจจุบันบริษัท ยัมฯ มีบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด เป็นพันธมิตรทางธุรกิจเพียง 1 รายเท่านั้น ซึ่งหลังจากเปิดตัวพันธมิตรรายใหม่อย่างเป็นทางการบริษัท ยัมฯ ก็จะเดินหน้าขยายร้านเคเอฟซีสาขาใหม่ทันที
ทั้งนี้ตั้งแต่เดือน พ.ค.2558- พ.ค.2559 ที่ผ่านมา เคเอฟซี ได้เปิดร้านใหม่ไปแล้วประมาณ 10 สาขา หรือจาก 550 สาขาเพิ่มเป็น 560 สาขา ซึ่งสาขาใหม่ที่เปิดให้บริการส่วนใหญ่เป็นร้านในรูปแบบไดร์ฟทรู โดยการเดินหน้าขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่องดังกล่าว ถือเป็นการเดินตามทางวิสัยทัศน์ที่เคยประกาศไว้ว่าปี 2020 หรือปี 2563 ว่าร้านเคเอฟซี ในประเทศไทยจะต้องมีจำนวนร้านที่เปิดให้บริการครบ 800 สาขา
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เคเอฟซี ยังคงเดินหน้าเปิดตัวสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการเปิดตัวเมนูใหม่เข้ามาทำตลาด โดยในแต่ละเดือน เคเอฟซี มีแผนจะจะนำเมนูใหม่เข้ามาทำตลาดประมาณ 2 เมนู เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับผู้บริโภค ขณะเดียวกันก็จะมุ่งเน้นการใช้กลยุทธ์ในด้านของเมนูอาหารที่คุ้มค่า คุ้มราคาเป็นกลยุทธ์หลักในการทำตลาด เพราะจากปัญหาเศรษฐกิจที่ซบเซา ทำให้ผู้บริโภคต้องการเมนูที่คุ้มค่า คุ้มราคาที่จ่าย ซึ่งจากกลยุทธ์ทางการตลาดดังกล่าวทำให้ภาพรวมร้านเคเอฟซีในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตสูงเป็นตัวเลข 2 หลัก สวนกระแสภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดรวมร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด
นายอัลฮูล กล่าวปิดท้ายว่า ภาพรวมตลาดอาหารฟาสต์ฟู้ดในปีนี้ยังคงมีการแข่งขันกันรุนแรง เช่นเดียวกับตลาดไก่ทอด เนื่องจากปัจจุบันมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเพิ่มเติม ซึ่งการมีจำนวนผู้เล่นเพิ่มขึ้นดังกล่าว แต่บริษัทก็ไม่มีความกังวลกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีจุดแข็งในด้านของสินค้าและบริการ รวมไปถึงการเป็นผู้นำตลาดไก่ทอดที่มีความแข็งแกร่ง โดยในส่วนของการเปิดสาขาใหม่บริษัทก็จะมองทุกโอกาสที่จะเข้าไปขยายธุรกิจ ซึ่งหากมีทำเลไหนที่มีศักยภาพบริษัทก็พร้อมที่จะนำร้านเคเอฟซีเข้าไปเปิดให้บริการทันทีไม่ว่าจะเป็นชุมชนขนาดใหญ่ หรือชุมชนขนาดเล็ก
ข่าวเด่น