ธนาคารกรุงไทย จัดงานสัมมนา คิดก่อน คิดต่าง สร้างความยั่งยืน เปิดมุมมองใหม่ทางธุรกิจให้ลูกค้า และผู้ประกอบการ SME โดยวิทยากรที่ประสบความสำเร็จ เป็นที่ยอมรับในวงการธุรกิจ เจาะลึกเคล็ดลับการสร้างธุรกิจให้แตกต่าง และเติบโตได้อย่างยั่งยืน ที่ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างเวลา 13.00 – 16.00 น. โดย นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวเปิดการสัมมนา
นายอุดมศักดิ์ โรจน์วิบูลย์ชัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจขนาดกลาง ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารยังคงเดินหน้าสนับสนุนธุรกิจ SME ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ทั้งการสนับสนุนสินเชื่อ ให้คำปรึกษาทางการเงิน รวมทั้งจัดอบรม เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการบริหารจัดการ การตลาด การนำเข้า-ส่งออก และอัตราแลกเปลี่ยน ในหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SME ไทยให้แข็งแกร่ง
สำหรับงานสัมมนา คิดก่อน คิดต่าง สร้างความยั่งยืน เป็นการเปิดมุมมองใหม่ในการดำเนินธุรกิจ และเป็นแนวทางการปรับตัวให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งเจาะลึกเคล็ดลับในการสร้างธุรกิจให้แตกต่าง เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยวิทยากรที่ประสบความสำเร็จ และได้รับการยอมรับในวงการธุรกิจ ประกอบด้วย นายไผท ผดุงถิ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิลค์ เอเชีย สตาร์ทอัพที่ใช้เทคโนโลยีช่วยยกระดับธุรกิจในอาเซียน นายจักรพงษ์ แอนดรูว์ จักราจุฑาธิบดิ์ CEO บริษัท JKN โกลบอล มีเดีย นักขาย Global Content มือทองของประเทศ ดร.สมประสงค์ ศรีชัย ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน บริษัท โอพีจีเทค ผู้ค้าน้ำมันพืชรายใหญ่ของประเทศ ที่พร้อมโกอินเตอร์ และ นายประจวบ เกียรติทยากร ประธานกรรมการ บริษัท เกียรติ ทยากร เมทัล พนักงานบริษัทที่พลิกชีวิตมาขายเหล็ก ด้วยกลยุทธ์ธุรกิจที่แตกต่างยากต่อการเลียนแบบ พร้อมแนวคิดในการวิเคราะห์ธุรกิจจาก นายดลชัย บุณยะรัตเวช ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์และสื่อสารการตลาด
นายอุดมศักดิ์ โรจน์วิบูลย์ชัย กล่าวตอนท้ายว่า ที่ผ่านมาธนาคารได้ร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจัดโครงการพัฒนาธุรกิจลูกค้า KTB-MMS รุ่นที่ 13 เพื่อเสริมความรู้และแนวทางการบริหารธุรกิจยุคใหม่ ตลอดจนสร้างเครือข่ายธุรกิจ รวมทั้งจับมือกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงอุตสาหกรรม จัดหลักสูตร SMEs Genius Exporter ให้กับผู้ประกอบการส่งออก พร้อมแข่งขันและสามารถขยายตลาดไปยังต่างประเทศได้ทั่วโลก
สำหรับงานสัมมนา "คิดก่อน คิดต่าง สร้างความยั่งยืน" เป็นการเปิดมุมมองใหม่ในการดำเนินธุรกิจ และเป็นแนวทางการปรับตัวให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งเจาะลึกเคล็ดลับในการสร้างธุรกิจให้แตกต่าง เพื่อให้ดำเนินธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน
นำโดยนายไผท ผดุงถิ่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิลค์ เอเชีย กล่าวว่า การสร้างธุรกิจได้ดำรงตามปรัชญาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ คือ เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา เพราะปัจจุบันเชื่อว่าคู่แข่งไม่ได้อยู่ที่บริเวณรอบข้างบริษัท หรือร้านค้าเท่านั้น แต่อยู่ได้ทุกๆที่ทั่วโลก และหากเราลงมือก่อนหากธุรกิจนั้นเสี่ยงและล้มลงในที่สุด อย่างน้อยเราจะได้เริ่มใหม่ก่อนคนอื่นๆ สิ่งนี้คือโอกาสที่คนเริ่มลงมือก่อนจะได้เสมอ ในเรื่องของธุรกิจที่แตกต่างคือ การทำธุรกิจแบบไม่มีต้นแบบใดใด เพียงแค่ศึกษาว่าอะไรกำลังจะมา มองแนวโน้มว่าสิ่งไหนที่จะเป็นที่ต้องการในอนาคต และสิ่งนั้นจะนำมาทำธุรกิจให้เหมาะกับเราอย่างไร และยังคิดอยู่เสมอว่า ไอเดียไม่ใช่สิ่งใหม่ แต่การเริ่มลงมือทำนั้นคือสิ่งใหม่ที่แท้จริง
นายจักรพงษ์ แอนดรูว์ จักราจุฑาธิบดิ์ CEO บริษัท JKN โกลบอล มีเดีย กล่าวว่า ธุรกิจจะเกิดขึ้นได้ มักเกิดจากการอ่าน หรือการฟัง และตั้งคำถาม ศึกษาทุกอย่างรอบตัวให้ลึกซึ้ง หาข้อมูล และผลิตธุรกิจนั้นขึ้นมา โดยความแตกต่างของธุรกิจอื่นกับ JKN คือ การที่เราเอาตุ่มไปตั้งเพื่อเก็บน้ำก่อนที่ฝนจะตก แต่ของบริษัทอื่นๆจะเอาตุ่มมาเก็บน้ำขณะที่ฝนตก ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้มันต่างกัน เราจึงสามารถทำธุรกิจที่มีเครือข่ายทุกด้าน และครอบคลุมทุกอย่าง
ดร.สมประสงค์ ศรีชัย ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน บริษัท โอพีจีเทค ผู้ค้าน้ำมันพืชรายใหญ่ของประเทศ กล่าวว่า ธุรกิจของผมเกิดจากการที่ผมมองลูกค้าว่าต้องการอะไร ในขณะเดียวกันผมมองว่าคู่ค้าที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเราต้องการอะไรเช่นกัน รวมถึงมองรอบๆตัวว่าอะไรเกี่ยวข้องบ้างและเขาเหล่านั้นต้องการอะไร หรือเกิดปัญหาอะไร นั่นจึงทำให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปได้ด้วยดี
นายประจวบ เกียรติทยากร ประธานกรรมการ บริษัท เกียรติ ทยากร เมทัล กล่าวว่า ควรมองในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น แล้วนำมาปรับใช้กับธุรกิจของเรา รวมถึงคิดต่อยอดว่าทำอย่างไรจะให้คนอื่นๆเชื่อ และยอมซื้อแบบแผนของเราเอาไปใช้ในธุรกิจของเขา
นายดลชัย บุณยะรัตเวช ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์และสื่อสารการตลาด ได้กล่าวสรุปรวมของการเสวนาในครั้งนี้ว่า ทุกๆธุรกิจเอาแต่มอง หรือโฟกัสแต่ลูกค้า แต่เราควรคำนึงถึงว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเราก็สำคัญ การหาวิธีการสร้าง Business model ให้กับทั้งคู่ และสิ่งสำคัญสุดท้ายที่ควรคำนึงถึงอย่างมากคือ คนในองค์กร เราควรรู้ว่าเขาต้องการอะไร และเขาโปร่งใสในการทำงานให้กับธุรกิจเราหรือไม่
ด้าน นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เผยว่า ในงานสัมมนาครั้งนี้ก็เป็นการเพิ่มเติมความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการ SME ให้คิดแตกต่าง และต่อยอด ทางธนาคารมุ่งเน้น SME ขนาดกลางยอดขายไม่เกิน 500 ล้านบาทลงมา โดยทางธนาคารเองมี SME ประมาณ 20% และคาดว่าจะเป็น 50% ภายใน 3 ปี
พอร์ต SME รายย่อยประมาณ 40% คอร์ปอร์เรท 30% SME 20% และภาครัฐ 10% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นจากเดิมวงเงินในการขยายSME ขนาดกลาง ตั้งแต่ 1ล้าน จนถึง 100ล้าน และครึ่งปีหลังวงเงินก็ยังคงไม่จำกัด SME ขนาดกลาง เติบโตค่อนข้างดีประมาณ 30% และสินเชื่อในปีนี้ตั้งเป้าให้เป็น 1 เท่าของ GDP สินเชื่อรวม โดยรวมสินเชื่อยังไม่ได้ตามเป้า(ตั้งเป้าไว้ประมาณ 3%) และทางธนาคารเริ่มเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อกับลูกค้ารายย่อย เนื่องจากปีที่ผ่านมา NPLs ของลูกค้ารายย่อยปรับสูงขึ้นและทางธนาคารกรุงไทยได้ปรับปรุงระบบการทำงานทั้งหมดทั้งในองค์กรเอง รวมถึงด้านเน็ตเวิร์คด้วยเพื่อให้การทำงานได้สะดวก รวดเร็ว และเกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด
ข่าวเด่น