การค้า-อุตสาหกรรม
SMT ครึ่งปีพลิกมีกำไรกว่า 70 ลบ.มั่นใจล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยง


 


SMT ฟอร์มเจ๋งครึ่งปีพลิกมีกำไรกว่า 70 ลบ. พุ่งกว่า 7,000 %มั่นใจผลงานทั้งปีเป็นไปตามเป้าหมาย-ล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยง

SMT โชว์ผลงาน Q2/59 ออกมาสวย สามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ถึง 32.40 ล้านบาท กำไรพุ่ง 3,211% มีรายได้ 935.83 ล้านบาท ขณะที่ผลงานครึ่งปีแรกสามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 70.42  ล้านบาท หรือพลิกมีกำไรเพิ่มขึ้น 7,002.68% ผลจากการที่บริษัทฯได้ใช้กลยุทธ์หมุนกำลังการผลิตออกจากสินค้าประเภท
มาร์จิ้นต่ำ อย่าง MMA มาผลิตสินค้าประเภท high value added ดันมาร์จิ้นเพิ่ม “พีระพล วิไลวงศ์เสถียร” ซีอีโอ มั่นใจผลประกอบการครึ่งหลังปี 59  คาดยังคงเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก มั่นใจปีนี้ล้างขาดทุนสะสม 60 ล้านบาท ได้หมดเกลี้ยง
 
นายพีระพล วิไลวงศ์เสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SMT เปิดเผยถึงผลประกอบการของบริษัทฯในไตรมาส 2/59 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 ว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 32.40 ล้านบาท หรือพลิกมีกำไรเพิ่มขึ้น 3,211% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิ 14.46 ล้านบาท เนื่องจากในงบการเงินรวมไตรมาส 2/59 บริษัทฯมีรายรับจากการขายสินค้าและบริการจำนวน 935.83 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 833.03 ล้านบาท หรือลดลง 47.09% ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของสินค้าในกลุ่ม Hard Disk Drive เนื่องจากการหดตัวของตลาด Hard Disk Drive และการแข่งขันด้านราคาที่สูงขึ้น 

แต่ในขณะเดียวกัน บริษัทฯมีรายได้จากสินค้าและบริการในธุรกิจการประกอบและทดสอบแผงวงจรไฟฟ้ารวม (IC Packaging) เพิ่มมากขึ้นเป็น 357 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปี 2558 ที่มีรายได้ 227 ล้านบาท คิดเป็นรายได้เพิ่มขึ้น 130 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 57.27%  ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าในกลุ่ม Hard Disk Drive ทำให้บริษัทฯมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น เมื่อรวมกับมาตรการลดต้นทุนของบริษัทฯที่มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในไตรมาส 2/2559 บริษัทฯมีอัตรากำไรขั้นต้น 85.33 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นเพียง 33.73 ล้านบาท
“รายได้และกำไรที่ออกมาสวย เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/58 เนื่องจากบริษัทฯได้ใช้กลยุทธ์หมุนกำลังการผลิตออกจากสินค้าประเภทมาร์จิ้นต่ำ อย่าง MMA มาผลิตสินค้าประเภท high value added กลยุทธ์ดังกล่าวนี้ส่งผลดีกับบริษัทฯ คือ การประหยัดเงินลงทุนในสายการผลิตสินค้ามาร์จิ้นสูง ส่งผลให้ต้นทุนค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้นน้อยมาก และสามารถหมุนพนักงานเดิมออกมาทำงานที่สร้างผลกำไรที่ดีให้กับบริษัทฯ โดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยจะเป็นยอดขายของสินค้าใหม่ประมาณ 1,628 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะป็นผลิตภัณฑ์เดิม ประกอบด้วย IC Packaging (แผงวงจรไฟฟ้ารวม) และ MMA” นายพีระพล กล่าว 
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯในงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ (1 มกราคม-สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559) บริษัทฯสามารถ พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 70.42 ล้านบาท หรือพลิกมีกำไรเพิ่มขึ้น 7,002.68% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิ 19.66 ล้านบาท ถือว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯ สามารถพลิกกลับมามีกำไรได้  โดยบริษัทฯมีรายรับจากการขายสินค้าและบริการจำนวน 2,161.46 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 2,091.79 ล้านบาท หรือลดลง 48.18%
“ทั้งนี้บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ประมาณ  60 ล้านบาท ได้ภายในปี 59 นี้ โดยจะนำกำไรจากการดำเนินงานมาใช้ล้างขาดทุนสะสม และเชื่อว่าในปีนี้ จะกลับมาจ่ายปันผลได้อีกครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณานำเสนอขออนุมัติต่อมติบอร์ดบริษัทด้วย และปีนี้เรามั่นใจจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ เพราะปีนี้เรามีตัว New Product ที่เข้ามาเสริม ทำให้มาร์จิ้นสูง ส่งผลต่อเนื่องมายังกำไรสุทธิ SMT เริ่มเห็นตั้งแต่ไตรมาสแรกว่ากำไรดีขึ้น จากงาน New Product” นายพีระพล กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง 2559  คาดว่ายังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยปัจจัยหลักมาจากการที่บริษัทฯได้ใช้กลยุทธ์หมุนกำลังการผลิตออกจากสินค้าประเภทมาร์จิ้นต่ำ อย่าง MMA มาผลิตสินค้าประเภท high value added เช่น IC Packaging, Wafer dicing, Captive และ Specialty ซึ่งในปีที่ผ่านมายอดการผลิตสินค้ากลุ่มดังกล่าวนี้เพิ่มขึ้นมาราว 120 %  ทำให้มีสัดส่วนประมาณ 21% ของรายได้ เทียบกับปี 2557 ที่มีสัดส่วนเพียง 8% ของรายได้ ในขณะที่สินค้ามาร์จิ้นต่ำอย่าง MMA ซึ่งเดิมเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ มีสัดส่วนลดลงจาก 92% ในปี 2557 และลดลงเหลือ 79% ในปี 2558 และคาดว่าในปี 2559 จะลดลงเหลือ 61%




บันทึกโดย : Adminวันที่ : 18 ส.ค. 2559 เวลา : 14:03:45
18-10-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ October 18, 2024, 3:53 pm