ตลาดส่งออก CLMV ซึ่งประกอบด้วย ประเทศกัมพูชา ,สปป.ลาว ,เมียนมา และเวียดนาม จะเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของไทยในปี2560 ซึ่งนางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ก็ยอมรับว่า กรมฯ ได้ปรับแผนการผลักดันการส่งออกสำหรับปีงบ ประมาณ 2560 ใหม่ โดยจะเน้นการทำงานตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ยุทธศาสตร์ของรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเบื้องต้นจะมุ่งเน้นการทำแผนเจาะตลาดอาเซียนเป็นพิเศษ และลงลึกไปยังตลาด CLMV รวมถึงการขยายการส่งออกสินค้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่ สินค้าบริการ และการออกไปลงทุนต่างประเทศ
ทั้งนี้ งบประมาณปี 2560 กรมฯ ได้มาประมาณ 2,000 ล้านบาท แต่ครึ่งหนึ่งเป็นงบเงินเดือน ค่าจ้าง เหลืออยู่ 1,000 ล้านบาท ที่จะใช้ผลักดันการส่งออก แต่ยังมีเงินกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศอีก 500 ล้านบาท รวมเป็น 1,500 ล้านบาท ที่จะใช้ได้ โดยกรมฯ ได้แบ่งเป็นงบ โดยจะลงตลาดอาเซียนมากที่สุด 25%, เอเชียตะวันออก โอเชียเนีย ซึ่งมีจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวันอีก 25%, ยุโรปตะวันตก 20%, อเมริกา 10%, เอเชียใต้ มีอินเดีย 5%, แอฟริกา 5%, ตะวันออกกลาง 5% และยุโรปตะวันออก 5%
โดยแผนการเจาะตลาด ได้แก่ ตลาดอาเซียน กรมฯ จะเน้นการผลักดันการส่งออกสินค้าที่เป็นแบรนด์ไทย เพราะสินค้าไทยได้รับความนิยมในตลาดอาเซียน และจะเน้นการส่งเสริมธุรกิจบริการเข้าไปหารายได้ในตลาดอาเซียน โดยเฉพาะธุรกิจเสริมความงาม บันเทิง ลอจิสติกส์ การก่อสร้าง เป็นต้น ซึ่งรวมถึงการผลักดันให้คนไทยเข้าไปลงทุน ที่สำคัญ จะเน้นการสร้างเครือข่าย เพื่อสร้างคอนเนกชั่นที่จะนำไปสู่ความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนในอนาคต
ซึ่งในการประชุมทูตพาณิชย์ครั้งนี้ กรมฯ ยังได้เชิญภาคเอกชนจาก 3 สภา ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย รวมถึงสมาคมธนาคารไทย มาร่วมประชุมกับทูตพาณิชย์ เพื่อให้มาร่วมพิจารณาแผนการผลักดันการส่งออก และจะได้รับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนว่าต้องการให้เพิ่มเติมอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ก่อนที่จะนำไปจัดทำแผนผลักดันการส่งออกสำหรับปี 2560 ต่อไป
นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้แจ้งความคืบหน้าการจ้างผู้แทนด้านการตลาด (Marketing representative) ในประเทศเป้าหมายที่เป็นตลาดส่งออกของไทยให้กับภาคเอกชนได้รับทราบ โดยเน้นตลาดที่ไม่มีทูตพาณิชย์ ซึ่งเบื้องต้นจะผลักดันให้มีที่เมือง กัลกัตตา อินเดีย และที่สวีเดน เพราะเป็นตลาดที่มีโอกาสสำหรับสินค้าและบริการของไทย โดยในอนาคต หากตลาดเติบโตสูง ก็จะพิจารณาส่งทูตพาณิชย์ไปประจำ
ซึ่งทิศทางนโยบายดังกล่าวสอดคล้องกับมุมมองของศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics ที่คาดว่า การส่งออกไทยในครึ่งปีหลังจะชะลอตัว 1.9% ทำให้ทั้งปี 2559 นี้จะหดตัวลง1.8% เนื่องจากในครึ่งหลังของปีนี้แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่คาดว่ากระเตื้องขึ้นได้อย่างช้าๆ บวกกับปัจจัยเสี่ยงของผู้ประกอบการที่ถูกกระทบในเรื่องการกีดกันการค้า ภาวะการแข่งขันสูงในตลาดโลก และปัญหาโครงสร้างการผลิตของไทยที่ปรับตัวไม่ทันการเปลี่ยนแปลงของตลาดโลก
แต่ถึงแม้ภาพรวมการส่งออกในครึ่งปีหลังจะยังไม่สดใส แต่พบว่า ยังมีตลาดส่งออกที่เติบโตได้ดี คือ ตลาดสหรัฐฯ และตลาด CLMV โดยการส่งออกไปสหรัฐอเมริกา คาดว่าปีนี้จะเพิ่มขึ้นได้ 1.9% จากสินค้าหมวดชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ (เพิ่มขึ้น 4.1% ) จากอุปสงค์ในสหรัฐที่ยังมีสูง ในขณะที่การส่งออกไปตลาด CLMV คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 6.2% จากสินค้าในหมวด อาหารเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภคประจำวัน น้ำมันเชื้อเพลิง (เพิ่มขึ้น 7.8% )
ข่าวเด่น