'ไนท์แฟรงค์' ฟันธงกลุ่มนักลงทุนชาวจีน สิงคโปร์ และฮ่องกง เล็งซื้อที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ในลอนดอน หลังรับผลดีจากการลงประชามติออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร
นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลกระทบต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากการลงประชามติออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรนั้น น่าจะเป็นอีกหนึ่งโอกาสทองสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่สนใจทำการลงทุนในลอนดอนหรือในสหราชอาณาจักร เพราะนักลงทุนจะได้ประโยชน์จากการลดลงของค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิงที่ปรับลงถึง 12-13% และมีความเป็นไปได้ที่ราคาจะลดลง หรืออาจมีอำนาจการต่อรองในการซื้อขายมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มด้านราคาในช่วงนี้ อาจยังไม่แสดงการปรับตัวลดลงมากนัก ซึ่งอาจจะรอดูสถานการณ์ก่อน โดยจะมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วง 3 - 6 เดือนข้างหน้า สำหรับในระยะยาว ตลาดที่อยู่อาศัยในลอนดอนยังคงมีปริมาณความต้องการสูง เนื่องด้วยปริมาณอุปทานอยู่ในระดับต่ำ เมืองลอนดอนยังคงเป็นเมืองศูนย์กลางที่สำคัญด้านการศึกษานานาชาติ สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ และยังเป็นเมืองที่ปลอดภัยและมีชีวิตชีวาต่อการอยู่อาศัย
สำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ มีความสำคัญต่อภาคธุรกิจและเศรษฐกิจ ตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ดูเหมือนว่าจะได้รับผลกระทบเชิงลบจากการลงประชามติออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) แต่ยังไม่อาจที่จะสรุปผลได้ในช่วงนี้ เนื่องจากต้องรอฟังผลการเจรจาข้อตกลงระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปต่อไปซึ่งจะเกิดขึ้นในปีหน้า
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์มีแนวโน้มไปทางเชิงลบ ดังนั้น จึงเป็นช่วงเวลาและโอกาสที่นักลงทุนควรเริ่มต้นศึกษาเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์และตลาดที่มีศักยภาพดี เพื่อลดเวลาหากเมื่อถึงเวลาตัดสินใจที่จะลงทุนซึ่งจะสังเกตเห็นได้ว่า ตลาดโรงแรมจะยังคงได้อานิสงค์จากปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนเนื่องจากค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิงลดลง
ด้านนายนิโคลัส โฮลท์ หัวหน้าฝ่ายวิจัย ไนท์แฟรงค์ เอเชียแปซิฟิค กล่าวว่า สหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์จากเอเชียให้ความสนใจมานาน เพราะเป็นประเทศที่มีสภาพคล่อง การปกครองที่มั่นคง กฏหมายข้อบังคับด้านอสังหาริมทรัย์ที่โปร่งใสและชัดเจน กลุ่มนักลงทุนจากประเทศจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ทั้งหมดเลือกที่จะทำการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักร
การตัดสินใจถอนตัวของสหราชอาณาจักร สำหรับนักลงทุนเอเชียที่ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษอยู่แล้ว ค่าเงินปอนด์ที่อ่อนตัวลง จะส่งผลกระทบด้านผลตอบแทนที่จะได้รับและการขายขาดของทรัพย์สิน แม้ว่าจะมีแนวโน้มความผันผวนในตลาดมากกว่าปกติ แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ที่จะเลือกลงทุนแบบระยะยาว ดังนั้น นักลงทุนเหล่านั้น จะยังเก็บอสังหาริมทรัพย์ไว้ โดยหวังว่าความไม่แน่นอนในระยะสั้นจะบรรเทาตัวลงเมื่อบทบาทของสหราชอาณาจักรต่อยุโรปมีความชัดเจนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผลการลงมติอาจเพิ่มโอกาสการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เหมือนกับการที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลงตั้งแต่ปี 2552 ได้เพิ่มปริมาณความสนใจของนักลงทุนเอเชีย ซึ่งกลุ่มนักลงทุนจากเอเชียนี้หลายเดือนที่ผ่านมาที่ยังคงรอดูท่าทีรอให้การลงประชามติเสร็จสิ้น และในตอนนี้นักลงทุนกลุ่มนี้ก็มีอำนาจซื้อขายมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนชาวจีน สิงคโปร์ และฮ่องกงกำลังมองหาอสังหาฯที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ในลอนดอน นักลงทุนกลุ่มนี้จะคอยติดตามตลาดอย่างรอบคอบและคอยมองหาโอกาสที่จะเพิ่มการลงทุนในช่วงสัปดาห์หรือเดือนหน้า
ขณะที่ เกรน กิลมอร์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยอสังหาฯที่อยู่อาศํยในสหราชอาณาจักร ไนท์แฟรงค์ ประเทศอังกฤษ กล่าวว่า การลงมติถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดที่อยู่อาศัย โดยผลกระทบในระยะกลาง-ยาวจะขึ้นอยู่กับการเจรจาถอนตัวของสหราชอาณาจักรฯ ซึ่งในระยะสั้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงไม่แน่นอน โดยเฉพาะในด้านการซื้อขาย ซึ่งปริมาณกิจกรรมการซื้อขายจะเป็นตัวกำหนดด้านปริมาณธุรกรรมและราคาขาย อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนนี้อาจส่งผลให้ราคาที่อยู่อาศัยในตลาดลดต่ำลงอีก และจำนวนอุปทานที่มีจำกัดจะเป็นตัวกำหนดราคาต่ำสุดให้กับตลาด
ในระยะยาวการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้ออาจส่งผลให้อัตราพื้นฐานปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งแปลว่า อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะถูกปรับเพิ่มขึ้นตามไป สถานการณ์นี้จะสร้างความท้าทายต่อผู้กู้ที่อยู่ภายใต้ข้อเสนอตามอัตราแปรผัน หากราคาที่อยู่อาศัยอ่อนตัวลงจะเป็นแรงกดดันต่อผู้กู้ที่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน”
.jpg)
.jpg)
ข่าวเด่น