การตลาด
สกู๊ป...บิ๊กคาเมร่าเร่งศึกษาธุรกิจใหม่เสริมแกร่งธุรกิจขายกล้อง


 


จากปัจจัยลบเศรษฐกิจ การเมืองที่เกิดขึ้น  ประกอบกับกลุ่มสินค้าสมาร์ทโฟนมีการพัฒนาฟังก์ชั่นในการถ่ายภาพให้มีความคมชัดมากขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมตลาดกล้องถ่ายภาพเริ่มมีอัตราการเติบโตที่ถดถอยมาโดยตลอดระยะเวลา 7-8 ปีที่ผ่านมา  ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการต้องออกมาปรับตัว ด้วยการปรับฟังก์ชั่นในการถ่ายภาพและราคาให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น  เช่นเดียวกับกลุ่มของตัวแทนจำหน่ายที่ต้องออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายมากขึ้น เพื่อกระตุ้นความสนใจและกำลังซื้อของผู้บริโภค
ขณะเดียวกัน ก็มีผู้ประกอบการบางส่วนหันมาแตกไลน์ธุรกิจอื่นเพื่อต่อยอดรายได้และเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ   เช่นเดียวกับบริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่เริ่มออกมาแตกไลน์ธุรกิจใหม่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา  เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก  ซึ่งเน้นจำหน่ายสินค้ากล้องถ่ายภาพ  ขณะเดียวกันยังถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจกล้องถ่ายภาพ
สำหรับธุรกิจใหม่ที่บริษัท บิ๊ก คาเมร่าฯ อยู่ระหว่างการศึกษาและทดลองทำตลาด ประกอบด้วย 2 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ  ซึ่งใช้ชื่อว่า บิ๊ก โมบายล์  (Big Mobile) ขณะนี้กำลังทดลองทำตลาดอยู่ในต่างจังหวัด  โดยปัจจุบันมีจำนวนสาขาที่เปิดให้บริการทั้งหมด   25 สาขา แบ่งเป็นในต่างจังหวัด 23 สาขา และกรุงเทพฯ 2 สาขา  ส่วนอีกหนึ่งธุรกิจที่อยู่ระหว่างการศึกษาและทดลองการทำตลาดเช่นกัน คือ ร้านวันเดอร์ โฟโต้ ช็อป บาย บิ๊กคาเมร่า (Wonder Photoshop by Big Camera) จะเป็นร้านบริการปริ้นภาพภ่ายแบบครบวงจร  ปัจจุบันมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการ 1 สาขา ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
 

นายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า  ในส่วนของธุรกิจร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ บิ๊กโมบายล์  และร้านปริ้นภาพถ่ายแบบครบวงจร ขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มเติม  เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการทดลองตลาด  แต่ในอนาคคตอันใกล้นี้ บริษัทมีแผนที่จะขยายสาขาของ 2 ธุรกิจอย่างแน่นอน  โดยเฉพาะธุรกิจร้านบิ๊ก โมบายล์  ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพ  เนื่องจากพฤติกรรมของคนไทยในปัจจุบันมีการเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือบ่อย

ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจของร้านบิ๊กคาเมร่า  ก็ยังคงเดินหน้าเปิดร้านใหม่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน  โดยในส่วนของปีนี้มีแผนที่จะเปิดร้านใหม่ทั้งหมด 10 สาขา  ภายใต้งบลงทุนรวมประมาณ 50 ล้านบาท  ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ได้เปิดร้านใหม่ไปแล้ว 7 สาขา  เหลืออีก 3 สาขาคาดว่าจะทยอยเปิดให้บริการได้ครบภายในสิ้นปีนี้  

อย่างไรก็ดี  นอกจากจะมีการเปิดร้านบิ๊กคาเมร่าสาขาใหม่อย่างต่อเนื่องแล้ว  ในส่วนของร้านเก่าบริษัท บิ๊ก คาเมร่าฯ ก็มีแผนที่จะปรับปรุงให้มีความสวยงามเช่นกัน  เพราะภาพลักษณ์ที่สวยงามสามารถกระตุ้นความสนใจให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการได้เป็นอย่างดี ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาทางบริษัท บิ๊ก คาเมร่าฯ ได้ทยอยปรับปรุงสาขาเก่าไปหลายสาขาแล้วด้วยกัน

 
ในด้านของแผนการทำตลาด  บริษัท บิ๊ก คาเมร่าฯ ก็เดินหน้าทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องเช่นกัน  เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค  โดยล่าสุดได้มีการจัดงาน มหกรรมกล้องดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดแห่งปี “บิ๊ก คาเมร่า บิ๊ก โปรเดย์ ครั้งที่ 10 (BIG CAMERA BIG PRO DAYS 2016)” ขึ้นระหว่างวันที่  30 ส.ค. - 4 ก.ย. 2559  นี้ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์   ซึ่งในส่วนของปีนี้ได้มีการใช้พื้นที่การจัดงานมากที่สุดกว่า 1,000 ตรม. ณ ลานกิจกรรมชั้น 1 ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการตั้งแต่ โซนอีเดน 1, โซนอีเดน 2, โซนเอเทรียม และโซนแดซเซิล  เพื่อใช้จัดแสดงและจัดจำหน่ายกล้องดิจิตอลและอุปกรณ์การถ่าย ภาพจากแบรนด์ชั้นนำกว่า 20 แบรนด์  เช่น  Canon, Nikon, Fujifilm, Olympus, Sony, Panasonic, Exilim, OTheta, GoPro, Tamron, Sigma, Tokina, Oska, Fotopro, Nissin, Manfrotto, Pentax, Hoya, Samyang, SanDisk, Toshiba และ PenDrive  เป็นต้น


นอกจากนี้  ภายในงานมีการโปรโมชั่นได้แรงที่สุดพร้อมร่วมมือกับธนาคารชั้นนำมอบสิทธิพิเศษ ผู้ถือบัตรเครดิตและบัตรผ่อนชำระสูงสุด 33% เมื่อซื้อกล้องดิจิตอลและเลนส์ เลือกผ่อนสบายๆ ในอัตราดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 24 เดือน และร่วมลุ้นคอร์สอบรมเรียนถ่ายภาพ มูลค่า 10,000บาท ฟรี พิเศษสุดสำหรับลูกค้าเซ็นทรัลเวิลด์ที่ถือบัตร The One card เมื่อช้อปภายในงานครบ 20,000 บาท สามารถแลกรับ Photo Book Limited Edition BIG PRO DAYS มูลค่ากว่า 999 บาท


นายธนสิทธิ์  กล่าวว่า การจัดงาน บิ๊ก โปรเดย์  ถือเป็นงานที่จัดขึ้นมาตลอด  ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีที่ 10 ของการจัดงานมหกรรมกล้องดิจิตอลที่รวบรวมทั้งแบรนด์ผู้ผลิตกล้องไว้มากที่สุด และมักจะมีการจัดจำหน่ายกล้องรุ่นใหม่ๆ ภายในงาน  พร้อมโปรโมชั่นเด็ดๆ อยู่เสมอ  ดังนั้นการจัดงานดังกล่าวจึงถือเป็นอีเว้นท์กล้องที่มีผู้ให้ความสนใจ และรอคอยเข้าร่วมงานมากที่สุด  โดยในส่วนของการจัดงานในปีนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 150,000 คน

หลังจากเดินหน้าขยายธุรกิจและทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง บริษัท บิ๊กคาเมร่าฯ มั่นใจว่าสิ้นปีจะมีรายได้เติบโตตรงตามเป้าหมายที่วางไว้  20%  จากปี 2558 ที่มียอดขายอยู่ที่ประมาณ  4,700 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนยอดขายมาจากกลุ่มกล้อง 95%, กลุ่มมือถือ 4% และธุรกิจการพิมพ์ภาพครบวงจร  1%  เนื่องจากภาพรวมยอดขายในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาสามารถมีอัตราการเติบโตได้แล้ว 20%  ซึ่งจากแนวโน้มที่ดีดังกล่าวบริษัท บิ๊ก คาเมร่าฯ มั่นใจว่า   3 ปีนับจากนี้จะมีรายได้ปีละไม่ต่ำกว่า  10-15%  อย่างแน่นอน

 
 
ปัจจัยที่ทำให้บริษัท บิ๊ก คาเมร่าฯ มั่นใจว่า ในอีก 3 ปีนับจากนี้จะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15% เพราะปัจจุบันแนวโน้มตลาดกล้องเริ่มมีการฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น  ภายหลังจากคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจกล้องถ่ายภาพในส่วนของกล้องมิร์เรอร์เลสมากขึ้น  เนื่องจากมีน้ำหนักเบา  และถ่ายภาพคมชัดใกล้เคียงกับกล้อง DSLR  ซึ่งจะมีน้ำหนักมากกว่าและราคาสูงกว่า

จากแนวโน้มที่ดีดังกล่าว  ส่งผลให้ภาพรวมตลาดกล้องมิร์เรอร์เลส ในปีที่ผ่านมาและในปีนี้มีอัตราการเติบโตสูงกว่า 100%  และทำให้ภาพรวมของตลาดกล้องถ่ายภาพกลับมาเติบโตเป็นบวกได้อีกครั้ง  แม้ว่าจะมีในส่วนของกล้องคอมแพ็คและกล้อง DSLR มาฉุดให้ภาพรวมตลาดไม่เติบโตอย่างที่ควรจะเป็นไปบ้าง  เนื่องจากปัจจุบันตลาดกล้องคอมแพ็คยังอยู่ในภาวะทรงตัว  ขณะที่ตลาดกล้อง DSLR ก็มีอัตราการเติบโตติดลบอยู่ที่ประมาณ 20%

อย่างไรก็ดี  แม้ว่าภาพรวมตลาดกล้องจะถูกตลาดกล้องคอมแพ็ค และกล้อง DSLR  ฉุดอัตราการติบโตไปบ้าง  แต่หากมองภาพโดยรวมในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา  ภาพรวมตลาดกล้องในประเทศไทยก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ  เนื่องจากมีอัตรการเติบโตได้ถึง 20%  และจากแนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจที่เริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น  ประกอบกับคนรุ่นใหม่ยังคงให้ความสำคัญกับกล้องมิร์เรอร์เลส  จึงทำให้มีความมั่นใจกันว่าภาพรวมตลาดกล้องในปีนี้น่าจะมีอัตราการเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 20% อย่างแน่นอน  เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งตลาดรวมกล้องมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ  7,200 ล้านบาท

แนงโน้มภาพรวมตลาดกล้องที่เริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น  ประกอบกับบริษัท บิ๊ก คาเมร่าฯ มีแผนที่จะขยายธุรกิจใหม่ที่ซุ่มศึกษา  เพื่อเตรียมสยายปีกในอนาคตน่าจะทำให้ภาพรวมรายได้เติบโตปีละ 10-15% ตามแผนที่วางไว้ได้ไม่ยาก  หากไม่มีปัจจัยลบและการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี  ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงตามไปอีก
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 26 ส.ค. 2559 เวลา : 19:29:00
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 3:38 am