เปิดเผยไปเรียบร้อยสำหรับพันธมิตรใหม่ของบริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หลังจากการใช้ระยะเวลาประมาณ 18 เดือน ในการคัดเลือกผู้เข้าเสนอตัวเป็นแฟรนไชส์ซีรายใหม่ จากจำนวนมากกว่า 100 ราย เพื่อเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย จากเดิมมีบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี เป็นพันธมิตรทางธุรกิจในการร่วมขยายร้านเคเอฟซีเพียงรายเดียวเท่านั้น
จากจำนวนสาขาของร้านเคเอฟซี ที่เปิดให้บริการก่อนที่บริษัท ยัม เรสเทอรองสต์ฯ จะเปิดตัวพันธมิตรใหม่บริษัท เซ็นทรัล เรสเทอรองส์ กรุ๊ป ถือเป็นพันธมิตรรายใหญ่ของบริษัท ยัม เรสเทอรองสต์ฯ เนื่องจากสัดส่วนการดำเนินธุรกิจของจำนวนสาขาที่เปิดให้บริการในแต่ละปีจะแบ่งเป็นการลงทุนของบริษัท ยัม เรสเทอรองสต์ฯ 65% และอีก 35% เป็นการลงทุนของบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป
สำหรับพันธมิตรใหม่ที่บริษัท ยัมเรสเทอรองตส์ฯ เลือกมาเป็นพันธมิตร เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจในครั้งนี้ คือ บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับภัตตาคาร ร้านอาหาร การผลิต นำเข้าเพื่อจำหน่าย และค้าอาหารทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นเครื่องกระป๋อง หรือเครื่องปรุงรสอาหาร ก่อตั้งเป็นบริษัทขึ้นมาเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2558 ที่ผ่านมา
แม้ว่าบริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นต์ จะเป็นบริษัทม้ามืดที่เกินความคาดฝันของหลายคน และเป็นบริษัทน้องใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นในธุรกิจอาหาร แต่บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเมนต์ ก็เคลมตัวเองว่าเป็นบริษัทจดทะเบียนไทยเต็มรูปแบบ มีสำนักงานตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ คือ อาคารทูแปซิฟิคเพลส นอกจากนี้ยังมีพนักงานชาวไทยที่ร่วมทำงานมากกว่า 3,000 คน และมีความแข็งแกร่งในด้านขององค์กร เนื่องจากบริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเมนต์ ถือกำเนิดมาจากการร่วมทุนของผู้ลงทุนไทยและอาเชียน นำโดยกองทุนอาเซียนอินดัสเตรียลโกร์ธฟันด์ หรือเอไอจีเอฟ ซึ่งสนับสนุนโดยบริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งญี่ปุ่น
ชัยชนะที่บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเมนต์ ได้รับในขณะนี้ บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ฯ จะให้สิทธิ์ความเป็นพาร์ทเนอร์ ด้วยการขายสาขาเดิมที่เปิดให้บริการปัจจุบันจำนวน 130 สาขาในภาคใต้และกรุงเทพฯ บางสาขาให้กับ บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเมนต์ฯ ขณะเดียวกันก็ให้สิทธิ์ในการเปิดสาขาใหม่อีกประมาณ 100 สาขาภายในปี 2563 ในทำเลดังกล่าว ที่นอกเหนือจากการเปิดให้บริการในศูนย์การค้าในเครือเซ็นทรัลและห้างสรรพสินค้าโรบินสันให้บริษัท เรสเทอรองสต์ ดีเวลลอปเมนต์ เป็นผู้ดูแล
นางแววคนีย์ อัสโสรัตน์กุล ผู้จัดการทั่วไป เคเอฟซี บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว เคเอฟซี ประเทศไทย ได้ประกาศแผนกลยุทธ์ธุรกิจรุก 800 สาขา พร้อมพันธมิตรรายใหม่ และล่าสุดบริษัท ก็ได้บริษัท บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเมนต์ เพื่อร่วมก้าวเข้าสู่เป้าหมายดังกล่าว ซึ่งจะนำประโยชน์มาสู่ลูกค้า พนักงาน และพันธมิตรที่เข้ามาร่วมธุรกิจกับบริษัท
ทั้งนี้ ความแข็งแกร่งของพันธมิตรที่เลือกนำมาช่วยในการขับเคลื่อนสาขาใหม่ของเคเอฟซี ประเทศไทย ในครั้งนี้ บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ฯ มั่นใจว่าจะนำไปสู่ความสำเร็จที่มั่นคงอย่างแน่นอน เนื่องจากกลุ่มผู้บริหารของบริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นต์ มีความชื่นชอบและสนใจในธุรกิจอาหาร รวมถึงมีศักยภาพในการลงทุนสูง พร้อมทั้งมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์แบบมืออาชีพในธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนในระดับภูมิภาคเอเชีย และสำคัญที่สุดคือ ความมุ่งมั่นที่จะร่วมสร้างการเติบโตให้แบรนด์เคเอฟซีในประเทศไทย
นางแววคนีย์ กล่าวอีกว่า ข้อตกลงทางธุรกิจที่บริษัทกับบริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเมนต์ ได้ลงนามร่วมกันในครั้งนี้ถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อลูกค้าและพนักงาน เพราะนับจากนี้ไปจะมีผลิตภัณฑ์ บริการ และร้านเคเอฟซีใหม่ๆ เข้ามาเปิดให้บริการเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะช่วยให้ร้านเคเอฟซีมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากบริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเมนต์ มีความทุ่มเทในการดำเนินธุรกิจ
ด้านนายแอนดรูว์ นอร์ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด และผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน ด้วยประสบการณ์กว่า 13 ปีในออสเตรเลียและไทย กล่าวว่า บริษัทมีความยินดีอย่างมากที่ได้รับโอกาสในการขยายแบรนด์อันโดดเด่นนี้ไปด้วยกัน ด้วยความเป็นองค์กรที่แข็งแกร่ง มีวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจ และมีความมั่นคงทางการเงิน บริษัทมั่นใจว่าจะช่วยนำเคเอฟซี ประเทศไทย ก้าวไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ และพัฒนาธุรกิจให้มีอัตราการเติบโตไปด้วยกันได้อย่างแน่นอน
ตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษที่ เคเอฟซี ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ปัจจุบัน เคเอฟซี ยังคงครองความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน ด้วยการเป็นแบรนด์ที่ครองสัดส่วนจำนวนผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าและบริการอยู่ที่ร้อยละ 651 ของตลาดร้านอาหารบริการด่วนโดยรวม อีกทั้งยังสามารถสร้างยอดขายทะลุเป้าที่ตั้งในขณะที่ธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนมีการเติบโตที่ชะลอตัว เคเอฟซี ยังคงมีการพัฒนาด้านนวัตกรรมออกมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแผนการขยายสาขาภายในปี 2559 นี้ บริษัท ยัม เรสเทอรองสต์ฯ มีแผนที่จะขยายร้านเคเอฟซี สาขาใหม่จำนวน 35 สาขา และจากแนวทางดังกล่าวจะทำให้ร้านเคเอฟซี ในประเทศไทย มีจำนวนสาขาที่เปิดให้บริการรวมทั้งสิ้น 585 สาขาภายในสิ้นปี ซึ่งการเติบโตอย่างรวดเร็วดังกล่าว ส่วนหนึ่งเป็นผลจากแผนการพัฒนาด้านสาขา โดยภายในปี 2563 ฟรานไซน์ซีรายใหม่ บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นต์ จะรับผิดชอบในการสร้างสาขาเพิ่ม 100 สาขา จากเป้าหมายทั้งหมด 215 สาขา ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานในประเทศไทยเพิ่มขึ้นกว่า 6,500 ตำแหน่ง
แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีความชัดเจนในด้านของการแบ่งทำเลในการขยายสาขาของร้านเคเอฟซี ประเทศไทยของทั้ง 2 พันธมิตร และของตัวบริษัท ยัม เรสเทอรองสต์ฯ ที่ชัดเจน เนื่องจากหลังจากเปิดตัวพันธมิตรใหม่ บริษัท ยัม เรสเทอรองสต์ฯ จะมีการเรียกพันธมิตรทั้ง 2 รายเข้ามาหารือร่วมกันถึงแนวทางการขยายธุรกิจร่วมกัน ซึ่งหลังจากได้ข้อสรุปบริษัท ยัม เรสเทอรองสต์ฯ มีแผนที่จะออกมาชี้แจงแผนการดำเนินธุรกิจผ่านสื่อมวลชนอีกครั้ง
พันธมิตรรายใหม่ที่บริษัท ยัม เรสเทอรองสต์ฯ ดึงเข้ามาเสริมทัพในครั้งนี้จะช่วยให้ร้านเคเอฟซี ขยายตัวได้เร็วแค่ไหน คงยังไม่สามารถวัดผลได้ในขณะนี้ เพราะทุกอย่างยังอยู่ในจุดเริ่มต้น แต่สิ่งที่สามารถเห็นได้ทันทีในขณะนี้โดยไม่ต้องรอเวลาถึงอีก 4 ปี หรือประมาณปี 2563 ซึ่งร้านเคเอฟซีจะมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการมากถึง 800 สาขา ทั่วประเทศ คือ การเป็นผู้นำในธุรกิจร้านอาหารจานด่วนและผู้นำในตลาดร้านไก่ทอด
.jpg)
.jpg)
.jpg)
ข่าวเด่น