บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและแปรรูปปลาทูน่ากระป๋องคุณภาพสูงรายใหญ่ที่สุดของโลก และเจ้าของแบรนด์อาหารทะเลชั้นนำทั่วโลก ได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาว โจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) ตลาดเกิดใหม่ เป็นปีที่สามติดต่อกัน
SeaChange® กลยุทธ์เพื่อความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยนเป็นโครงการที่ขับเคลื่อนคะแนนด้านการผลักดันโครงการให้เป็นรูปธรรม โดยอยู่ในลำดับเปอร์เซ็นไทล์ที่ 100 นับเป็นผลงานที่โดดเด่นที่สุดในอุตสาหกรรมในการประเมินหัวข้อนี้ นอกจากนี้ ความพยายามในเรื่องจรรยาบรรณธุรกิจและแนวปฏิบัติด้านแรงงาน (Business Ethics and Labor Code of Conduct) และความพยายามในด้านสิทธิมนุษยชน (labor and human right) ส่งผลต่อคะแนนที่ปรับสูงขึ้น โดยอยู่ในลำดับเปอร์เซ็นไทล์ที่ 96 และ 91 ตามลำดับ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาสามปีแสดงให้เห็นว่าความพยายามทั้งหลายที่บริษัทไทยยูเนี่ยนวางรากฐานไว้ กำลังประสิทธิผล ทั้งในด้านการดำเนินงานเพื่อความยั่งยื่น และการมีความรับผิดชอบต่อธุรกิจและทั้งห่วงโซ่อุปทาน
“เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ความพยายามดำเนินงานตามแนวทางด้านความยั่งยืนของเราได้รับการยอมรับ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า เรากำลังเดินมาถูกทางแล้ว” นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป กล่าว “ความยั่งยืนมีความสำคัญต่ออนาคตของอุตสาหกรรมและโลกของเรา เราจะเดินหน้าต่อไปในการทำให้ความโปร่งใสและแนวปฏิบัติด้านจรรยาบรรณเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจของเรา ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคมของเรา” เขากล่าว
DJSI เป็นดัชนีที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในการประเมินบริษัทระดับโลกในเรื่องการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน ในแต่ละปีมีบริษัทมากกว่า 3,000 แห่ง ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประเมินด้านความยั่งยืนของธุรกิจ (Corporate Sustainability Assessment หรือ CSA) ของบริษัท RobecoSAM บริษัทที่จะได้รับการคัดเลือกเข้ามาอยู่ในดัชนี จะต้องผ่านการประเมินในด้านต่างๆ ครอบคลุมเรื่องเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคมในระยะยาวทั้งในแง่แนวโน้มความยั่งยืนทั่วไปและแนวโน้มความยั่งยืนเฉพาะอุตสาหกรรม มีเพียงบริษัทที่เป็นผู้นำของอุตสาหกรรมที่ผ่านเกณฑ์การประเมินนี้เท่านั้นที่จะได้รับเลือกให้อยู่ในดัชนี
ในปี 2557 ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ปเป็นบริษัทไทยแห่งแรกที่ได้รับเลือกให้อยู่ในดัชนี DJSI ประเภทธุรกิจอาหาร
“ความยั่งยืนเป็นความจำเป็นระดับโลกที่ต้องการพันธกิจระดับโลก เราต้องการส่งเสริมให้ทั้งอุตสาหกรรมอาหารทะเลทำงานร่วมกันเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน โดยผลักดันกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืน SeaChange® การใช้จรรยาบรรณธุรกิจและแนวปฏิบัติด้านแรงงาน และแนวทางปฏิบัติที่สำคัญด้านอื่นๆ การที่องค์กรสากล ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระให้การยอมรับความพยายามและการดำเนินงานของเราในด้านความเป็นเลิศด้านการดำเนินงาน นับเป็นรางวัลที่ให้กำลังใจในการทำงานต่อไปของเรา,” ดร.แดเรี่ยน แมคเบน ผู้อำนวยการกลุ่มการพัฒนาที่ยั่งยืน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป กล่าว
เพื่อตอกย้ำพันธกิจด้านความโปร่งใส บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้เปิดให้สาธารณะมีส่วนร่วมในการหารือเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และพันธกิจของกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืน SeaChange® ของบริษัท ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากภาคส่วนต่างๆ ได้รับเชิญมาเพื่อแสดงความคิดเห็นต่อเนื้อหาและขอบเขตของเป้าหมายของการดำเนินงานหลัก 4 ด้านของกลยุทธ์นี้ ซึ่งครอบคลุมเรื่องความปลอดภัยและแรงงานที่ถูกกฎหมาย, การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล, การจัดหาแหล่งวัตถุดิบอย่างมีความรับผิดชอบ, และการดูแลชุมชนของเรา โดยความเห็นต่างๆ ที่บริษัทได้รับ สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน และเรากำลังอยู่ระหว่างแก้ไขฉบับปรับปรุงตามคำแนะนำของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เราจะเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ของ SeaChange® ซึ่งจะมีข้อมูลอัพเดทความก้าวหน้าของโครงการ และจะเป็นพื้นที่สำหรับเรื่องราวและการหารือร่วมกันทั้งอุตสาหกรรมโลก โดยเน้นไปที่แนวทางที่ไทยยูเนี่ยนสามารถพลิกโฉมธุรกิจอาหารทะเลให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน”
บรรยายใต้ภาพ (เรียงจากขวามือ)- นายเศรษฐกูล โชติเชย (ขวา) ผู้จัดการฝ่ายความปลอดภัย อาชีวอนามัย
ดร.แดเรี่ยน แมคเบน ผู้อำนวยการกลุ่มการพัฒนาที่ยั่งยืน นายคมกฤช ซอโฉม ผู้อำนวยการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม นายคณิน แก้วอินทร์ ผู้จัดการฝ่ายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ข่าวเด่น