ทิสโก้เฮ! กอง 'อินคัม พลัส' เสียงตอบรับดี ลุยเพิ่มทุนอีก 1,000 ล้านบาท เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนช่วงดอกเบี้ยต่ำ เน้นสร้างกระแสเงินสดเอาใจนักลงทุน
กอง “อินคัม พลัส” เสียงตอบรับดี นักลงทุนเข้าซื้อหน่วยลงทุนใกล้เต็มมูลค่าโครงการเดิม ตัดสินใจเพิ่มทุนอีก 1,000 ล้านบาท หวังเพิ่มโอกาสสร้างทางเลือกให้นักลงทุนในยุคดอกเบี้ยต่ำ เน้นกลยุทธ์ลงทุน Multi Assets “หุ้น-กองทุน-ตราสารหนี้-เงินฝาก” เปิดโอกาสรับผลตอบแทนสม่ำเสมอ
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co., Ltd.) กล่าวว่า หลังจาก บลจ. ทิสโก้ เปิดตัว กองทุนเปิด ทิสโก้ อินคัม พลัส (TISCO Income Plus Fund: TINCOME) ไปตั้งแต่เดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ปรากฏว่านักลงทุนให้ความสนใจลงทุนใน TINCOME เป็นจำนวนมาก จนขณะนี้ใกล้เต็มจำนวนมูลค่าโครงการเดิมที่ 1,000 ล้านบาท บลจ. ทิสโก้จึงยื่นจดทะเบียนเพิ่มเงินลงทุน TINCOME อีกเป็นจำนวน 1,000 ล้านบาท รวมจำนวนเงินทุนโครงการทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายใหม่สามารถลงทุนเพิ่มเติมในกองทุนดังกล่าวได้
TINCOME เป็นกองทุนประเภทผสม เน้นลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ (เงินฝาก ตราสารหนี้ กองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และหุ้นในประเทศ) เพื่อกระจายความเสี่ยง โดยจะเน้นการบริหารเพื่อสร้างผลตอบแทนในรูปแบบรายได้สม่ำเสมอมากกว่า Capital Gain บลจ. ทิสโก้จะพิจารณารับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติให้แก่นักลงทุนเป็นรายไตรมาส โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา บลจ. ทิสโก้ พิจารณาซื้อคืนหน่วยลงทุนครั้งแรกของปี 2559ไปแล้ว หน่วยละ 0.075 บาท
“นับเป็นหนึ่งในกองทุนของ บลจ. ทิสโก้ ที่ตอบโจทย์การลงทุน ในยุคที่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ ผู้ลงทุนจำเป็นต้องมองหาโอกาสในการลงทุนมากขึ้น ภายใต้การบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม กองทุนเปิด ทิสโก้ อินคัม พลัส สามารถตอบโจทย์ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง โดยกองทุนจะกระจายการลงทุนไปยังหลากหลายสินทรัพย์ มีสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทที่มีสถานะการเงินที่มั่นคง ประมาณ 50% ขณะที่อีกประมาณ 25% จะไปลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งคาดว่าจะมีการจ่ายปันผลในอัตราที่ดีสม่ำเสมอ และอีกประมาณ 25% จะไปลงทุนในหุ้นปันผล ซึ่งหุ้นหลายๆ บริษัทในตลาดหุ้นไทยยังคงมีอัตราการจ่ายปันผลอยู่ในระดับค่อนข้างสูง กองทุนนี้จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการเสาะหาผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝาก สามารถรับความเสี่ยงได้มากขึ้น และต้องการผลตอบแทนสม่ำเสมอ โดยกองทุนจะพิจารณาซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุกๆ 3 เดือน” นายสาห์รัช กล่าว
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินการงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน กองทุน TINCOME มีความเสี่ยงระดับ 5 และอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ โดยมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ผู้ลงทุนจึงอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4
.jpg)
ข่าวเด่น