LHFund เปิดรับโอนเงินจาก 'กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ' เข้า RMFชูผลงานกอง LHTPROPRMF เด่น สร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 30.71% ต่อปี
บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ หรือ LHFund เดินหน้าเปิดรับโอนย้ายเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) เข้ามาลงทุนต่อ ในกองทุน RMF ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา หลัง ก.ล.ต. เปิดไฟเขียวให้โอนย้ายได้ เพื่อโอกาสการออมเงินต่อเนื่องหรือต้องการรักษาสิทธิทางภาษี โดยมุ่งเจาะกลุ่มมนุษย์เงินเดือนที่เปลี่ยนงานใหม่ ลาออกหรือนายจ้างเลิกกิจการ แต่ยังไม่ต้องการนำเงินออกมา พร้อมชูผลงานบริหารจัดการกองทุน LHTPROPRMF เด่น หวังกระตุ้นให้เกิดการออมและเพิ่มขนาดกอง RMF ให้ใหญ่ขึ้น
นางจันทนา กาญจนาคม กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ LHFund กล่าวว่า การให้สิทธิ์โอนย้ายเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) มายังกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) นั้น ถือเป็นการส่งเสริมให้เกิดการออมอย่างต่อเนื่องในระยะยาวตามนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือ ก.ล.ต. เพื่อเป็นหลักประกันแก่ผู้ลงทุนหลังเกษียณอายุ อีกทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการขอคงเงินให้กับผู้ที่ต้องการรักษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีโดยไม่ผิดเงื่อนไข
โดยปัจจุบัน LHFund เปิดให้บริการรับโอนย้ายเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มายังกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ LHFund จำนวน 3 กองทุน ได้แก่ 1.กองทุนเปิด แอล เอช ไทย พร็อพเพอร์ตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (LHTPROPRMF) 2. กองทุนเปิด แอล เอช เฟล็กซิเบิ้ลเพื่อการเลี้ยงชีพ (LHFLRMF) และ 3.กองทุนเปิด แอล เอช พันธบัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ (LHGOVRMF)
ทั้งนี้ LHTPROPRMF นับเป็นกองทุนที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่น โดยมีนโยบายเข้าลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ เฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ซึ่งการดำเนินงานของ LHTPROPRMF นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (พ.ย. 58) จนถึงวันที่ 26 ส.ค. 59 สร้างผลตอบแทนอยู่ที่ 30.71% ต่อปี ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือน และ 6 เดือน อยู่ที่ 7.42% และ 13.46% ตามลำดับ
สำหรับอีกกองทุนที่อยากจะแนะนำให้กับผู้ลงทุนก็คือ LHFLRMF ซึ่งเป็นกองทุนที่ได้รับการจัดอันดับผลการดำเนินงานเมื่อเทียบกับกองทุนประเภทเดียวกันในระดับสูงสุด ‘Morningstar Rating Overall 5 ดาว’ ณ วันที่ 31 ก.ค. 59 โดย LHFLRMF เป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนแบบผสมระหว่างตราสารหนี้และตราสารทุน รวมทั้งเงินฝากหรือทรัพย์สินอื่น (ลงทุนในตราสารทุนได้ตั้งแต่ 0-100% ของ NAV) ซึ่งนโยบายดังกล่าวมีข้อดีที่เปิดโอกาสให้ผู้จัดการกองทุนจะสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนในแต่ละหลักทรัพย์ ให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 26 ส.ค. 59 ย้อนหลัง 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี (ตามช่วงเวลา) 3 ปีและนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (พ.ย. 55) ของ LHFLRMF อยู่ที่ 16.70% 21.59% 24.94% 10.60% ต่อปีและ 7.88% ต่อปี ตามลำดับ
กรรมการผู้อำนวยการ LHFund กล่าวว่า การโอนย้ายเงินจาก PVD มาลงทุนใน RMF ของ LHFund ที่มีนโยบายการลงทุนหลากหลาย จะเป็นทางเลือกที่ได้รับความสนใจจากพนักงานบริษัทฯ ที่ต้องการออมเงินเพื่อใช้ในยามเกษียณหรือผู้เกษียณที่ต้องการลงทุนอย่างต่อเนื่องในระยะยาวและต้องการดูแลพอร์ตการลงทุนด้วยตัวเอง โดยการโอนย้ายเงินจาก PVD มายัง RMF นั้น สมาชิกกองทุนสามารถแจ้งความต้องการกับนายจ้างได้ภายในระยะเวลา 30 วัน นับจากวันที่ไม่ได้เป็นลูกจ้าง
ข่าวเด่น