ได้ฤกษ์เปิดตัวไปเรียบร้อย !!สำหรับโครงการบลูพอร์ต หัวหิน หลังจากใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างนานถึง 5-6 ปี ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ โครงการบลูพอร์ต หัวหิน ของบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ที่ได้จับมือร่วมกับบริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในส่วนของเฟส 2 ซึ่งเฟสนี้ได้ร่วมกันใช้งบลงทุนไปสูงถึง 5,000 ล้านบาท ภายในโครงการบลูพอร์ต หัวหิน ตั้งอยู่บนพื้นที่รวมกว่า 200,000 ตร.ม.ประกอบด้วยพื้นที่ศูนย์การค้า 50,000 ตร.ม.และพื้นที่ห้างสรรพสินค้า 25,000 ตร.ม.
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่จอดรถอีกกว่า 100,000 ตร.ม. เพื่อรองรับลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการได้ถึง 3,500 คัน ในด้านของบริการก็มีการคัดสรรสินค้าแฟชั่นชั้นนำ ผลิตภัณฑ์ความงาม ไลฟ์ไตล์ ลีฟวิ่ง สปอร์ต ดิจิตอล เทคโนโลยีตลอดจนร้านอาหารระดับแนวหน้า ร้านคาเฟ่ชื่อดัง, GOURMET MARKET ซูเปอร์มาร์เก็ตระดับ พรีเมียมที่พิถีพิถันคัดสรรสินค้าจากทุกมุมโลก, สถาบันการเงินระดับแนวหน้า, BLÚPORT CINEPLEX โรงภาพยนตร์ระดับเวิลด์คลาส 6 โรง และWHALEY PORT สวนสนุกอินเตอร์แอคทีฟธีมโลกใต้ทะเลครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์แห่งการช็อปปิ้ง
น.ส.ศุภลักษณ์ อัมพุช รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และ รองประธาน บริษัท หัวหิน แอสเสท จำกัด ผู้บริหารโครงการศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน กล่าวว่า โครงการบลูพอร์ต หัวหิน ถือเป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดของใจกลางเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพราะโครงการตั้งอยู่ตรงข้ามโรงแรมอินเตอร์คอนทิเนนตัล หัวหิน โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานแรงบันดาลใจจากเมืองรีสอร์ตชายทะเลที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น แซงต์โทรเปซ, ริเวียร่า, หมู่เกาะทะเลแคริบเบียน, ทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยนและเคปทาวน์
จากจุดเด่นของแต่ละเมืองที่ ศุภลักษณ์ อัมพุช ได้เดินทางไปเยี่ยมชมพร้อมเก็บรายละเอียดของสถานที่ต่างๆ จึงเป็นที่มาของสถาปัตยกรรมของโครงการบลูพอร์ต หัวหิน ที่มีการนำจุดเด่นของสถานที่ต่างๆมาผสมผสานและรังสรรค์การออกแบบทั้งภายในและภายนอกอาคารในสไตล์รีสอร์ตมอลล์ ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของศูนย์การค้า ภายใต้คอนเซปต์ “THE ENCHANTED JOURNEY TO THE PORT OF PLEASURE” มนต์เสน่ห์แห่งการเดินทางสู่ความหฤหรรษ์รื่นรมย์ ที่รวบรวมสุดยอดประสบการณ์การช็อปปิ้งและบริการระดับพรีเมียม เพื่อเติมเต็มทุกสุนทรียะแห่งวิถีชีวิตในวันพักผ่อนอย่างสมบูรณ์แบบ
จุดมุ่งหมายของการออกแบบอาคารในรูปแบบดังกล่าว ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้สอดคล้องกับมนต์เสน่ห์ของหัวหิน เนื่องจากเมืองหัวหินยังเปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการโครงการบลูพอร์ต หัวหิน บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป เชื่อมั่นว่าศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหินจะกลายเป็น WORLD CLASS RESORT MALL DESTINATION OF ASIA แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของหัวหินที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ อีกทั้งยังช่วยยกระดับให้หัวหินเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเมืองตากอากาศชั้นนำระดับโลก ตลอดจนช่วยส่งเสริมยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวและพัฒนาเศรษฐกิจของไทยสู่ภูมิภาคอาเซียน
หลังจากเปิดให้บริการในวันที่ 1 ต.ค.นี้ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป คาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการในวันธรรมดาไม่ต่ำกว่า 20,000 คน และในวันหยุดไม่ต่ำกว่า 40,000-50,000 คน โดยในปีแรกคาดว่าจะมีรายได้จากการดำเนินธุรกิจไม่ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากศูนย์การค้า 4,500 ล้านบาท และห้างสรรพสินค้า 2,500 ล้านบาท หลังจากนั้นคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 7 ปี
น.ส.ศุภลักษณ์ กล่าวต่อว่า หลังจากเปิดให้บริการโครงการบลูพอร์ตไปแล้วประมาณ 2 ปีก็จะเริ่มพัฒนาโครงการในเฟสที่ 2 ซึ่งยังเหลือที่ดินให้พัฒนาโครงการต่างๆ อีกประมาณ 25 ไร่ โดยในส่วนของเฟสนี้จะมอบหมายให้บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด เป็นผู้พัฒนาโครงการ เบื้องต้นคาดว่าภายในโครงการจะเป็นในส่วนของเรสซิเดนท์เชียล และแอทเทรคชั่น รวมไปถึงศูนย์ประชุมและสัมมนาขนาดใหญ่ ซึ่งหากพัฒนาได้ครบตามที่วางแผนไว้คาดว่าจะใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 2,000-3,000 ล้านบาท
นอกจากจะให้ความสำคัญกับโครงการที่หัวหินแล้ว โครงการต่อไปที่บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จะพร้อมเปิดให้บริการต่อจากศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน คือ โครงการเดอะมอลล์ โคราช ส่วนต่อขยาย ขณะเดียวกันก็ดำเนินการแปลงโฉมเฟสเก่าให้มีความสวยงามและทันสมัยมากขึ้นภายใต้งบลงทุนรวมกว่า 2,000 ล้านบาท โดยในวันที่ 8 ต.ค.นี้ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จะเปิดให้บริการศูนย์การค้าเดอะมอลล์ โคราชโฉมใหม่อย่างเป็นทางการ
โครงการใหม่ต่อไปที่จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในช่วงปลายปีนี้ คือ บลูเพิร์ล ภูเก็ต ซึ่งในส่วนของโครงการดังกล่าวจะตั้งอยู่บนที่ดิน 160 ไร่ เบื้องต้นได้เตรียมงบลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท ภายในโครงการ บลูเพิร์ล (BLÚ Pearl) จะก่อสร้างภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Grand Majestic Palace” เพื่อให้เป็นไข่มุกอันเลอค่าที่สุดแห่งเอเชีย (The One and Only Precious Pearl of Asia) บนทำเลที่ดีที่สุดกลางใจเมืองภูเก็ต ซึ่งจะเพียบพร้อมไปด้วยศูนย์รวมความบันเทิง Convention & Exhibition Center ขนาดใหญ่ทันสมัยที่สุดในภูเก็ต พร้อม Resort Hotel
นอกจากนี้ ยังได้เตรียมสร้าง World Class Theme Park ที่ยิ่งใหญ่ และตระการตาบนเนื้อที่รวม 150 ไร่ พื้นที่โครงการกว่า 650,000 ตารางเมตร โดยมุ่งหวังให้โครงการ บลูเพิร์ล นี้เป็นไข่มุกอันเลอค่าแห่งภูเก็ต (The Pearl of Phuket) เป็นความภาคภูมิใจแห่งอันดามัน (The Pride of the Andaman) และที่สุดแห่งปรากฏการณ์ค้าปลีก และบันเทิงระดับโลกของเอเชีย(The World Class Luxury Retail and Entertainment Resort Destination in Asia) เบื้องต้น บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป คาดว่าโครงการดังกล่าวจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดบริการในปลายปี 2561 หรือต้นปี 2562 ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการมั่นใจว่าโครงการบลูเพิร์ลจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการยกระดับ จ. ภูเก็ต ให้เป็น “ริเวียร่าแห่งตะวันออก” สอดรับนโบบายของภาครัฐที่มีแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเลด้วยเรือสำราญ
ต่อจากโครงการบลูเพิร์ล บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป ก็จะเดินหน้าพัฒนาโครงการดิ เอ็มสเฟียร์ ต่อเนื่องทันทีบนพื้นที่ 200,000 ตร.ม. ซึ่งในส่วนของคอนเซ็ปต์ ดิ เอ็มสเฟียร์ จะเป็นชีพจร เป็นความเร้าใจใหม่ของกรุงเทพฯ (The Vibe of Bangkok has never experienced before) เป็นอีกหนึ่งโครงการที่เหนือความคาดหมาย ในรูปแบบของศูนย์การค้าที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ที่จะมาสร้างความแข็งแกร่งให้กับย่านสุขุมวิท ซึ่งหลังจากดำเนินการก่อสร้างดิ เอ็มสเฟียร์ ก็จะดำเนินการก่อสร้างโครงการ แบงค็อก มอลล์ ซึ่งจะตั้งอยู่บนจุดตัดของถนนบางนา-ตราดกับสุขุมวิท เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีอุดมสุขและบางนา บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ พื้นที่โครงการกว่า 650,000 ตร.ม. ด้วยงบลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท ภายในโครงการประกอบด้วย ศูนย์การค้าและที่อยู่อาศัย รวมถึงออฟฟิศแบบครบวงจรที่ยิ่งใหญ่ ทันสมัยและสมบูรณ์แบบที่สุดในเอเซีย ภายใต้คอนเซ็ปต์ City within the City
น.ส.ศุภลักษณ์ กล่าวปิดท้ายว่า บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ๆ ต่างๆตามแผนการดำเนินงานเดิมที่เคยได้วางไว้ ไม่ได้มีการเลื่อนพัฒนาโครงการตามที่เป็นข่าว ซึ่งนอกจากจะเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่แล้ว บริษัทยังมีแผนที่จะเดินหน้าปรับปรุงโครงการเก่าควบคู่กันไปไม่ว่าจะเป็นเดอะมอลล์ บางแค ,เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน หรือเดอะมอลล์ รวมคำแหง ซึ่งในส่วนของเดอะมอลล์ รวมคำแหง จะถือเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ในรอบ 20 กว่าปีที่เปิดให้บริการนับตั้งแต่ปี 2526
ข่าวเด่น