'วิสาหกิจชุมชนอาภานวดแผนไทย บางเจ้าฉ่า จ.อ่างทอง'
บสย. ยื่นโอกาส 'ขยายกิจการภูมิปัญญาไทย สร้างรายได้ชุมชน'
ถอดรหัสบทเรียนชีวิต พลิกผัน ผลักดันให้แม่ค้าส้มตำวัย 68 ปี "คุณ อาภา ปรีชากูลย์ " หรือ 'ป้าปุ้ม' ก้าวสู่เส้นทางอาชีพก่อตั้งวิสาหกิจชุมชน อาภานวดแผนไทย พร้อมพัฒนาน้ำมันนวดสมุนไพร ป้าปุ้ม สูตรลับสมุนไพร ที่กำลังเป็นที่กล่าวถึง ในด้านของสรรพคุณ ทาถูนวด เย็นสบาย คลายกล้ามเนื้อ โดนใจคนขี้เมื่อย
เมื่อเร็วๆนี้ (บสย.) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม จัดทริปนำสื่อมวลชน สัมผัสบรรยากาศของจริง "นวดแผนไทยต้นตำรับ" กันถึงที่บ้านป้าปุ้ม ประธานเครือข่ายศูนย์การเรียนรู้แพทย์พื้นบ้าน ผู้ก่อตั้งวิสาหกิจชุมชนอาภานวดแผนไทย ที่บ้านเลขที่ 4/2 ม.6 ซอยชญาดา ต.บางเจ้าฉ่า อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง และผู้สื่อข่าว เอซี นิวส์ ได้มีโอกาสร่วมทริปในครั้งนี้ด้วย ซึ่ง 'ป้าปุ้ม' ได้รับอนุมัติสินเชื่อเพื่อขยายกิจการจาก SME BANK 5 แสนบาท และมีบสย.ค้ำประกันสินเชื่อเต็มวงเงินสินเชื่อ
เรียกได้ว่า 'ชีวิตพลิกผัน'ของป้าปุ้มนั้น เมื่ออาการปวดหลัง หมอนรองกระดูกเส้นประสาทของ 'ป้าปุ้ม' ยังไม่ทุเลา ป้าปุ้มจึงมองหาหนทางผันตัวเป็นนักเรียนแพทย์แผนไทย เรียนทุกหลักสูตร กับกระทรวงสาธารณสุข เรียนนวดฝ่าเท้า นวดตัว เพื่อแก้อาการต่างๆ เรียนการจัดกระดูกกับหมอชาวจีน เรียนการนวดแบบคลายกล้ามเนื้อ ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง
สั่งสมวิชาความรู้หลักสูตรการนวดทั้งในภาคทฤษฏีและปฏิบัติ และเวทีการแข่งขันต่างๆ บวกกับความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรที่ป้าปุ้มหมั่นศึกษาเพิ่มเติม เป็นที่มาและจุดเริ่มต้นของ "ยานวดสมุนไพรป้าปุ้ม" ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างมาก โดยปัจจุบันมียอดขายไม่ต่ำกว่า 2,000 ขวดต่อเดือน ทั้งยังต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆอีกหลากหลายชนิด ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการนำ "ภูมิปัญญาพื้นบ้านของไทย" มาต่อยอดเป็นธุรกิจ และสร้างรายได้แก่ชุมชน
"วิเชษฐ วรกุล "รองผู้จัดการทั่วไป สายงานธุรกิจ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า บสย . เล็งเห็นถึงภูมิปัญญาของแผนไทย และความสำคัญของแผนไทยโบราณ เพื่อที่จะขยายกิจการภูมิปัญญาของไทยเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น และถือโอกาสนี้อนุรักษ์วัฒนธรรมไทยไปสู่มรดกโลก ซึ่งการที่ บสย. ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการนวดแผนไทย จึงได้หยิบยื่น ช่วยเหลือ ส่งเสริมให้วัฒนธรรมแบบนี้โด่งดังเป็นที่รู้จัก ซึ่งไม่ใช่แค่ส่งเสริมด้านวัฒนธรรมอย่างเดียว จุดประสงค์ของเรายังอยู่ที่ 1.ช่วยเหลืออุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมให้ได้รับสินเชื่อจากสถาบันการเงินจำนวนมากขึ้น 2.ช่วยให้สถาบันการเงินมีความมั่นใจในการให้สินเชื่อแก่อุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม 3.เร่งการกระจายสินเชื่อไปยังอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมทั่วประเทศได้เร็วขึ้น 4.ช่วยให้การพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมบรรลุเป้าหมายตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ทางด้าน "ป้าปุ้ม" ในฐานะประธานเครือข่ายศูนย์การเรียนรู้แพทย์พื้นบ้าน ผู้ก่อตั้งวิสาหกิจชุมชนอาภานวดแผนไทย กล่าวว่า การนวดแผนไทยมีสรรพคุณมากมาย จากเมื่อก่อนที่ป้าเคยเป็น อัมพฤกษ์ อยู่ 2 ปี ก็ได้การนวดแผนไทย ไม่ว่าจะเป็นการนวดของประเทศจีน จนหายขาด ป้าเองเห็นความสำคัญของนวดแผนไทย จึงมีความคิดที่จะเรียนรู้เพิ่มเติม เรียนการนวดทุกจุด ทุกส่วนของร่างกาย ปัจจุบันมีผู้คนมากมายที่เป็น อัมพฤกษ์ ปวดหลัง หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ปากเบี้ยว เดินไม่ได้ พูดไม่ได้ ได้เดินทางมาหาป้า ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ รับรองไม่เสียเที่ยว มาแล้วหายแน่นอน
ที่สำคัญป้าปุ้มไม่ได้หวงสูตร สามารถมาเรียนได้ คิดค่าเรียนแค่ 10,000 บาท ใช้เวลา 150 ชั่วโมง ได้ทั้งความรู้ และยังได้ใบรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข สามารถนำไปประกอบอาชีพได้ และทุกอย่างตัวสมุนไพรที่รักษานั้น ป้าปุ้ม เป็นคนที่คิดค้นและเลือกวัตถุดิบที่ดีปลูกเอง รับรองถึงสมนุไพรแท้ ปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่ายสินค้าเป็นสิบราย รายได้ตกประมาณ 15,000 บาทต่อเดือนต่อราย มีสมาชิกทั้งหมด 12 คน ภายในพื้นที่ 4 ไร่ ซึ่งป้าปุ้มบอกว่าได้จัดสรรใช้พื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุด โดยวางแผนว่าอนาคตจะสร้างโฮมสเต มีทั้งห้อง อบตัว และห้องอบซาวน่า ประมาณ 5-10 ห้อง ด้วย
Medical Hub Thailand แบรนด์ "ป้าปุ้ม" เป็นอีกหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จจากโอกาสที่ได้รับจากบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือบสย. ในฐานะหน่วยงานที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ผ่านกลไกการค้ำประกันสินเชื่อ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับสถาบันการเงินในการอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น
ข่าวเด่น