นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารต่าง ๆ ได้ร่วมกันพัฒนาระบบพร้อมเพย์ เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานรองรับบริการโอนและชำระเงินของประเทศ ทำให้ประชาชนสามารถรับเงินโอนได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งของผู้โอนและส่วนรวมของประเทศ ซึ่งทุกธนาคารได้ให้ความสำคัญและร่วมมือกับภาครัฐในการเร่งดำเนินการ โดยขณะนี้มี 21 ธนาคารเข้าร่วมโครงการ และจะให้บริการผ่าน 3 ช่องทาง คือ ATM, Mobile Banking และ Internet Banking
ปัจจุบันทุกธนาคารได้พัฒนาบริการพร้อมเพย์ในส่วนของแต่ละธนาคารแล้วเสร็จ และได้เริ่มเข้าสู่การทดสอบ โดยเป็นการทดสอบการเชื่อมโยงระบบระหว่างธนาคารต่าง ๆ ที่เข้าร่วมโครงการ กับระบบกลางและการโอนเงินระหว่างธนาคารในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งพบว่าการทดสอบระบบเพื่อให้ครบทุกธนาคาร และทุกช่องทางที่ให้บริการ รวมทั้งให้ครอบคลุมกรณีตัวอย่างต่าง ๆ ใช้เวลามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากเป็นระบบใหญ่ เชื่อมโยงหลายธนาคาร และมีช่องทางให้บริการที่หลากหลาย
สมาคมธนาคารไทยตระหนักว่าระบบที่ใช้ทำธุรกรรมทางการเงินของสถาบันการเงินถือว่ามีความสำคัญสูงสุด ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจึงได้ร่วมมือและทุ่มเทกำลังเพื่อทดสอบและปรับปรุงระบบให้สามารถเชื่อมต่อและทำรายการระหว่างธนาคารได้อย่างสมบูรณ์ รองรับรายการทางการเงินหลากหลายแบบได้ตามแผนที่วางไว้ โดยมุ่งให้ทุกธนาคารในโครงการสามารถเริ่มให้บริการได้อย่างพร้อมเพรียงกัน
เพื่อให้มีเวลาในการทดสอบอย่างครบถ้วน ในการประชุมติดตามความคืบหน้าการพัฒนาระบบพร้อมเพย์ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2559 สมาคมธนาคารไทย ธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ และ NITMX จึงได้หารือกับ ธปท. ซึ่งได้ติดตามและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิดมาตลอด และเสนอให้เลื่อนการเปิดบริการพร้อมเพย์สำหรับธุรกรรมระหว่างบุคคลไปเป็นไตรมาสแรกปี 2560 เพื่อให้มีระยะเวลาเพียงพอสำหรับการทดสอบระบบให้มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพในการให้บริการอย่างต่อเนื่องในระยะยาว โดย ธปท. เห็นชอบด้วยกับการปรับแผนดังกล่าว เพื่อให้มั่นใจว่าระบบจะสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างถูกต้อง ผู้ใช้บริการมีความมั่นใจ และสามารถรองรับธุรกรรมจำนวนมากในอนาคตได้ อย่างไรก็ดี ในส่วนของระบบการโอนเงินด้านสวัสดิการจากภาครัฐให้ประชาชนผ่านบริการพร้อมเพย์ สามารถให้บริการได้ในไตรมาส 4 ปี 2559 นี้
ข่าวเด่น