แม้ว่าปัจจุบัน เจริญ สิริวัฒนภักดี จะมีธุรกิจห้างค้าปลีกหลากหลายประเภททั้งในไทยและต่างประเทศ แต่ก็ถือว่ายังขาดบริการในส่วนของธุรกิจโฮเรก้า ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาล เนื่องจากธุรกิจโรงแรม และร้านอาหารมีการขยายตัวกันอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีการขยายตัวตามไปด้วย ซึ่งจากแนวโน้มที่ดีดังกล่าวส่งผลให้ปัจจุบันธุรกิจโฮเรก้าในประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 1.1 ล้านล้านบาท ในมูลค่าดังกล่าว แบ่งเป็นธุรกิจโรงแรม 5.27 แสนล้านบาท ธุรกิจร้านอาหาร 3.85 แสนล้านบาท ธุรกิจกาแฟ เบเกอรี ไอศกรีม และบริการจัดเลี้ยง 62,000 ล้านบาท
จากแนวโน้มการขยายตัวที่ดีของธุรกิจโฮเรก้าที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 10-20% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ เจริญ สิริวัฒนภักดี เล็งเห็นโอกาสในการเข้ามาขยายธุรกิจดังกล่าว ด้วยการใช้งบ 215 ล้านบาท ตั้งบริษัท เอเชีย โฮเรก้า จำกัด ขึ้นมา เพื่อดำเนินธุรกิจโฮเรก้า โดยให้นายพงษ์ศักดิ์ นันตวรรณกุล นั่งเป็นกรรมการบริหาร ของบริษัท เอเชีย โฮเรก้า จำกัด คุมทัพธุรกิจโฮเรก้า ควบคู่ไปกับนางลัดดา มงคลชัยวิวัฒน์ ซึ่งจะเข้ามานั่งในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย โฮเรก้า จำกัด
ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัท เอเชีย โฮเรก้า จำกัด จะเป็นธุรกิจที่ขึ้นตรงกับบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งถือเป็นธุรกิจเสาหลักในด้านของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หมายเลข 2 ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เพราะนอกจากจะมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าและขายแล้ว ยังมีธุรกิจในส่วนของศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้ มอลล์อีกด้วย โดยในส่วนของกลุ่มธุรกิจนี้นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ได้มอบหมายธุรกิจให้นายปณต สิริวัฒนภักดี บุตรชายเป็นผู้กำกับดูแล
สำหรับธุรกิจโฮเรก้าที่นายเจริญ สิริวัฒนภักดี สั่งเดินหน้าลุยในครั้งนี้จะเริ่มต้นธุรกิจ ด้วยการสร้างศูนย์การค้าโฮเรก้า สแควร์ ขึ้นมาบนพื้นที่ 3 ชั้นของอาคาร ซี ดับเบิลยูทาวเวอร์ หรือ อาคารไซเบอร์ เวิลด์เดิม ของบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบด้วยชั้น 3 ชั้น 4 และชั้น 5 รวมพื้นที่ 12,000 ตร.ม.
นายพงษ์ศักดิ์ นันตวรรณกุล กรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย โฮเรก้า จำกัด กล่าวว่า จากแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวของไทยที่ขยายตัวต่อเนื่อง เห็นได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเกือบ 30 ล้านคนในปี 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวได้สร้างรายได้ให้ประเทศไทยมากกว่า 1.3 ล้านล้านบาท และจากการขยายตัวในทิศทางที่ดีของธุรกิจท่องเที่ยวส่งผลให้ธุรกิจโฮเรก้า ซึ่งประกอบไปด้วย ธุรกิจโรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร และธุรกิจบริการจัดเลี้ยง มีอัตราการเติบโตไปด้วย
นอกจากธุรกิจท่องเที่ยวจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ธุรกิจโฮเรก้าเติบโตสูงปีละ 10-20% ยังมีปัจจัยในด้านของรูปแบบครอบครัวในปัจจุบันที่มีขนาดเล็กลง บวกกับมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารนอกบ้านสูงขึ้น ทำให้เทรนด์การรับประทานอาหารนอกบ้านมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันสัดส่วนการรับประทานอาหารนอกบ้านมีมากถึง 60% นอกจากนี้ การที่ภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs และกลุ่ม Start up ให้สามารถแข่งขันและเติบโตสู่ระดับสากลได้อย่างยั่งยืนก็ถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจโรงแรมขนาดเล็ก ธุรกิจร้านอาการ เครื่องดื่ม และเบเกอรี่มีการขยายตัว
จากปัจจัยดังกล่าว บริษัท เอเชีย โฮเรก้า จึงถือกำเนิดขึ้น เพื่อทำธุรกิจโฮเรก้าแบบครบวงจร ภายใต้ชื่อ “HORECA Square” (โฮเรก้า สแควร์) เพื่อรองรับการเติบโตของกลุ่มธุรกิจโรงแรมระดับ 3-4 ดาว ภัตตาคาร ร้านอาหาร และธุรกิจบริการจัดเลี้ยง ซึ่งในส่วนของแนวคิดในการดำเนินธุรกิจศูนย์การค้า โฮเรก้า สแควร์ จะใช้กลยุทธ์ในด้านของ Total Solutions ด้วยการรวบรวมสิ่งจำเป็นในการก่อร่างสร้างธุรกิจ ทั้งการวิเคราะห์ ออกแบบ วางแผน การจัดการระบบซอฟท์แวร์ บริการขนส่ง ระบบปฏิบัติการและเครือข่ายเฉพาะธุรกิจ การจัดหาสินค้า ผลิตภัณฑ์มากกว่า 10,000 รายการ ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ประกอบการ มาจำหน่ายในศูนย์การค้าดังกล่าว
นางลัดดา มงคลชัยวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย โฮเรก้า จำกัด กล่าวว่า สินค้า 10,000 รายการที่จะนำมาจำหน่ายภายในศูนย์การค้าโฮเรก้า สแควร์ จะเป็นสินค้าทำจากในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งหมด 14 หมวดหมู่หลัก ประกอบด้วย 1.Bedding&Furniture 2.Porcelain&Glasswear 3.Coffee&Bakery 4.Electonic & Appliance 5.Cooking School 6.Amenity 7.Lighting 8.Hotel Supply 9.Utensil 10.Packaging 11.Software&POS 12.Consultant 13.Kitchen Equipment และ 14.Uniform
ทั้งนี้ หากเจาะลึกไปในส่วนประกอบของธุรกิจโรงแรมจะพบว่า 90% คือ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่เหลือ 10% คือระดับ Coperate หรือแม้แต่ธุรกิจร้านอาหารเอง ก็จะมีเอสเอ็มอีอยู่ในนั้น 25% และ Chain 75% ซึ่งปัญหาที่ผ่านมาของผู้ประกอบการกลุ่มดังกล่าว คือ การเป็นเอสเอ็มอี จึงทำให้ยังไม่มีแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ให้การทำธุรกิจอย่างแท้จริง จากปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าวศูนย์การค้า โฮเรก้า สแควร์ จะเป็นกุญแจสำคัญในการตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจโอเรก้า ของบริษัท เอเชีย โฮเรก้านั้น จะแบ่งการดำเนินธุรกิจออกเป็นระยะใกล้ 3 ปี เริ่มจากปี 2559-2561 ประกอบด้วย 1. การเริ่มโครงการศูนย์การค้าโฮเรก้า สแควร์ ในปี พ.ศ. 2559 ภายใต้งบลงทุน 100-200 ล้านบาท 2. เปิดให้บริการศูนย์การค้าโฮเรก้า สแควร์ ในเดือน ก.พ. 2560 หลังจากนั้นประมาณเดือน ก.ค. 2560 จะเริ่มจัดงานแสดงสินค้าแบบ B2B ระดับนานาชาติ สำหรับกลุ่ม HORECA และ 3. เตรียมระบบการค้าอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับกลุ่มโฮเรก้า เริ่มโครงการในปี พ.ศ. 2561 โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลัก มุ่งเน้นไปยังกลุ่มผู้ประกอบการ โฮเรก้า และผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ คอนโด อพาร์ทเมนท์ รวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจ
หลังจากแผนระยะใกล้บรรลุตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ในปีที่ 4-5 บริษัท เอเชีย โฮเรก้า มีแผนที่จะขยายศูนย์การค้าโฮเรก้า สแควร์ ไปยังหัวเมืองท่องเที่ยวทั่วไทย โดยในส่วนของจังหวัดที่ศึกษาความเป็นไปได้ไว้ คือ เชียงใหม่ อุดรธานี และภูเก็ต ซึ่งทั้ง 3 จังหวัดถือเป็นประตูสู่เมืองท่องเที่ยว และเป็นประตูสู่ประเทศเพื่อน
นอกจากจะให้ความสำคัญกับการเปิดศูนย์การค้าโฮเรก้า สแควร์ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าภายในประเทศแล้ว บริษัท เอเชีย โฮเรก้า ยังมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าไปในประเทศเพื่อนบ้านและประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากปัจจุบันหลายประเทศเริ่มให้ความสนใจเข้ามาซื้อสินค้ากลุ่มโฮเรก้าในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งในกลางปี 2560 นี้บริษัท เอเชีย โฮเรก้า มีแผนที่จะเข้าไปประเดิมธุรกิจด้วยการเข้าไปร่วมจัดงานแสดงสินค้าในประเทศพม่า เพื่อเป็นการสร้างแบรนด์ธุรกิจให้เป็นที่รู้
ทั้งนี้ จากผลการศึกษาและวิจัยตลาดของบริษัท เอเชีย โฮเรก้า คาดการณ์ว่าในช่วงแรกของการเปิดบริการจะมีผู้สนใจหมุนเวียนเข้าชมและซื้อสินค้าอย่างน้อยวันละประมาณ 500 ราย หรือปีละ 1.825 แสนราย คิดเป็นนักธุรกิจต่างชาติเฉลี่ยเดือนละ 30 ราย หรือปีละ 360 ราย แต่ละรายคาดว่าจะมีการซื้อสินค้าประมาณ 1 แสนบาท ส่งผลให้ผู้ประกอบการสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 3 ล้านบาทต่อเดือน หรือประมาณ 36 ล้านบาทต่อปี
ขณะที่ภาพรวมธุรกิจของเอเชีย โฮเรก้า คาดว่าจะมีเงินสะพัดต่อปีจากการขายสินค้าโฮเรก้า ภายในศูนย์การค้าไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาทต่อปี ส่วนเป้าหมายรายได้จากการทำธุรกิจ ซึ่งจะมีรายได้มาจากการเก็บค่าเช่าผู้ประกอบการที่เข้ามาจำหน่ายสินค้าภายในศูนย์การค้านั้นบริษัท เอเชีย โฮเรก้า คาดว่าปีแรกจะมีรายได้จากการเช่าพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 182 ล้านบาท และเติบโตต่อเนื่องทุกปีไม่ต่ำกว่า 10-15%
ข่าวเด่น