การตลาด
สกู๊ป ....ทีวีดิจิทัลพร้อมใจปรับผังรายการถวายอาลัย


 


เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของปวงชนชาวไทย หลังจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคตเมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา  และเพื่อแสดงความไว้อาลัยต่อพ่อหลวงของปวงชนชาวไทย  บรรดาผู้ประกอบการในธุรกิจต่างๆ ออกมาแสดงความไว้อาลัยกันอย่างต่อเนื่อง  หนึ่งในนั้นคือ ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ซึ่งยินดีให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) อย่างเต็มที่  หลังจากมีมติกำหนดแนวปฏิบัติสำหรับผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กรณีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต

สำหรับแนวทางที่ กสท.ขอความร่วมมือทีวีดิจิทัล มีดังนี้  การถ่ายทอดรายการจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ให้สถานีโทรทัศน์ในระบบภาคพื้นดิน โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม โทรทัศน์ผ่านทางสาย โทรทัศน์ระบบ IP รวมถึงสถานีวิทยุกระจายเสียงของหน่วยงานรัฐ และสถานีทดลองประกอบกิจการกระจายเสียง เชื่อมโยงสัญญาณเมื่อปรากฏสัญลักษณ์โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย หรือ ทรท. และจะออกจากการเชื่อมโยงเมื่อปรากฏสัญลักษณ์โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย อีกครั้งหนึ่ง โดยห้วงเวลาที่กำหนดให้เชื่อมโยงสัญญาณจะเป็นช่วงของการถ่ายทอดสด พระราชพิธีสวดพระอภิธรรมและประโคมย่ำยาม เฉพาะเวลาเช้าและเย็น และในกรณีที่พระบรมวงศานุวงศ์ กษัตริย์ต่างประเทศ มาร่วมในพระราชพิธี
 

ทั้งนี้ รูปแบบการนำเสนอรายการนอกเหนือเวลาการเชื่อมโยงสัญญาณจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ในห้วงระยะเวลา 30 วัน โดยข้อมูลข่าวสารควรมีความหลากหลาย และควรต้องหาวิธีการเผยแพร่ให้คนต่างชาติได้เข้าใจด้วย ขณะที่การจัดทำรายการเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะต้องเป็นรายการที่เกี่ยวกับพระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ควรเป็นข้อมูลในภาพรวมที่ทรงมีพระราชดำริพัฒนาประเทศทั้งแผ่นดิน รายการข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรัชทายาทและพระนามเต็มของรัชกาลใหม่และผู้สำเร็จราชการ ซึ่งได้มีการเผยแพร่ข้อมูลของข่าวที่เป็นจริงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจไปแล้วให้สามารถตัดต่อเอาไปทำซ้ำได้ แต่ห้ามวิพากษ์ขยายความหรือวิจารณ์เพิ่มเติม

สำหรับการออกอากาศรายการที่ไม่ใช่รายการข่าวสาร เช่น  รายการกีฬา ละคร เพลง รายการเด็กหรือโฆษณา สามารถกระทำได้ แต่จะต้องเป็นไปตามมติ กสท. นัดพิเศษ ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 โดยขอให้ช่วยรักษาบรรยากาศของการแสดงความอาลัยการแสดงความจงรักภักดี ของประชาชนทุกส่วน ให้รักษาระดับความเข้มข้นนี้ไว้ในระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. เป็นต้นมา

 
 
หลังจาก กสท.มีประกาศออกมาดังกล่าวผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล นำมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยทุกช่องยกเลิกการออกอากาศของรายการวาไรตี้  ละคร ภาพยนตร์  ข่าวในเชิงไม่สร้างสรรค์ และรายการกีฬาที่ไม่เหมาะสมทั้งหมด  พร้อมกับหันมาเชื่อมสัญญาณถ่ายทอดสด และนำเสนอข่าว ควบคู่ไปกับรายการสารคดีที่เกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ทั้งหมด

ในส่วนของ อสมท ซึ่งมีสถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT HD และ MCOT FAMILY ช่อง 14 และสถานีวิทยุในเครือ อสมท จำนวน  63 สถานี  พร้อมยึดตามแนวปฏิบัติดังกล่าว ด้วยการงดออกอากาศในรายการที่ไม่เหมาะสมทั้งหมด  และนำรายการสารคดีที่ อสมท และบริษัท พาโนราม่า เวิลด์ไวด์ จำกัด ผลิตมาออกอากาศแทน  ส่วนรายการอื่นๆ ที่เคยนำมาออกอากาศ   อสมท ได้แจ้งให้ผู้ผลิตรายการให้งดการผลิตรายการเป็นการชั่วคราวให้ทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 
นางสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล ดิจทัล ทีวี จำกัด  ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่องจีเอ็มเอ็ม 25 กล่าวว่า ช่องจีเอ็มเอ็ม 25 จะทำการออกอากาศ ด้วยผังรายการพิเศษเฉพาะกิจของสถานีอันประกอบด้วยรายการที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเฉลิมพระเกียรติพระราชกรณียกิจ และถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  หากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง 

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในส่วนของช่อง 8 จะมีการนำเสนอเนื้อหาด้วยผังรายการที่สอดคล้องกับอารมณ์เศร้าโศกของประชาชนไทยทั้งประเทศ โดยได้จัดผังรายการนำเสนอข่าวสาร ข่าวพระราชพิธี ข่าวพระราชกรณียกิจ รายงานข่าวเพื่อสังคม และกีฬา พร้อมลดโทนเสียงและสีให้เหมาะกับสถานการณ์ สำหรับรายการบันเทิงที่งดการออกอากาศ ได้แก่ ละคร ซีรี่ส์ และวาไรตี้ โดยช่วงนี้จะนำเสนอเพลงพระราชนิพนธ์ ตลอดจนมิวสิควีดิโอเพลง 88 พรรษา และลูกของพ่อแทน ส่วนงานประเภทรื่นเริงได้ประกาศงดภายใน30วันตามที่ได้ประกาศไปแล้ว ได้แก่ คอนเสิร์ตร่างทรงคนเขียนเพลง, ช่อง 8 พบเพื่อนเฟสติวัล เป็นต้น

ด้านนายบรรณสิทธิ์ รักษ์วงษ์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่องโมโน 29 กล่าวว่า  ช่องโมโน ยังคงเน้นการนำเสนอสารคดีเทิดพระเกียรติ สลับกับการรับสัญญาณจากสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย(ทรท.) ซึ่งเป็นแม่ข่ายของช่อง 11  ส่วนการตัดกลับเข้าสู่รายการปกติและการปรับผังรายการของทางสถานีนั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา เบื้อต้นได้มีการปรับในแต่ละคอนเทนต์ไปบ้างแล้ว เช่น รายการข่าว  ได้มีการปรับเนื้อหาให้เป็นข่าวกลางๆ หลีกเลี่ยงการนำเสนอข่าวที่รุนแรง ส่วนภาพยนตร์ต่างๆ ก็ได้มีการปรับแนวหนังให้มีเนื้อหาที่เบาลง

ส่วนช่องพีพีทีวี  ก็ได้มีการปรับผังรายการใหม่เช่นกัน  เพื่อให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน พร้อมกับแสดงความไว้อาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ด้วยการเน้นคอนเทนต์ของการนำเสนอไปที่รายการข่าว สารคดี  และกีฬา ซึ่งคอนเทนต์ดังกล่าวถือเป็นคอนเทนต์หลักที่พีพีทีวีมีอยู่แล้ว จึงทำให้ไม่ต้องปรับเนื้อหาที่จะนำมาออกอากาศมากนัก เมื่อเทียบกับช่องที่มีคอนเทนต์หลักเน้นเป็นรายการวาไรตี้ และละคร

 
เช่นเดียวกับช่องเวิร์คพอยท์  อัมรินทร์ทีวี  เนชั่นทีวี  นาวทีวี  วอยซ์ทีวี  สปริงนิวส์  นิวส์ทีวี  ไบร์ททีวี  ทีเอ็นเอ็น  ทรู4ยู  ไทยรัฐทีวี  ช่อง3แฟมิลี่  ช่อง3เอสดี  ช่อง3เอชดี  ช่องวัน และช่อง 7  ที่ออกมาปรับผังรายการใหม่  ด้วยการเน้นการออกอากาศในส่วนของรายการข่าวและรายการสารคดีเป็นหลัก  จนกว่าจะมีประกาศการเปลี่ยนแปลงการออกอากาศ

ขณะที่รายการต่างๆ ไม่สามารถออกาอากาศได้ตามปกติ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงของการไว้อาลัย  ในส่วนของภาคธุรกิจโฆษณา  ซึ่งมีรายได้หลักมาจากสื่อทีวีก็ออกมาแถลงถึงข้อปฏิบัติที่เหมาะสมสำหรับการนำเสนอเนื้อหาของการโฆษณาสินค้าเช่นกัน ทั้งนี้ก็เพื่อความเหมาะสม และแสดงความไว้อาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 

 แม้ว่าแนวทางปฏิบัติดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจไปบ้าง แต่เชื่อว่าในช่วงเวลานี้ทุกภาคส่วนเต็มใจให้ความร่วมมือ เพื่อเป็นการถวายความอาลัยต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ซึ่งเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย  อย่างไรก็ดี  หากมีประกาศใหม่ออกมาให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ  การแข่งขันในด้านของธุรกิจคงกลับมารุนแรงอย่างแน่นอน 
 

LastUpdate 19/10/2559 19:18:41 โดย : Admin
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 4:36 am