เมื่อเวลา 8.30 น. วันที่ 20 ตุลาคม 2559 ณ อาคารหอประชุมชั้น ๒ สำนักงาน กสทช. พันเอก ดร.นที ศุกลรัตน์ ประธาน กสท. เผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ในวันนี้ได้สรุปผลการประชุมของครั้งที่ 1-3 ที่ผ่านมาเพื่อให้ผู้ประกอบการทุกรายเข้าใจและสามารถดำเนินการได้อย่างถูกต้อง โดยวันนี้ได้สรุปและพิจารณาเรื่องแนวทางการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุกระจายเสียง โดยได้ประชุมกับผู้ประกอบการโทรทัศน์และผู้ประกอบการสถานีวิทยุกระจายเสียง ได้ข้อสรุปดังนี้
เริ่มจากผลการประชุม กสท. ครั้งที่ 1/2559 ที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2559 โดยได้มีมติกำหนดแนวปฏิบัติสำหรับผู้รับใบอนุญาติประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กรณีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต ดังนี้
1.การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเสด็จสวรรคต ให้ปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อปฏิบัติของสำนักพระราชวังโดยเคร่งครัด
2.การถ่ายทอดภาพหรือเสียงเกี่ยวกับการเสด็จสวรรคต และงานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคตให้เชื่อมโยงสัญญาณโดยตรงจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยและสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย โดยมิให้นำเอาภาพและเสียงไปออกอากาศซ้ำเว้นแต่จะได้รับอนุญาต
และ 3.การเผยแพร่รายการต่างๆของสถานีวิทยุกระจายเสียง สถานีโทรทัศน์ ให้งดการเผยแพร่รายการรื่นเริงเป็นเวลา 30 วัน และขอให้คำนึงถึงความเหมาะสม เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและร่วมถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร
จากนั้น ได้ชี้แจงถึงผลการประชุม กสท. ครั้งที่ 2/2559 เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยพันเอก ดร.นที เปิดเผยว่า การประชุมครั้งที่ 2 เป็นการชี้แจงการเผยแพร่รายการต่างๆโดยในการประชุมครั้งที่ 1 ได้แจ้งแล้วว่า ให้งดการเผยแพร่รายการที่แสดงถึงความรื่นเริงเป็นเวลา 30 วัน และขอให้คำนึงถึงความเหมาะสม โดยย้ำให้ถือปฏิบัติดังนี้
1.การนำเสนอรายการและการโฆษณาของสถานีจะต้องไม่เป็นการแสดงถึงการบันเทิงใจ การเล่นเต้นรำทั้งปวง การสนุกรื่นเริง ล่อแหลม รุนแรง ตลอดจนแสดงกริยาที่ไม่สำรวม แสดงอารมณ์เกินกว่าสมควรซึ่งเกินกว่าความเหมาะสมภายใต้บริบทของความโศกเศร้าเสียใจของคนไทย
2.ผู้ดำเนินรายการ พิธีกร ผู้ประกาศ และบุคคลร่วมรายการแต่ละสถานี ต้องแต่งกายเรียบร้อย เหมาะสม ใช้โทนสีขาวดำ ห้ามลวดลาย และใช้โทนสีดำมากกว่าสีขาว โดยการใช้ถ้อยคำน้ำเสียง กริยาการแสดงออก ต้องสำรวมเหมาะสม
3.ภาพและสีที่ใช้ในการออกอากศรายการของสถานีให้ปรับระดับของสีให้เหมาะสมต่อการร่วมถวายความอาลัย และกรณีนำเอารายการจากต่างประเทศมาเผยแพร่ออกอากาศ จะต้องตรวจสอบเนื้อหาและรูปแบบการนำเสนอ
4.ให้เชื่อมโยงสัญญาณจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยทันทีเมื่อมีการถ่ายทอดรายการที่เกี่ยวข้องกับพระราชพิธี และข้อ5. จะต้องตรวจสอบรายการทุกรายการที่แพร่ภาพและกระจายเสียงออกอากาศให้เป็นไปตามที่กล่าวมาตลอดระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่13 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป
.jpg)
ต่อมาได้ชี้แจงว่าสำนักงาน กสทช. มีการสรุปแนวทางการออกอากาศออกมาให้เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2559 โดยเมื่อได้ประชุมหารือกับผู้ประกอบการแล้ว ได้ข้อสรุปอีกว่า การถ่ายทอดรายการจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท) ให้สถานีโทรทัศน์ในระบบภาคพื้นดิน โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม โทรทัศน์ผ่านทางสายโทรทัศน์ระบบ IP รวมถึงสถานีวิทยุกระจายเสียงของหน่วยงานรัฐ และสถานีทดลองประกอบกิจการกระจายเสียง เชื่อมโยงสัญญาณเมื่อปรากฏสัญลักษณ์โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และจะออกจากการเชื่อมโยงสัญญาณเมื่อปรากฏสัญลักษณ์โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ห้วงเวลาที่กำหนดให้เชื่อมโยงสัญญานจะเป็นช่วงของการถ่ายทอดสด “พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม และประโคมย่ำยาม” เฉพาะเวลาเช้าและเย็น และในกรณีที่ พระบรมวงศานุวงศ์หรือกษัตริย์ต่างประเทศมาร่วมในพระราชพิธีฯ ในด้านรูปแบบการนำเสนอรายการในห้วงระยะเวลา 30 วัน ข้อมูลข่าวสารควรมีความหลากหลาย และมีรายการเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้วย ส่วนการออกอากาศรายการที่ไม่ใช่รายการข่าวสาร เช่น รายการกีฬา รายการละคร รายการเพลง รายการเด็ก หรือการโฆษณา ให้ทำได้แต่จะต้องเป็นไปตาม มติ กสท ที่ประชุมในครั้งที่ 1 และ 2 ที่ผ่านมา
ต่อมาได้ชี้แจงถึงผลการประชุมครั้งที่ 3 โดยพันเอก ดร.นที ได้กล่าวว่า ในการประชุมครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้พิจารณาถึงเรื่องการกำหนดแนวปฏิบัติเพิ่มเติมของผู้ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์เพิ่มเติม โดยให้สามารถดำเนินรายการให้มีความหลากหลาย และยังคงไว้ซึ่งบรรยากาศการถวายความอาลัยในช่วงเวลา 30 วัน โดยมีมติให้การถ่ายทอดพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในกรณีที่พระบรมวงศานุวงศ์ หรือกษัตริย์ต่างประเทศมาร่วมในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล จะออกอากาศสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ซึ่งหากสถานีโทรทัศน์ใดประสงค์จะเชื่อมโยงสัญญานก็สามารถทำได้ และสุดท้าย
ในส่วนของรูปแบบการนำเสนอรายการนอกเหนือเวลาที่เชื่อมโยงสัญญานจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เมื่อครบระยะเวลา 7 วัน (วันที่ 21 ต.ค. 2559) ให้ถือปฏิบัติตามมติ กสท. ที่ประชุมไปครั้งที่ 1 และ 2 ส่วนการออกรายการที่มีความเหมาะสม สำหรับปฐมวัย (ป) เด็ก (ด) และทั่วไป (ท) รวมถึงการโฆษณาสามารถออกอากาศได้ แต่ขอให้สถานีระมัดระวังในการออกอากาศและตรวจสอบไม่ให้ขัดแย้งกับมติ กสท. ที่ประชุมในครั้งที่ 1 และ 2 รวมถึงแนวทางการออกอากาศที่ได้ประชุมร่วมกันไปแล้ว ทั้งนี้ ขอให้ควบคุมระดับสีเพื่อคงบรรยากาศการถวายความอาลัยไปตลอดระยะเวลา 30 วัน
.jpg)
.jpg)
ข่าวเด่น