กลุ่มบริษัทเอไอเอประกาศผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาสที่ 3 ปี 2559 ด้วยมูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 โดยคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่
กลุ่มบริษัทเอไอเอ จำกัด ประกาศผลประกอบการ ประจำไตรมาสที่ 3 สิ้นสุด วันที่ 31 สิงหาคม 2559 ด้วยมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 โดยคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่
จุดเด่นผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 โดยคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่
• มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 เป็น 689 ล้านเหรียญสหรัฐ
• เบี้ยประกันภัยใหม่รับปีแรก (ANP) เพิ่มขึ้นร้อยละ 44 เป็น 1,333 ล้านเหรียญสหรัฐ
• อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) คิดเป็นร้อยละ 50.7
• เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เป็น 5,678 ล้านเหรียญสหรัฐ
มร.มาร์ค ทัคเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ เปิดเผยว่า “ในไตรมาสที่ 3 นี้ เอไอเอยังคงมีผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม โดยมีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 เป็น 689 ล้านเหรียญสหรัฐ ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 สะท้อนให้เห็นถึงอัตราการเติบโตแบบมีผลกำไรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จจากกลยุทธ์การดำเนินงานที่มุ่งสร้างข้อได้เปรียบด้านการแข่งขันของเอไอเอในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อีกทั้งช่องทางการจัดจำหน่ายและผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่หลากหลาย บวกกับความแข็งแกร่งของแบรนด์เอไอเอ ตลอดจนความเข้มแข็งของงบดุลและคุณภาพของบุคลากร ส่งผลให้เอไอเอมีความได้เปรียบเชิงธุรกิจในด้านการให้คำแนะนำที่มีความน่าเชื่อถือ และตรงกับความต้องการด้านการเงินในระยะยาวของลูกค้า”
”เอเชียเป็นภูมิภาคที่มีความน่าดึงดูดและมีศักยภาพในการเติบโตมากที่สุดในโลกสำหรับธุรกิจประกันชีวิต ผลการดำเนินงานของเอไอเอใน 9 เดือนของปีงบประมาณ 2559 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตอย่างมีผลกำไร ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของเรา ผนวกกับโอกาสการเติบโตในภูมิภาคที่เราดำเนินงานอยู่ เอไอเอยังคงให้ความสำคัญกับการให้คำแนะนำที่มีคุณภาพแก่ลูกค้า และการดำเนินธุรกิจใหม่อย่างมีคุณภาพ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งในการสร้างการเติบโตของธุรกิจใหม่อย่างมีผลกำไร ตลอดจนการคืนผลกำไรที่เพิ่มขึ้นแก่ผู้ถือหุ้น เพราะเรามุ่งช่วยให้ลูกค้าของเรามีอายุยืนยาวขึ้น มีสุขภาพที่ดีขึ้นตลอดจนช่วยวางแผนเพื่ออนาคตที่สดใสยิ่งขึ้น” มร. มาร์ค ทัคเกอร์ กล่าวปิดท้าย
สรุปผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3
มูลค่าธุรกิจใหม่เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 เป็น 689 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2558
ธุรกิจของเราในฮ่องกงมีผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม ด้วยอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ทั้งนี้ เป็นผลมาจากผลงานที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นของตัวแทน และผลงานที่ยอดเยี่ยมของช่องทางพันธมิตรทางธุรกิจ เรายังคงได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของตลาดในประเทศฮ่องกง และแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจใหม่จากลูกค้าจีน และเมื่อเร็วๆ นี้ เอไอเอ ฮ่องกง ยังคงครองอันดับสูงสุดจากการเป็นสมาชิกสโมสรล้านเหรียญโต๊ะกลม (Million Dollar Round Table) หรือเอ็มดีอาร์ทีในประเทศฮ่องกง อีกทั้งยังเป็นบริษัทอันดับสามของโลกอีกด้วย
ในประเทศจีน การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มอบความคุ้มครองแบบชำระเบี้ยประกันภัยรายงวดเป็นหลัก บวกกับความเป็นมืออาชีพในการให้บริการของเรา ทำให้เราสามารถสร้างรายได้ที่มีคุณภาพสูง และส่งผลให้ธุรกิจของเราเติบโตอย่างมีผลกำไร นอกจากนี้ การดำเนินงานตามกลยุทธ์พรีเมียร์ เอเจนซี่ (Premier Agency) รวมทั้งการให้คำแนะนำที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ทำให้เราสามารถสร้างความแตกต่างให้กับลูกค้า และช่วยให้เอไอเอยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่ในครึ่งปีแรก
ประเทศมาเลเซียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เป็นตัวเลขสองหลัก ทั้งนี้เป็นผลมาจากผลงานที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นของตัวแทน และกลยุทธ์ในการบริหารธุรกิจประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-linked) แบบชำระเบี้ยประกันภัยรายงวด บวกกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์เน้นความคุ้มครองที่สูงขึ้น สำหรับในประเทศสิงคโปร์ มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ลดลงในไตรมาสที่ 3 เนื่องจากการเติบโตของธุรกิจชำระเบี้ยประกันภัยแบบรายงวดในช่องทางตัวแทนได้รับผลกระทบจากยอดขายของเบี้ยประกันภัยแบบชำระครั้งเดียวที่ลดลงในช่องทางพันธมิตรทางธุรกิจ สำหรับในประเทศไทย เรายังคงให้ความสำคัญกับการปรับปรุงคุณภาพของช่องทางตัวแทน ซึ่งเป็นช่องทางหลักของเรา รวมทั้งเพิ่มยอดขายของธุรกิจประกันชีวิตควบการลงทุนแบบชำระเบี้ยประกันภัยรายงวด ในขณะเดียวกันตลาดในประเทศอื่น ๆ ยังคงมีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เป็นตัวเลขสองหลักเมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2558
เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) มีอัตราการเติบโตร้อยละ 44 เป็น 1,333 ล้านเหรียญสหรัฐ และอัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) คิดเป็นร้อยละ 50.7 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2558 สำหรับอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับปีแรกเป็นผลมาจากการปรับปรุงประสิทธิภาพผลงานของตัวแทน การเพิ่มจำนวนตัวแทน และผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมของช่องทางพันธมิตรทางธุรกิจ อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากสัดส่วนของยอดขายของแบบประกันที่เน้นความคุ้มครองที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ตลาดตราสารทุนมีความผันผวน และจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาวของแบบประกันที่มีเงินปันผลในไตรมาสปัจจุบัน นอกจากนี้ สมมติฐานเชิงเศรษฐกิจระยะยาวยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากที่เคยแสดงไว้ในรายงานประจำปี 2558 รวมทั้งวิธีการที่เราใช้ในการรายงานผลการดำเนินงานธุรกิจใหม่ประจำไตรมาสยังเหมือนเดิม อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่อยู่ที่ร้อยละ 52.0 ในช่วง 9 เดือนสิ้นสุด วันที่ 31 สิงหาคม 2559 เปรียบเทียบกับปี 2558 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 52.7 และอัตรากำไรของมุลค่าปัจจุบันของเบี้ยประกันภัยธุรกิจใหม่ (PVNBP) ยังคงอยู่ที่ร้อยละ 9 ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาสิ้นสุด วันที่ 31 สิงหาคม 2559
เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เป็น 5,678 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2558
เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย ยกเว้นประเทศญี่ปุนยังคงมีความยืดหยุ่นและได้รับประโยชน์จากรากฐานเศรษฐกิจ มหภาคที่มีความแข็งแกร่งสูงกว่าภูมิภาคอื่น ๆ ในโลก ในขณะที่ภูมิภาคเอเชียยังต้องเผชิญกับความผันผวนของตลาดทุนของโลก เอเชียก็ยังคงได้รับผลกระทบในทางลบจากนโยบายการเงินตึงตัวของสหรัฐอเมริกา และการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในประเทศญี่ปุ่น และบางประเทศในยุโรป การเปลี่ยนแปลงของประเทศจีนสู่การเติบโตเชิงคุณภาพที่สูงขึ้นได้รับการสนับสนุนจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจภาคบริการและแนวโน้มภาวะเงินเฟ้อที่ไม่รุนแรง เราเชื่อว่าการเติบโตของประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคจะดีขึ้นในปีหน้า หลังจากที่ตกต่ำลงเล็กน้อยในปีนี้ ตลาดประกันชีวิตในเอเชียยังคงได้รับประโยชน์จากเทรนด์โครงสร้างทางเศรษฐกิจและประชากรศาสตร์
การเติบโตอย่างรวดเร็วของสังคมเมือง รวมทั้งรายได้ที่สามารถใช้จ่ายได้ในภูมิภาคจะเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตและความต้องการผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตของเรา เรายังคงเชื่อมั่นในกลุ่มเป้าหมายของเอไอเอและความสามารถของเราในการสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนต่อไปแก่ผู้ถือหุ้นของเรา
ความผันผวนด้านอัตราแลกเปลี่ยน
เอไอเอมีเบี้ยประกันภัยจำนวนมหาศาลตามเงินตราสกุลท้องถิ่นเกือบเท่ากับจำนวนสินทรัพย์และหนี้สิน ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน ในรายงานการเงินของกลุ่มที่มีการแปลเป็นเงินตราสกุลดอลลาร์สหรัฐ มีการเปรียบเทียบอัตราการเติบโตจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ เว้นแต่ระบุเป็นอย่างอื่น เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนของผลการดำเนินธุรกิจระหว่างปี
การสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ทั้งนี้ คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กลุ่มบริษัทเอไอเอ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของพระราชวงศ์และปวงชนชาวไทยมา ณ ที่นี่ และขอน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ
ข่าวเด่น