เมื่อ 25 ต.ค.2559 ทีมข่าวเอซีนิวส์ สำรวจพื้นที่ภายในสนามหลวง โดยวันนี้มีการจัดระเบียบประชาชนที่มีจิตอาสามาแจกอาหาร เครื่องดื่ม หลังจากที่มีการชี้แจงของเจ้าหน้าที่ ขอประชาชนที่ต้องการนำอาหารมาแจก ไปลงทะเบียนที่จุดรับลงทะเบียน ตรงข้ามกับด้านประตูทางออก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบจำนวนอาหาร โดยจะมีเจ้าหน้าที่พาไปที่เต็นท์ เพื่อความเป็นระเบียบ โดยขณะนี้ที่สนามหลวงเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าขณะนี้อาหารและน้ำดื่มเพียงพอต่อจำนวนประชาชน หากใครที่จะมาร่วมแจกอาหาร ขอให้นำอาหารแห้งมาจะดีกว่าอาหารสด เพราะด้วยสภาพอากาศร้อน ทำให้เก็บรักษาอาหารได้ลำบาก ซึ่งอาจทำให้เสียได้ เร็วกว่าอาหารแห้งที่เสียยากในสภาพอากาศร้อน
.jpg)
.jpg)
ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มเปิดให้ประชาชนร่วมถวายสักการะ มีประชาชนเดินทางมายังสนามหลวงจำนวนมากหลายหมื่นคนต่อวัน และมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในวันนี้ (25 ต.ค.)เป็นวันทำงาน ทำให้ประชาชนยังไม่หนาแน่นมากนัก โดยในแต่ละวันที่ประชาชนเดินทางมายังบริเวณสนามหลวง ส่งผลให้ปริมาณขยะในพื้นที่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว โดยในวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา เป็นวันที่มีประชาชนเดินทางมามากที่สุด จึงทำให้ปริมาณขยะสูงขึ้นมาก (ข้อมูลจาก กทม.ระบุว่ามีปริมาณขยะสูงถึง 175 ตัน)
ส่วนประชาชนที่เดินทางมาร่วมแสดงความอาลัย หากจะมาร่วมรับประทานอาหาร ก็จะต้องจัดระเบียบเช่นกัน โดยทุกคนจะต้องต่อแถวให้เป็นระเบียบ ซึ่งประชาชนล้วนให้ความรวมมือในการต่อแถวและมีระเบียบวินัยเป็นอย่างดี"
ทั้งนี้ ทางกรุงเทพมหานครฝากขอความร่วมมือประชาชนที่จะเดินทางมาสนามหลวงให้เตรียมกล่องสำหรับใส่อาหารหรือภาชนะสำหรับบรรจุอาหารมาด้วย เพื่อลดปริมาณขยะ เนื่องจากรถขนขยะเองก็ขับเข้ามาในพื้นท้องสนามหลวงได้ยาก เพราะมีประชาชนจำนวนมาก และขยะก็เป็นประเภทถ้วยโฟมพลาสติกที่ย่อยสลายได้ยากด้วย
โดยในวันนี้ นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานปล่อยขบวนรณรงค์แยกขยะก่อนทิ้ง เพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนแยกขยะก่อนทิ้งและทิ้งให้ถูกถัง ตามประเภทขยะที่กำหนด พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดคัดแยกขยะรอบสนามหลวง จำนวน 10 จุด ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ตั้งถังขยะแยกประเภทไว้ 3 ประเภท ประกอบด้วย ถังสีเขียว ทิ้งขยะเศษอาหาร ถังสีน้ำเงิน ทิ้งขยะทั่วไป และถังสีเหลือง ทิ้งขยะรีไซเคิล
ข่าวเด่น