บรรยากาศท้องสนามหลวง เมื่อ 29 ต.ค. ซึ่งเป็นวันแรกที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ยังมีพสกนิกรที่หลั่งไหลมารอคิวเพื่อเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพกันอย่างไม่ขาดสาย ประชาชนต้องต่อคิววนรอบสนามหลวง3-4 รอบ และด้วยจำนวนประชาชนที่มีมากทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยกเลิกระบบการแจกบัตรคิวโดยใช้วิธีการจัดคิวเป็นกลุ่มๆแทน ซึ่งจะยึดระบบดังกล่าวในวันพรุ่งนี้(30 ต.ค.)ด้วยเช่นกัน
แม้ว่าตามกำหนดการในวันนี้ จะเปิดให้เข้าถวายบังคมพระบรมศพเวลา 08.00-21.00น. แต่เนื่องจากมีประชาชนมารอกันตั้งแต่ค่ำคืนของวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเปิดให้ประชาชนกลุ่มแรกเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพก่อนเวลา ตั้งแต่ 04.00น.
ยายบัวคำ วัย 78 ปี เดินทางมาคนเดียวจาก จ.ลำปาง เป็นอีกคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มแรกของวันนี้ (29 ต.ค.) ที่ได้เข้าถวายบังคมพระบรมศพ ตั้งแต่เวลา 05.30 น. ซึ่งยายบัวคำเผยทั้งน้ำตาหลังเข้าไปกราบพระบรมศพว่า ตนนั่งรถทัวร์จากจังหวัดลำปาง เพียงคนเดียว มาท้องสนามหลวงตั้งแต่เมื่อวาน(28 ต.ค.) แล้ว ตั้งใจมาต่อคิวเพราะอยากจะเข้าไปกราบถวายบังคมพระบรมศพเป็นคนแรกๆ มายืนต่อคิวตั้งแต่เที่ยงคืน ได้เข้าไปถวายบังคมเมื่อ 05.30 น. (29 ต.ค.)
"ยายเป็นคนแรกๆ ที่เขาเปิดให้เข้าไปกราบพระบรมศพ ตอนเข้าไปกราบรู้สึกอุ่น เหมือนกำลังกราบพ่อของตัวเอง วันนี้ยายนำรูปพระบรมฉายาลักษณ์ ของพระองค์ติดตัวมาด้วย อยู่ที่บ้านเวลายายทำงานเหนื่อยหรือท้อก็จะมองรูปของพระองค์เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเสมอ "
ยายบัวคำ ยังได้กล่าวด้วยว่า ท่านสอนให้เราใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ตลอดชีวิตของยายตั้งแต่ยายจำความได้ ยายก็เห็นท่านทรงงานอย่างหนักมาโดยตลอด ยายเป็นชาวไร่ชาวนา ยายก็เดินตามรอยของท่าน ยายอยากสอนลูกสอนหลาน ให้เป็นคนดีตอบแทนที่พระองค์คอยดูแลเรามาตลอด 70 ปี และขอให้บุญบารมีของพระองค์จงคุ้มครองลูกหลานในประเทศไทยให้อยู่เย็นเป็นสุข รู้รักสามัคคีแบบนี้ตลอดไป
ข่าวเด่น