เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
แพทย์อาสาร่วมใจถวายเป็นพระราชกุศล


 


ในขณะที่พสกนิกรจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลมาด้วยจุดหมายเดียวกันเพื่อแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  สายธารน้ำใจจากคนไทยที่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวงก็มีให้เห็นไม่ขาดสาย   เช่นเดียวกับกลุ่มแพทย์อาสาช่วยเหลือประชาชนที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนมาอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน
 

“ถึงแม้คนไข้จะมีจำนวนมาก แต่การมาออกหน่วยเพราะทุกคนรักพระองค์ท่าน” คำกล่าวตอนหนึ่งของ พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ รองเลขาธิการแพทยสภา และผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพอากาศ เลขาธิการมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งหน่วยบริการประชาชนอีกจุดหนึ่งในพื้นที่ท้องสนามหลวง
 
 
 
 
      
 พล.อ.ต.นพ.อิทธพร เล่าว่า จุดประสงค์ที่แพทย์อาสาจากโรงพยาบาลต่างๆ มารวมตัวกันเพื่อให้บริการประชาชน ภายใต้ชื่อโครงการแพทย์อาสาร่วมใจถวายเป็นพระราชกุศล ที่สนามหลวงบริเวณฝั่งตรงข้ามทางเข้าวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร เพราะทุกคนต้องการทำความดีด้วยใจเพื่อถวายในหลวง และอยากให้สนามหลวงในวันนี้เป็นสถานที่แห่งการรวมน้ำใจของคนที่ทำความดีมาอยู่ร่วมกัน เพื่อบริการและช่วยเหลือประชาชน
 

โดยหน่วยแพทย์อาสาแห่งนี้ เป็น 1 ใน 12 หน่วยที่มีอยู่ในพื้นที่สนามหลวง มีลักษณะพิเศษคือจะเป็นแพทย์อาสาทั้งหมด อาทิ แพทย์จากโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข แพทย์ทหารบก แพทย์ทหารเรือ แพทย์ทหารอากาศ รวมถึงแพทย์จากโรงพยาบาลเอกชน แต่ถึงอย่างไรการทำงานของแพทย์อาสาทุกจุดจะปฏิบัติหน้าที่เชื่อมกับกองอำนวยการทางการแพทย์หลักในพื้นที่ โดยจะดูแลอาการผู้ป่วยเบื้องต้น เช่น ปวดหัว  เป็นลม เป็นไข้ ท้องเสีย ผื่นคัน ฯลฯ
 
 
 
 

รองเลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า แพทย์อาสาทุกคนที่มาช่วยงาน มาจากโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ซึ่งไม่ได้รับค่าตอบแทน เพราะทุกคนเข้ามาช่วยด้วยจิตอาสาถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งการจัดคิวรักษาขึ้นอยู่กับความสะดวกของแพทย์แต่ละบุคคล โดยเริ่มมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา และจะมีไปจนถึงพิธีพระบรมศพครบ 100 วัน โดยบุคลากรทางการแพทย์จะสลับเปลี่ยนหมุนเวียนมาบริการประชาชน 
 
 
 
 
 

" เราเป็นหน่วยการให้บริการรักษาเบื้องต้น ภายในจุดบริการนี้จะมีจุดลงทะเบียนด้านหน้า มีห้องทำแผล เย็บแผล ห้องให้น้ำเกลืออยู่ภายใน  มีจุด OPD ที่ให้คนไข้นั่งตรวจ และสุดท้ายคือจุดจ่ายยา โดยจะมีเภสัชกรจากโรงพยาบาลรามาธิบดีและโรงพยาบาลศิริราชผลัดเปลี่ยนกันมาให้บริการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ส่วนมากจะรองรับประชาชนที่มาจากต่างจังหวัด เพราะช่วงนี้อากาศไม่ดี มีฝนตกบ่อย ร้อนบ้าง คนจะเป็นลมเยอะ บางคนเป็นโรคหัวใจ บางคนมีความเครียดจากการโศกเศร้าเสียใจ หรือแม้กระทั่งคนที่ปรุงอาหารในพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุก็มาได้  เพราะถึงแม้คนไข้จะมีสิทธิการรักษาพยาบาลบัตรทองอยู่แล้ว แต่ว่ แถบนี้จะไม่สามารถใช้สิทธิได้ ถ้าหากไปโรงพยาบาลรัฐก็จะไกลไป ถ้าเดินมาที่จุดบริการเราภายในไม่กี่นาทีก็จะได้ยากลับไปทานแล้ว คนไข้ทั้งหมด ทั้งจากต่างจังหวัดและภายในพื้นที่ก็จะได้รับการดูแลอย่างดี ส่วนคนไข้ที่อาการหนักมากเราจะทำการส่งต่อไปที่โรงพยาบาลกลางสนามหลวงของกองทัพบก เพื่อทำการวินิจฉัยที่ละเอียดในระดับสูงขึ้นไป "
 
 
       
รองเลขาธิการแพทยสภา ยังได้กล่าว ทิ้งท้ายว่า คนที่มาใช้บริการรักษาพยาบาลที่นี่หนึ่งอย่างที่เรามีให้คือ “ใบโพธิ์การทำดีเพื่อพ่อ” เพราะว่าหมอพยาบาล เราทำความดี โดยการอาสามาพยาบาลคนไข้แล้ว เราอยากส่งต่อให้คนไข้ได้เขียนคำสัญญาว่าจะทำความดี 1 ข้อ มาติดบนต้นไม้แห่งความดีถวายพ่อหลวง  เพราะฉะนั้นความดีก็จะมีต่อเนื่องกระจายออกไป ไม่ใช่แค่ที่นี่ แต่ติดตัวกลับไปที่บ้านด้วย ก็เป็นต้นแบบอย่างหนึ่งที่เราอยากให้ทุกคนร่วมกันทำความดี  

“เราเป็นเพียงหนึ่งในอีกหลายคนที่อยากอาสาทำความดีถวายพ่อหลวง ซึ่งมีคนมากมายเลือกทำความดีเยอะมาก สนามหลวงของวันนี้เป็นสนามแห่งการทำความดีถวายพ่อหลวง ไม่ใช่เพียงแต่ หมอ พยาบาล เภสัชกรเท่านั้น แต่ยังมีวินมอเตอร์ไซด์ที่ทำความดี มีหลายคนเอาอาหารมามอบให้ มีช่างตัดผมมาตัดผมให้ฟรี มีกิจกรรมหลากหลายที่ทุกคนอาสามาเยอะมาก แม้สนามหลวงในวันนี้มีความเศร้า แต่ก็มีรอยยิ้มของผู้ให้ และรอยยิ้มของผู้รับ กลายเป็นสนามแห่งความสุขได้เพียงเรามองในแง่ดีมากขึ้น ผมอยากฝากว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่พระองค์ท่านอยากเห็น เราเชื่อมั่นว่าการให้ ตามแบบที่พ่อสอนเรามาตลอดจะทำให้ที่นี่เป็นที่แห่งความสุข คนไทยจะรักกัน ทำความดีให้กัน เช่นนี้ไปตลอด เชื่อว่าจะทำให้ประเทศชาติเรามีความสุขได้อย่างแน่นอน”
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 31 ต.ค. 2559 เวลา : 22:14:26
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 1:41 pm