หลังจากปล่อยให้คู่แข่งทั้งรายใหญ่และรายรองเปิดเกมรุกชิงลูกค้าไปพักใหญ่ ล่าสุดร้านแฟมิลี่มาร์ท เริ่มออกมาเปิดกลยุทธ์การทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย ให้ผู้บริโภคและคู่แข่งได้เห็นบ้างแล้ว หลังจากหายไปปรับโครงสร้างธุรกิจทั้งในด้านผู้บริหารและกลยุทธ์การทำตลาดมาพักใหญ่
ความพร้อมที่แฟมิลี่มาร์ทงัดมาสู้คู่แข่งในตลาดครั้งนี้ถือว่ามีความแตกต่างจากครั้งที่ผ่านๆมาพอสมควร เห็นได้จากการปรับเปลี่ยนสินค้าที่จำหน่ายภายในร้านแล้ว ในด้านของบริการก็ยังมีการปรับเปลี่ยนให้ลูกค้ามีความสะดวกสบายและได้รับสิทธิประโยชน์มากขึ้นอีกด้วย เห็นได้จากการซินเนอร์ยีกลยุทธ์การตลาดกับบริษัทแม่อย่างกลุ่มเซ็นทรัล ด้วยการให้ลูกค้าสามารถนำบัตรเดอะ วันการ์ดเข้ามาสะสมคะแนนภายในร้านแฟมิลี่มาร์ทได้ เพียงแสดงบัตรเดอะ วันการ์ด หรือบอกเบอร์โทรศัพท์
นางจิรนันท์ ผู้พัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล แฟมิลี่มาร์ท จำกัด กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจของร้านแฟมิลี่มาร์ทนับจากนี้ จะดำเนินธุรกิจภายใต้สโลแกน “อร่อยด้วยกันทุกแวลา” ซึ่งบริษัทจะมุ่งพัฒนาอาหารพร้อมทานมากขึ้น ด้วยการจับมือร่วมกับพันธมิตรคู่ค้าชั้นนำพัฒนาอาหารพร้อมทนให้มีความหลากหลายและมีความต่างจากคู่แข่งมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ก็จะพยายามนำเสนอสินค้าที่มีจุดเด่นเฉพาะ เช่น แซนวิชอบร้อน ข้าวหมกไก่ และอาหารพร้อมทาน “แฟมิ มลิวัลย์” ที่ปรุงสดใหม่ทุกวัน โดยจะผลิตสินค้าให้ตรงกับแนวโน้วการตลาดและความต้องการของผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังได้นำอาหารของร้านเดอะ เทอเรส เข้ามาจำหน่ายภายในร้านแฟมิลี่มาร์ทอีกหลายเมนู เช่น ข้าวซี่โครงหมูอบ ข้าวผัดเขียวหวานไก่-หมูแดดเดียว และ ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ-หมูหวาน เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า
ปัจจุบันแฟมิลี่มาร์ทมีสินค้าอุปโภคบริโภคจำหน่ายภายในร้านประมาณ 500 รายการ และในอนาคตมีแผนที่จะนำสินค้าใหม่ๆ เข้ามาให้บริการเพิ่มเติมอีกหลายรายการ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และชอบความสะดวกสบาย ซึ่งสินค้าทุกรายการที่นำมาจำหน่ายจะเน้นไปที่การให้ความสำคัญในเรื่องรสชาติและคุณภาพของวัตถุดิบ
นางจิรนันท์ กล่าวต่อว่า บริษัทได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรคู่ค้าญี่ปุ่นในประเทศไทยอีกช่องทางหนึ่ง เพื่อนำเสนอสินค้าที่ได้มาตรฐานและดีที่สุด เนื่องจากร้านแฟมิลี่มาร์ทเป็นแบรนด์ร้านสะดวกซื้อที่มาจากประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นคุณภาพของสินค้าและบริการจะต้องมีมาตรฐานที่ดี ซึ่งบริษัทจะเดินหน้าปรับปรุงสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากที่สุด
อีกหนึ่งบริการพิเศษที่ร้านแฟมิลี่มาร์ทจะหันมาให้ความสำคัญมากขึ้น คือ ลูกค้าสามารถสะสมแต้มทุกครั้งในการจับจ่ายด้วยบัตรเดอะ วันการ์ด นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถสมัครสมาชิกบัตรเดอะ วันการ์ด ได้ที่ร้านแฟมิลี่มาร์ททุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อรับสิทธิพิเศษจากการถือบัตร
นอกจากนี้ ร้านแฟมิลี่มาร์ทยังมีบริการในส่วนของ Mobile Application ซึ่งถือเป็นช่องทางหนึ่งในการสื่อสารกับลูกค้า โดยมีจุดเด่น คือ การใช้คะแนนการแลกสินค้าแทนเงินสด โดยจะมีโปรโมชั่นพิเศษให้ลูกค้าได้สินค้าในราคาประหยัด ซึ่งลูกค้าสามารถดาวน์โหลดได้ที่ Google Play Store / App Store พร้อมกันนี้ยังมีบริการ CenPay จ่ายบิลต่างๆ เพียงเสียค่าบริการแค่ 5 บาท
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ร้านแฟมิลี่มาร์ทจะเน้นกลยุทธ์เรื่องกิจกรรมคืนกำไรให้กับผู้บริโภค เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่ให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจในคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าและการบริการ โดยชูสินค้าราคาพิเศษ เมนูสุขภาพ ผักผลไม้สดในเทศกาล และในกลุ่มสินค้าอาหารพร้อมทานในราคากว่า 150 รายการ
สำหรับแผนการขยายสาขาใหม่ในปีนี้ ร้านแฟฟมิลี่มาร์ทมีแผนที่จะเปิดร้านใหม่ทั้งหม 60 สาขา จากปัจจุบันมีร้านแฟมิลี่มาร์ทเปิดให้บริการทั้งหมด 1,116 สาขาทั่วประเทศ โดยภายในอีก 5 ปีนับจากนี้ร้านแฟมิลี่มาร์ท น่าจะมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการไม่ต่ำกว่า 2,000 สาขาทั่วประเทศ เน้นโฟกัสขยายสาขาในเขตพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล หัวเมืองสำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวเป็นหลัก
อย่างไรก็ดี อัตราส่วนประมาณ 50% ยังคงเน้นการขยายสาขาไปในเขตพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล อีก 25% ขยายในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก และอีก 25% ขยายในเขตพื้นที่ภาคใต้ นอกจากนี้ ยังจะให้ความสำคัญขยายสาขาในพื้นที่โรงพยาบาล คอนโดมิเนียม ออฟฟิศสำนักงาน และปั๊มน้ำมัน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ
นางจิรนันท์ กล่าวอีกว่า ภาพรวมของร้านแฟมิลี่มาร์ทตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ยังคงเน้นในเรื่องการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในด้านการบริการ การนำสินค้าที่ตรงกับความต้องการมาจำหน่ายและครบวงจรให้ได้มากที่สุด พร้อมทั้งเน้นในด้านความสะดวกและใส่ใจในคุณภาพและรสชาติความอร่อยโดยเฉพาะกลุ่มอาหารพร้อมทาน เพราะเป็นหมวดสินค้าที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดกว่า 20 % ส่วนภาพรวมรายได้ของร้านแฟมิลี่มาร์ทในสิ้นปี 2559 นี้ คาดว่าจะมีอัตรากรเติบโตไม่ต่ำกว่า 7%
ขณะที่ร้านแฟมิลี่มาร์ทอยู่ระหว่างการจัดทัพ เพื่อชิงลูกค้าจากคู่แข่งที่มีอยู่รอบด้าน ในส่วนของคู่แข่งที่มีอยู่ในตลาดไม่ว่าจะเป็นร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ร้านลอว์สัน ร้านเทสโก้ โลตัสเอ็กซ์เพรส ร้านมินิบิ๊กซี หรือร้านท็อปเดลี่ ก็เดินหน้าขยายสาขาและเพิ่มบริการใหม่ๆ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะเจ้าตลาดอย่างร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งล่าสุดบริษัท แอสเซนด์ กรุ๊ป ได้บรรลุข้อตกลงให้ แอนท์ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ในเครืออาลีบาบาเข้าถือหุ้นในบริษัท แอสเซนด์ มันนี่ ผู้ให้บริการธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงิน (ฟินเทค) ในไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้ชื่อบริษัท ทรู มันนี่ ในสัดส่วน 20% และในอนาคตจะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 30% เพื่อร่วมกันขยายเครือข่ายชำระเงินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ การเปิดตัวเป็นพันธมิตรจะทำให้เปิดการเชื่อมโยงเครือข่ายชำระเงินระหว่างอาลีเพย์ และทรูมันนี่ในการรับชำระเงิน ซึ่งขณะนี้ลูกค้าอาลีเพย์สามารถชำระเงินผ่านร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นได้แล้ว ต่อไปจุดรับชำระของอาลีเพย์จะรับชำระเงินของทรูมันนี่ได้ด้วย ปัจจุบันในจีนมีจุดชำระเงินอาลีเพย์มากกว่า 1.5 ล้านแห่ง ส่วนในไทยมีจุดรับชำระทรูมันนี่กว่า 2 หมื่นแห่ง
จากการแข่งขันที่รุนแรงดังกล่าว ส่งผลให้ธุรกิจคอนวีเนียนสโตร์ในปีนี้ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์กันว่าสิ้นปี 2559 นี้จะมีการเติบโตมากกว่า 10 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และในอนาคตคาดว่าการเติบโตของร้านสะดวกซื้อจะเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันขนาดครอบครัวของคนไทยมีขนาดเล็กลง และอยู่ในพื้นที่ในเขตหัวเมืองและคอนโดมิเนียมมากขึ้น
ด้วยพฤติกรรมการเลือกซื้อของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนไป เห็นได้จากการเลือกซื้อสินค้าที่จะซื้อเฉพาะสินค้าที่จำเป็นในปริมาณที่ต้องการใช้ จึงถือเป็นโอกาสที่ร้านสะดวกซื้อที่จะเข้ามาขยายสาขา เพื่อนำเสนอสินค้าที่มีความหลากหลายและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด
ข่าวเด่น