เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
รัฐบาลไทยจับตานโยบาย ศก. สหรัฐฯ


 


ภายหลังการประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 45  อย่างพลิกความคาดหมาย เสียงสะท้อนจากฝ่ายต่างๆ   เชื่อว่าแม้ไทยจะได้รับผลกระทบบ้างแต่ธุรกิจก็จะปรับตัวได้   พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ว่า ยินดีกับคนที่ได้รับเลือกตั้ง ไม่ว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีต้องยอมรับ เพราะประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจเลือก ส่วนประเทศไทยต้องเตรียมตัวให้พร้อม ตามแนวทางที่ประเทศไทยได้สานความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ กว่า 183 ปี    โดยคำนึงผลประโยชน์สูงสุดของประเทศ
 
 
 
         
ด้านนายสมคิด  จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจ  มองว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมาไม่ว่าใครจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐถือว่าดีทั้งนั้น    และไทยจะต้องปรับตัวเพื่อให้นโยบายด้านต่างๆ สามารถร่วมมือและเดินหน้าต่อไปได้ โดยผลการเลือกตั้งดังกล่าวแสดงให้เห็นชัดเจนว่าคนอเมริกันต้องการความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่  สอดคล้องกับแนวทางรัฐบาลไทยปัจจุบันที่ไม่ต้องการนโยบายหรือสิ่งใดที่ซ้ำซาก   แต่ต้องการเปลี่ยนแปลงและโครงการใหม่ๆ เพื่อปูพื้นฐานของประเทศก้าวเดินไปข้างหน้า
        
 
นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการเลือกตั้งประธานธิบดีสหรัฐอเมริกาว่า  ส่งผลกระทบให้ตลาดเงินผันผวนพอสมควร   แต่เร็วเกินไปที่จะมองผลกระทบหากนายโดนัล ทรัมป์ ขึ้นรับตำแหน่ง เนื่องจากความไม่แน่นอนของนโยบายยังมีสูง เพราะก่อนที่สหรัฐฯ จะประกาศนโยบายใหม่ออกมาคงต้องใช้เวล า จึงมองว่ายังผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการค้าของโลกยังมีความไม่แน่นอน
 
         
นายวโรทัย   โกศลพิศิษฐ์กุล     รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ผลการเลือกตั้งที่นายโดนัลด์ ทรัมป์  ได้รับชัยชนะ จะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน  ที่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศเพียงพอต่อการรองรับความผันผวนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
 
         
แต่สิ่งที่ต้องจับตาในระยะสั้น คือ ความเคลื่อนไหวตลาดเงินตลาดทุนที่อาจเกิดความผันผวน และแนวทางนโยบายยังไม่ชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร   ซึ่งจะส่งผลให้กระทบกับความเชื่อมั่นนักลงทุนได้ ทำให้อาจจะเปลี่ยนไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงแทน เช่น ทองคำ
         
และนอกจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ แล้ว ยังมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 24 ธ.ค.นี้ ที่จะต้องติดตาม   โดยในเบื้องต้นคาดว่า FOMC จะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยเล็กน้อยในการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 พ.ย. 2559 เวลา : 19:41:44
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 3:48 pm