ท็อปส์ห่วงใยเกษตรกร เปิดพื้นที่ชวน 'ชาวนามาขายข้าว' ฟรี
การสนับสนุนจากภาคเอกชนในการเข้าไปมีส่วนร่วมกับภาคเกษตรกรที่กำลังประสบปัญหาราคาข้าว นับเป็นอีกหนึ่งหนทางที่จะช่วยให้ชาวนามีช่องทางในการระบายและจำหน่ายข้าวถึงมือผู้บริโภคโดยตรง จึงเป็นที่มาของการขับเคลื่อนโครงการ "ชาวนามาขายข้าว" เพื่อสนับสนุนนโยบายภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาราคาข้าวได้อย่างทันท่วงที เปิดพื้นที่ให้เกษตรกรนำข้าวสารมาจำหน่ายด้วยตัวเอง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในร้าน ท็อปส์ มาร์เก็ต ทุกสาขาที่ร่วมโครงการ ประเดิมสาขาแรกที่เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ และหมุนเวียนไปยังสาขาอื่น ๆ ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ซึ่งการจัดโครงการ “ชาวนามาขายข้าว” ในครั้งนี้ จะเป็นการเปิดโอกาสให้ชาวนาได้มีโอกาสเรียนรู้กลไกตลาด พบปะผู้บริโภค เพื่อต่อยอดในการพัฒนาตนเองอย่างยั่งยืน
ภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการตลาดและประชาสัมพันธ์ ผู้บริหาร เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด เผยว่า “ท็อปส์ เข้าใจและตระหนักถึงปัญหาราคาข้าว และจำนวนผลผลิตที่มีเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้พี่น้องชาวนาประสบปัญหาในการระบายข้าว จึงได้ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าภายใน จัดโครงการ "ชาวนามาขายข้าว" ด้วยการเปิดพื้นที่ภายในร้าน ท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดที่ร่วมโครงการ ให้เกษตรกรสามารถนำข้าวสารมาจำหน่ายโดยตรงแก่ผู้บริโภค โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนหันมาบริโภคข้าวกันมากยิ่งขึ้นเพื่อสนับสนุนชาวนาไทย
สำหรับสาขานำร่องที่เปิดให้กลุ่มเกษตรกรเข้ามาจำหน่ายข้าวได้แก่ ท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาแจ้งวัฒนะ เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 -14 พฤศจิกายน 2559 นำโดย กลุ่มศูนย์ข้าวชุมชน บ้านเขานม จากจังหวัดราชบุรี, สหกรณ์เกษตรผักไห่ จำกัด จากจังหวัดอยุธยา, กลุ่มสะกาดขวัญข้าว จากจังหวัดสุรินทร์, กลุ่มผลิตข้าวบ้านหนองงูเหลือม จากจังหวัดบุรีรัมย์ และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตข้าวกล้องงอกฝั่งแดง จากจังหวัดนครพนม ก่อนจะขยายไปยัง ร้าน ท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาอื่น ๆ อาทิ สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า พระราม 2 พระราม 3 รัตนาธิเบศร์ รังสิต ร้าน ท็อปส์ มาร์เก็ต ในต่างจังหวัด อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย อุดรธานี กาญจนบุรี นครศรีธรรมราช ระยอง ฯลฯ ทั้งนี้เปิดโอกาสให้เกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนและต้องการนำข้าวสารมาจำหน่ายติดต่อได้ที่ ท็อปส์ มาร์เก็ต ทุกสาขาทั่วประเทศ นอกจากร่วมให้ความช่วยเหลือชาวนาในระยะสั้นแล้ว ท็อปส์ ยังมีแผนในการดำเนินนโยบายในระยะยาวพร้อมจัดทีมถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับชาวนา เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ชาวนาไทย”
ด้าน สิริไพบูลย์ นุสิริหาญ ผู้ใหญ่บ้านหนองงูเหลือม ตัวแทนจากกลุ่มผลิตข้าวบ้านหนองงูเหลือม จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า “ทางกลุ่มเราปลูกข้าวเอง และรวมตัวกัน 4 หมู่บ้าน คือ หมู่บ้านบ้านทุ่ง, หมู่บ้านหนองไทร, หมู่บ้านกระสัง และหมู่บ้านหนองงูเหลือม นำไปสีที่โรงสีชุมชน ซึ่งเป็นโรงสีขนาดเล็ก มีเครื่องสีข้าวพระราชทาน จาก พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ซึ่งเป็นรางวัลจากที่หมู่บ้านกระสังได้เข้าร่วมโครงการข้าวพันไร่ ชนะได้ที่หนึ่ง นับเป็นพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ เพราะตอนนั้นชาวนาเดือดร้อนกันมาก ค่าใช้จ่ายในการสีข้าวต่อไร่ก็สูงถึง ไร่ละ 4 – 5 พันบาท จึงสีกันเองในชุมชน พอได้เครื่องสีมาก็ช่วยแบ่งเบาภาระได้เยอะ หลายคนถามว่าทำไมเราไม่เลิกทำนา เพราะเราคิดว่า...การทำนาไม่ใช่อาชีพ แต่เป็นวิถีชีวิต ตอนที่ ท็อปส์ ติดต่อเข้ามาบอกว่าจะให้เรามาขายข้าวใน ท็อปส์ เรารู้สึกขอบคุณมาก และถือว่าการช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นบุญคุณมากๆ เหมือนมีแสงสว่างเข้ามา ซึ่งข้าวสารที่นำมาจำหน่ายที่ ท็อปส์ ครั้งนี้ เราจำหน่ายได้ราคาสูงกว่าที่จำหน่ายในชุมชน เราขอขอบคุณ ท็อปส์ อีกครั้งที่มีโครงการดีๆ แบบนี้”
ส่วน ชบา ศรีสุโน ตัวแทนจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตข้าวกล้องงอกฝั่งแดง จังหวัดนครพนม กล่าวว่า “เราเป็นกลุ่มชาวนารายย่อยและชาวบ้านในชนบทที่ผลิตข้าวอินทรีย์ เริ่มต้นมาจาก เมื่อนานมาแล้ว ในหลวงท่านได้ส่งทหารเข้ามาเพื่ออบรมให้ความรู้ชาวบ้านในเรื่องการทำปุ๋ยชีวภาพ เราก็ศึกษาและนำมาแปรรูป โดยปัจจุบันกลุ่มของเราปลูกข้าวหลายสายพันธุ์ อาทิ ข้าวหอมมะลิ 105 ซึ่งเป็นสายพันธุ์พระราชทาน, ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เรายังได้จำหน่ายข้าวไรซ์เบอร์รี่ร่วมกับองค์กรที่ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ ที่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ สนับสนุนมาตลอด นอกจากนี้เรายังมีข้าวกล้องงอก ซึ่งมีสารกาบ้า ช่วยบำรุงสมองส่วนกลาง และยังมีคุณประโยชน์สูงกว่าข้าวขาวและข้าวกล้อง 15 – 30 เท่า, ข้าวหอมมะลิแดง ที่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน เพราะเป็นข้าวที่มีดัชนีมวลน้ำตาลต่ำ ส่วนข้าวหอมมะลิ เป็นข้าวที่คนในชุมชนนิยมปลูกมากที่สุด ส่งผลให้ข้าวล้นตลาด ราคาตกต่ำ รวมถึงไม่มีตลาดที่จะส่งข้าวออก เพราะในปัจจุบัน เราส่งข้าวขายแค่ในชุมชน ตามร้านค้าในตลาด พอ ท็อปส์ ติดต่อมาให้เรานำข้าวมาขายใน ท็อปส์ เราเลยไปเล่าให้คนในกลุ่มฟัง ทุกคนแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว ดีใจที่จะมีสถานที่ขายข้าวแล้ว ประกอบกับลูกค้าของ ท็อปส์ เป็นกลุ่มคนรักสุขภาพ เลยคิดว่าเราน่าจะขายข้าวได้ เพราะในชุมชนนิยมบริโภคข้าวขาวเป็นส่วนใหญ่ ข้าวของเราจึงขายได้ไม่กี่บาท เราขอเป็นตัวแทนกลุ่มขอบคุณ ท็อปส์ อีกครั้งที่เข้าใจถึงหัวอกเกษตรกร เข้าใจถึงความทุกข์ความเครียดที่ชาวนาไม่สามารถระบายข้าวออกได้ ขอบคุณมากค่ะ”
ร่วมสนับสนุนและส่งเสริมข้าวไทยจากพี่น้องเกษตรกรได้ที่ ท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาที่ร่วมโครงการ ติดตามรายละเอียดการจำหน่ายข้าวของชาวนาไทยได้ที่เฟซบุค Tops Thailand
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ท็อปส์ คุณปาริฉัตร (ปา) 081-646-3639
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ บริษัท โพลีพลัส พีอาร์ จำกัด 0-2572-4444 ต่อ 348, 352
คุณนฤมล (เล็ก) 086-397-3034, คุณนุสรา (นุส) 080-212-1363
ท็อปส์ มาร์เก็ต ที่ร่วมโครงการชาวนามาขายข้าว
ภาคกลาง
แจ้งวัฒนะ 10 - 14 พฤศจิกายน 2559
ลาดพร้าว 25 - 30 พฤศจิกายน 2559
ปิ่นเกล้า 25 - 30 พฤศจิกายน 2559
พระราม 2 วันที่ 25 - 30 พฤศจิกายน 2559
ภาคอีสาน
สกลนคร 8 - 30 พฤศจิกายน 2559
อุดรธานี 20 - 25 พฤศจิกายน 2559
อุบลพลาซา 20 พฤศจิกายน - 20 ธันวาคม 2559
มุกดาหาร 25 - 30 พฤศจิกายน 2559
ภาคเหนือ
แอร์พอร์ท เชียงใหม่ 9 - 15 พฤศจิกายน 2559
โชตนา 9 - 15 พฤศจิกายน 2559
ห้วยแก้ว 10 - 23 พฤศจิกายน 2559
เชียงราย 14 - 30 พฤศจิกายน 2559
ข่าวเด่น