ต้องยอมรับนวัตกรรม เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นและมีบทบาทมากขึ้นในอนาคต เพื่อเป็นอาวุธในการต่อสู้กับคู่แข่งทางการค้า และรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดของไทย ขณะที่ผู้ประกอบการไทยจำนวนไม่น้อย ยังไม่สามารถเข้าถึงนวัตกรรมใหม่ๆได้ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงได้สั่งการให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาไปพัฒนาและจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมนวัตกรรม (Innovation Driven Enterprise Center) หรือไอดีอี เซ็นเตอร์ เพื่อให้การสนับสนุนผู้ประกอบการไทยได้มีโอกาสเข้าถึงนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะนำไปใช้ในการผลิตสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่มุ่งเน้นการใช้นวัตกรรมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจของไทย
โดยศูนย์ส่งเสริมนวัตกรรมจะช่วยรวบรวมแนวโน้มนวัตกรรม ที่กำลังเกิดขึ้นในโลก เน้นในสินค้าอุตสาหกรรม เป้าหมาย 10 รายการ ได้แก่ 5 อุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพ (First S-curve) คือ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร และ 5 อุตสาหกรรมอนาคต (New S-curve) คือ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร
นายทศพล ทังสุบุตร รักษาการ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ระบุว่า รูปแบบการทำงานของไอดีอี เซ็นเตอร์ จะมีทีมงานนักวิจัยในสาขาต่างๆ เข้ามาทำงาน และจะทำการตรวจค้นสืบค้น ดูแนวโน้มการจดสิทธิบัตรต่างๆ ใน โลกนี้ว่าแนวโน้มการพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรม (เทคโนโลยีเทรนด์) จะไปทางไหน โดยเน้นไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ทั้ง 10 กลุ่มของรัฐบาล เมื่อเห็นแนวโน้มแล้วก็จะนำมาบอกต่อให้กับผู้ประกอบการว่าควรจะพัฒนาสินค้าและบริการไปในทิศทางไหน ที่จะตอบโจทย์ความต้องการของโลกได้ โดย ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการจัดตั้งศูนย์ และคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในเดือน ก.พ. 2560
สอดคล้องกับมุมมองของนายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ ที่เห็นว่า เอสเอ็มอีต้องปรับตัวเดินหน้าเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม4.0 ที่ใช้เทคโนโลยีมาเป็นส่วนช่วยส่งเสริมธุรกิจให้เกิดธุรกิจ "สตาร์ทอัพ" และ "สมาร์ท เอสเอ็มอี" รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และจะต้องหานวัตกรรมมาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย โดยเห็นว่า เอสเอ็มอีควรนำวัฒนธรรมอย่างไทยไปสร้างความได้เปรียบ ในการสร้างเอกลักษณ์และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า
นอกจากนี้จะต้องพัฒนาด้านระบบบริหารจัดการ เช่น ข้อกฎหมายต่างๆ รวมถึงการหาประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยี ขณะเดียวกัน จะต้องยกระดับสินค้าให้ได้ มาตรฐานสากล โดยเฉพาะการทำการค้าระหว่างประเทศ และสร้างเครือข่ายการค้าที่เข้มแข็ง เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน เพราะการแข่งขันในปัจจุบันเป็นรูปแบบของเครือข่ายกับเครือข่าย
ข่าวเด่น