ยานยนต์
มาสด้าคว้าตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันมากที่สุด


 


มาสด้าคว้าตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันมากที่สุด จากสำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน

มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ได้ประกาศผลรายงานแนวโน้มการประหยัดน้ำมันของรถยนต์นั่ง หรือ Light Duty Fuel Economy Trends Report*1 จัดทำโดยสำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ US Environmental Protection Agency (EPA) เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา โดยรถยนต์มาสด้าได้คะแนนสูงสุดด้านอัตราประหยัดน้ำมันในประเภทรถยนต์ที่พัฒนาโดยผู้ผลิต สำหรับรถยนต์รุ่นปี 2015*2 ซึ่งนับเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันแล้วที่มาสด้าได้รับการจัดลำดับให้เป็นที่รถที่ประหยัดน้ำมันดีที่สุด
          
รายงานของ EPA สรุปผลของแนวโน้มการประหยัดน้ำมันในรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกาในแต่ละปี และจัดลำดับอัตราการประหยัดน้ำมันของผู้ผลิตรถยนต์ หรือ Manufacturer Adjusted Fuel Economy โดยรถยนต์มาสด้านั้น มีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยที่ 29.6 ไมล์/แกลลอน หรือ 12.6 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งนับว่าเป็นอัตราที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอยู่ 0.2 mpg หรือ 0.1 กิโลเมตร/ลิตร
         
 
มาสด้าได้พัฒนาเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ เจนเนอเรชั่นใหม่ อันรวมถึงเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง โครงสร้างตัวถังและช่วงล่าง ด้วยความมุ่งหมายที่จะนำเสนอทั้งความสนุกสนานในการขับขี่ ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสมรรถนะทางความปลอดภัยให้แก่ลูกค้า ความพยายามของมาสด้าในการปรับใช้เทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้ในรถยนต์รุ่นต่างๆ นั้นกลายเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้มาสด้าได้รับการจัดลำดับเป็นรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันที่สุดถึง 4 ปีติดต่อกัน
          
ด้วยความสำเร็จที่เราได้รับ มาสด้าจะยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมต่อไป เพื่อสร้างสายสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าและยกระดับคุณค่าของแบรนด์
         
มาสด้า3 2015 (รุ่นที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา)
          1 รายงานแนวโน้มการประหยัดน้ำมัน: เป็นรายงานรายปีที่จัดทำขึ้นโดย EPA โดยสรุปทิศทางอัตราการประหยัดน้ำมันในรถยนต์นั่งและรถกระบะ ตั้งแต่ พ.ศ. 2518 http://www3.epa.gov/otaq/fetrends-complete.htm
          2 Manufacturer Adjusted Fuel Economy: คืออัตราประหยัดน้ำมันเฉลี่ยของรถยนต์ทั้งหมดที่จำหน่ายโดยผู้ผลิตรถยนต์ในระยะเวลา 1 ปี โดย
          รายงาน EPA จะพิจารณาจากอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยของการขับขี่ในเมืองและนอกเมืองของรถแต่ละรุ่นและในแต่ละ model year และหาค่าเฉลี่ยโดยคิดตามสัดส่วนของยอดขาย
  
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 14 พ.ย. 2559 เวลา : 13:36:41
24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 9:43 pm