นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 122 ( KTFF122) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2559 อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภท เงินฝากประจำ Bank of China อัตราผลตอบแทน1.65% ต่อปี เงินฝากประจำ Emirates NBD PJSC อัตราผลตอบแทน 1.70%ต่อปี เงินฝากประจำ Commercial bank of Qatar อัตราผลตอบแทน1.70% ต่อปีเงินฝากประจำ Ahli Bank QSC อัตราผลตอบแทน1.95%ต่อปี และเงินฝากประจำ First Gulf Bank PJSC
อัตราผลตอบแทน 1.75% ต่อปี โดยกองทุนจะลงทุนในเงินฝากสถาบันการเงินละ 20 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และกองทุนมีค่าใช้จ่ายประมาณ 0.25% ต่อปี ดังนั้นผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.50% ต่อปี ซึ่งกองทุนมีนโยบายการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ทั้งนี้หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่กำหนดไว้
สำหรับอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุตามแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศหลังอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความกังวลต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ที่อาจทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีความเป็นไปได้สูงที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ประกอบกับตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้มีเม็ดเงินลงทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่กลับไปสหรัฐอเมริกา ในส่วนของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ( กนง.)มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50 %ต่อปีตามที่ตลาดคาดการณ์ ในสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติเป็นยอดขายสุทธิจำนวน 27,192 ล้านบาท
ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงทุกช่วงอายุตามความกังวลต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ที่จะทำให้เงินเฟ้อและหนี้ภาครัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12 bps. มาอยู่ที่ 0.92% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 32 bps. มาอยู่ที่ 1.56% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 36 bps.มาอยู่ที่ 2.15% ต่อปี
ข่าวเด่น