แบงก์-นอนแบงก์
KBANKประกาศแผนปี60 เน้นนวัตกรรมบริการ-สร้างพันธมิตรธุรกิจ


 


ธนาคารกสิกรไทย นำร่องเป็นแบงก์แรกประกาศแผนธุรกิจปี2560   นำโดยผู้บริหารระดับสูง  นางสาวขัตติยา   อินทรวิชัย  กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย   เปิดเผยว่า  ปีหน้า ธนาคารยังยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางและนำเสนอบริการที่ตรงจุด เพื่อเป็นธนาคารหลักสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม  โดยมีเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อรวมที่ 4-6% และอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวมที่ 3.3-3.4%  
 
 
 
 
 
 

 
 
โดยในกลุ่มลูกค้าบุคคล  ธนาคารจะมุ่งสู่การเป็นธนาคารเพื่อลูกค้ารายย่อยที่ได้มาตรฐานระดับโลก และยกระดับคุณภาพการเป็นที่ปรึกษาและการบริการผ่านสาขาเทียบเท่ามาตรฐานโลก นำเสนอนวัตกรรมบริการทางการเงินแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ   โดยมุ่งเน้นการพัฒนาช่องทางธนาคารบนโทรศัพท์มือถือเป็นหลัก  เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า   จากในปี 2559 มีฐานลูกค้าแอพพลิเคชั่น Mobile Banking ประมาณ 5 ล้านราย ตั้งเป้าหมายปี 2560 ธนาคารจะเพิ่มฐานลูกค้าแอพพลิเคชั่น Mobile Banking เป็น 7.1 ล้านราย พร้อมตั้งเป้าหมายสินเชื่อเติบโต 5-7% และมีฐานลูกค้าบุคคลเพิ่มเป็น 14.1 ล้านราย เติบโต 5-6%
 
        
กลุ่มธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการ (SME) ธนาคารตั้งเป้าหมายรักษาความเป็นผู้นำและการเป็นธนาคารหลักของกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี สนับสนุนให้ผู้ประกอบการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 4-6% เน้นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตของประเทศเพื่อนบ้านและการค้าชายแดน
กลุ่มลูกค้าบรรษัท มุ่งเน้นการเป็นผู้นำในการให้บริการด้านการระดมทุนที่หลากหลาย  ทั้งการออกตราสาร กอง REITs การควบรวมกิจการ (M&A) รองรับการทำธุรกรรมจำนวนมากที่ครอบคลุมสกุลเงินในกลุ่ม AEC+3 และสกุลเงินหลักทั่วโลก ตั้งเป้าหมายสินเชื่อเติบโต 4-6%
 

และกลุ่มธุรกิจข้ามประเทศ  จะมุ่งสู่การเป็นธนาคารเพื่อการรับชำระเงินและการลงทุนแห่งภูมิภาค   ด้วยการวางโครงสร้างพื้นฐานรองรับการโอนเงินและชำระเงินข้ามประเทศด้วยสกุลเงินท้องถิ่นในภูมิภาคอาเซียน การสนับสนุนลูกค้าธุรกิจไทยที่ต้องการเข้าไปลงทุนใน CLMVI การจัดตั้งศูนย์ธุรกิจการค้าชายแดน เพื่อสนับสนุนการทำการค้าชายแดน  สนับสนุนการระดมทุนเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งโรงไฟฟ้า ถนน และท่าเรือในกลุ่มประเทศ CLMV รวมทั้งการควบรวมกิจการ โดยเฉพาะในกลุ่มบริษัทไทยและญี่ปุ่น
        
ซึ่งในปี 2560 ธนาคารกสิกรไทยยังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายในต่างประเทศ ได้แก่ การยกระดับเป็นธนาคารท้องถิ่นในประเทศจีน การเพิ่มสาขาแห่งที่ 2 ของธนาคารท้องถิ่นในสปป.ลาว   การเพิ่มปริมาณธุรกิจของสาขากรุงพนมเปญ และหาแนวทางเปิดสาขาในประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย และเมียนมา ภายในปี 2561
         
ส่วนการทำขยายธุรกิจด้านDigital Banking  นายธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ยอมรับว่า เทคโนโลยีจะเปลี่ยนโฉมช่องทางและรูปแบบการทำธุรกรรมการเงินในอนาคต  ดังนั้นเพื่อให้ธนาคารกสิกรไทยคงความสามารถในการแข่งขันและนำไปสู่การขยายตลาดใหม่ได้อย่างทันท่วงที  สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนไป (New Digital Lifestyle)  ในปี 2560 ธนาคารตั้งงบประมาณด้านไอทีไว้สำหรับการพัฒนาด้านนวัตกรรมใหม่ ประมาณ 10% ของกำไรสุทธิ หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท และการลงทุนในรูปแบบ Venture Capital (VC) เพื่อการพัฒนานวัตกรรมใหม่ อีกประมาณ 2% ของกำไรสุทธิ หรือ 1,000 ล้านบาท  โดยการเดินหน้าแผนงานด้านเทคโนโลยี จะผ่านทางกสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป หรือ KBTG เป็นหน่วยงานสำคัญในการขับเคลื่อน         

ขณะเดียวกันธนาคารให้ความสำคัญกับการให้บริการแก่กลุ่มคนที่เข้าถึงบริการทางการเงินได้ยากกว่าลูกค้าทั่วไปจึงได้สนับสนุน“บีคอน อินเตอร์เฟส” ฟินเทค สตาร์ทอัพของไทย ในการพัฒนาแอพลิเคชั่น  เพื่อให้ผู้บกพร่องทางการเห็นสามารถทำธุรกรรมผ่านช่องทางธนาคารบนมือถือได้สำเร็จ ตั้งเป้าหมายให้บริการได้ภายในไตรมาสแรกของปี 2560        
ขณะเดียวกันปี  2560 ธนาคารกสิกรไทยจะขยายการลงทุนในฟินเทคและสตาร์ทอัพ ผ่านบริษัท Venture Capital   โดยมีงบประมาณลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท ทั้งการลงทุนโดยตรง (Direct Investment) ในสตาร์ทอัพของไทยและภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารมีส่วนร่วมในการพัฒนานวัตกรรมหรือโมเดลธุรกิจใหม่ และการลงทุนผ่านกองทุนเพื่อการระดมทุน (Fund of Fund) ช่วยให้ธนาคารได้เข้าถึงแนวคิดนวัตกรรมระดับโลกได้อย่างรวดเร็ว ได้เพิ่มพูนประสบการณ์ด้านการระดมทุนระหว่างกัน สามารถสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มนักลงทุนและสตาร์ทอัพในทุกระดับ



 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 29 พ.ย. 2559 เวลา : 20:28:12
15-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 15, 2024, 9:22 pm