เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
"เวิลด์แบงก์" แนะปฏิรูปภาคบริการ หนุนเศรษฐกิจโต


 

“ปฎิรูปภาคบริการ”นับเป็นแนวทางหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้ตามศักยภาพที่ควรเติบโตไม่ต่ำกว่า 4%    

 

 

 

โดย นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลก ประจำประเทศไทย (เวิลด์แบงก์)  ระบุว่า  เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวอย่างช้าๆ  และถือว่ายังอยู่ในระดับต่ำกว่าศักยภาพที่ควรอยู่ในระดับมากกว่า 4% ซึ่งเวิลด์แบงก์มองเห็นถึงศักยภาพของภาคบริการที่จะเข้ามาช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและผลักดันให้ไทยก้าวสู่ประเทศรายได้สูงได้ ซึ่งจากแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของรัฐบาล ก็ได้มีบางส่วนที่ปฏิรูปภาคบริการ ซึ่งถือได้ว่ามาถูกทางแล้ว ดังจะเห็นได้จากกฎระเบียบต่างๆ ที่ออกมาสนับสนุน อาทิ การให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นผู้กำกับดูแลสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อความโปร่งใส เป็นต้น

ทั้งนี้ ปัจจุบันภาคบริการมีการจ้างงานสูงถึง 40% ของจำนวนแรงงานทั้งหมด และสร้างมูลค่าถึง 50% ของจีดีพี   ขณะที่ภาคการผลิตมีสัดส่วนการจ้างงานเพียง 15% และสร้างมูลค่า 35% ของจีดีพี โดยปัจจุบันประเทศไทยมีสัดส่วนภาคบริการมูลค่า 50% ของจีดีพี จากสัดส่วนดังกล่าวของประเทศกลุ่มพัฒนาแล้วที่ 70% ของจีดีพี

ดังนั้น หากสามารถดำเนินได้ตามแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี และผลักดันให้ภาคบริการเพิ่มสัดส่วนได้ปีละ 1% เมื่อครบแผนก็จะเพิ่มสัดส่วนภาคบริการเป็น 70% เท่ากับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วได้ รวมทั้งจะทำให้จีดีพีของไทยเติบโตตามศักยภาพที่ 4% กว่าต่อปี

ทั้งนี้ จากรายงานของเวิลด์แบงก์ระบุว่า การเปิดเสรีหรือการเปิดโอกาสให้แก่ภาคบริการที่เป็นงานวิชาชีพจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ผลิตภาพ และคุณภาพ ให้แก่ภาคบริการมากขึ้น โดยประเทศไทยสามารถสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคบริการได้ด้วยการให้การสนับสนุนด้านกฎระเบียบข้อบังคับที่สร้างบรรยากาศเอื้อต่อการประกอบธุรกิจ เสริมสร้างการแข่งขัน และร่วมมือทางการค้ากับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนมากยิ่งขึ้น



 

 

ด้าน นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยไม่มีการเปลี่ยนแพลตฟอร์มการลงทุนมานานสิบปี ทำให้เศรษฐกิจไทยยังเติบโตด้วยแพลตฟอร์มเดิมๆ  ซึ่งจำเป็นต้องเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (อีอีซี) ถือเป็นอีสเทิร์นซีบอร์ดยุคที่สอง ที่จะเปิดศักยภาพของไทยที่ไม่เติบโตมานาน
         
ส่วนภาคบริการของไทยถึงแม้จะมีการเติบโต แต่กลับไม่ได้มีผลิตภาพ ดังนั้นประเทศไทยต้องสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการสร้างนวัตกรรม โดยการก้าวไปสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0  คือการก้าวไปเป็นประเทศที่เน้นนวัตกรรม  

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังต้องมีการปฏิรูปภาครัฐ ซึ่งหากปลดล็อกได้ จะทำให้ประเทศไปได้อีกระดับ เพราะอดีต 30 ปีก่อน ไทยมีเทคโนแคร็ทที่ดี มีความเข้มแข็งของข้าราชการ โดยเฉพาะสภาพัฒน์ที่เป็นสมองของไทยในการคิดอนาคตให้ประเทศไทย


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 20 ธ.ค. 2559 เวลา : 12:16:21
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 3:52 pm