พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป อยู่กับโทรศัพท์มือถือมากขึ้น ทำให้การทำธุรกรรมทางการเงิน ไม่จำเป็นต้องไปที่สาขาหรือหาตู้เอทีเอ็ม เพียงคลิกฝาก-ถอน-โอน-จ่าย ที่มือถือ การทำธุรกรรมก็เสร็จสิ้น ผู้ว่าธปท.ยอมรับแบงก์ทยอยปิดสาขาต่อเนื่อง พร้อมระบุช่วยลดต้นทุนแบงก์ และลูกค้าสะดวก แต่ย้ำการปิดสาขาต้องอย่าให้กระทบลูกค้า

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า พฤติกรรมการทำธุรกรรมทางการเงินของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมฝาก-ถอน-โอนเงิน ต้องมาทำธุรกรรมที่สาขาธนาคารที่ตนมีบัญชีเงินฝากอยู่ หรือกระทำผ่านตู้เอทีเอ็ม แต่ปัจจุบันลูกค้าได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นจากการใช้โมบายแบงก์กิ้งที่เพียงแค่คลิกที่โทรศัพท์มือถือที่ถือว่าเป็นของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวันก็สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้เช่นเดียวกัน ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปที่สาขาหรือหาตู้เอทีเอ็ม จึงเห็นได้ว่าขณะนี้ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเริ่มทยอยปิดสาขาอย่างต่อเนื่อง

จากสถิติจะพบว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้โมบายแบงกิ้งสูงถึง 19 ล้านราย เห็นได้จากยอดธุรกรรมในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาเติบโตมากกว่า 1 เท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งในส่วนนี้สามารถช่วยลดต้นทุนให้กับธนาคารได้ ขณะที่ลูกค้าเองก็ได้รับความสะดวกสบาย ไม่เสียเวลาและไม่เสียค่าเดินทาง

อย่างไรก็ตาม การปิดสาขานั้น ธนาคารพาณิชย์จะต้องดูแลลูกค้าไม่ให้ได้รับผลกระทบ รวมถึงควรจะต้องหาธุรกรรมหรือนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ เพื่อมาตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป