หลังจากตั้งตารอภาครัฐ ออก"มาตรการช้อปช่วยชาติ" มาพักใหญ่ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ภาครัฐก็ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า ปีนี้จะมีมาตรการช้อปช่วยชาติให้ประชาชนที่เสียภาษีถูกต้องตามกฎหมายได้ออกมาช้อปปิ้งจับจ่ายซื้อสินค้า เพื่อนำใบเสร็จมาขอลดหย่อนคืนภาษี ภายใต้วงเงินไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งหลังจากภาครัฐประกาศออกมาว่ามาตรการช้อปช่วยชาติจะเริ่มในวันที่ 14-31 ธ.ค.2559 บรรดาขาช้อปก็พร้อมช้อปปิ้งทันที เนื่องจากมาตรการนี้ยิ่งเสียภาษีมากยิ่งได้รับเงินคืนมาก
จากประสบการณ์ในปีที่ผ่านมาของมาตรการช้อปช่วยชาติ ส่งผลให้ผู้ประกอบการห้างค้าปลีกมองเห็นโอกาสในการกระตุ้นยอดขายในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ เนื่องจากปีที่ผ่านมาแต่ละห้างค้าปลีกได้รับอานิสงส์จากมาตรการช้อปช่วยชาติให้มียอดขายเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% และจากการที่ปีนี้มีการขยายเวลาเพิ่มจาก 7 วันเป็น 14 วัน ยิ่งทำให้ห้างค้าปลีกเล็งเห็นโอกาสกู้ยอดขาย หลังจากชะลอตัวมาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา
สำหรับแคมเปญที่ห้างค้าปลีกเปิดตัวเข้ามาทำตลาด เพื่อรับอานิสงส์มาตรการช้อปช่วยชาติในปีนี้ จะมีความรุนแรงมากกว่าปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นลดราคา การให้คูปองส่วนลดเพื่อใช้แทนเป็นเงินสดในการซื้อสินค้าในครั้งต่อไป หรือการมอบส่วนลดเพิ่มเมื่อซื้อสินค้าผ่านบัตรเครดิต รวมไปถึงการจัดโปรโมชั่นผ่อน 0% ซึ่งทุกโปรโมชั่นที่กล่าวมา ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ลูกค้ามีความต้องการทั้งสิ้น
เริ่มที่ศูนย์การค้าใจกลางกรุงอย่างศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ที่ออกมาจัดแคมเปญ “สยาม ช้อป ช่วย ชาติ” เพียงช้อปครบ 15,000 บาทขึ้นไป รับทันที Siam Gift Card มูลค่า 1,500 บาท สำหรับสมาชิก VIZ Card รับเพิ่มทันที Siam Gift Card มูลค่า 150 บาท และสมาชิก Platinum M Card รับเพิ่มคะแนนสะสมสูงสุด 1,500 คะแนน นอกจากนี้ ยังมีการจัดแคมเปญ “สยาม ดิ อัลติเมท กิฟวิ่ง” มอบส่วนลดสูงสุดถึง 80% พร้อมลุ้นและรับของรางวัลระดับลักชัวรี่ และรางวัลพิเศษอื่นๆ มากมายรวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้ามาใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
น.ส.ชนิสา แก้วเรือน รองกรรมการผู้จัดการ สายกิจกรรมการตลาดและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ กล่าวว่า จากมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติมาตราการช้อปช่วยชาติ หรือ มาตราการลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา โดยยกเว้นภาษีให้สำหรับผู้ที่ซื้อสินค้าและบริการในช่วงวันที่ 14-31 ธันวาคม 2559 ตามจำนวนจ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท โดยสามารถนำใบกำกับภาษีจากผู้ประกอบการมาหักภาษีได้นั้น บริษัทได้เตรียมความพร้อมเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าวของภาครัฐ ด้วยการจัดแคมเปญพิเศษ สยาม ช้อป ช่วย ชาติ ระหว่างวันที่ 15 – 31 ธ.ค.2559 ซึ่งหลังจากจบมาตรการดังกล่าวบริษัทคาดว่างจะมียอดขายเติบโตเป็นที่น่าพอใจ
ในส่วนของห้างเซ็นทรัลก็ออกมาจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อรับอานิสงส์มาตาการช้อปช่วยชาติเช่นกัน ด้วยการเตรียมความเพื่อรองรับลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการในวันที่ 14-31 ธันวาคม 2559
น.ส.ปิยวรรณ ลีละสมภพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่จะเข้ามาจับจ่ายใช้สอยรับมาตรการช้อปช่วยชาติในวันที่ 14-31 ธ.ค.นี้ บริษัทได้เตรียมความพร้อม เพื่อบริการลูกค้าในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ 4 เรื่อง 1. ดึงดูดด้วยโปรโมชั่นแรง ด้วยการจัดรายการส่งเสริมการขาย Central Season of Giving 2017 Extra ลดราคาสินค้าทุกชั้น ทุกแผนกสูงสุด 50% ด้วยสติกเกอร์ และเมื่อช้อปทุก 3,000 บาท รับฟรีคูปองส่วนลดแทนเงินสด 100 บาท พร้อมรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 12.5% เมื่อใช้คะแนน The 1 Card
นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถรับสิทธิพิเศษเพิ่มจากบัตรเครดิตชั้นนำ และรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% พร้อมช้อปสินค้าราคาเดียวกว่า 100 รายการ ในโครงการ “รวมใจ...ช่วยไทย...ลดรับปีใหม่” รวมไปถึงลุ้นแพ็คเกจท่องเที่ยวในประเทศจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เมื่อช้อปผ่านบัตร The 1 Card ทุก 2,000 บาท
เรื่องที่ 2.จะเป็นการขยายเวลาเปิด – ปิดห้างบางสาขา เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าได้ช้อปกันอย่างจุใจในช่วงเทศกาล ทางห้างได้มีการขยายเวลาปิดห้างบางสาขา เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เช่น สาขาชิดลม, สาขาลาดพร้าว, เซน.ขยายเวลาปิดให้บริการจากเดิม 22.00 น. เป็น 23.00 น. ไปจนถึงช่วงเทศกาลปีใหม่
เรื่องที่ 3.เตรียมความพร้อมเรื่องจุดให้บริการออกใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากมีลูกค้าให้ความสนใจมาจับจ่ายซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก ทางห้างจึงคำนึงถึงความสะดวก ช่วยลดขั้นตอนในการออกใบกำกับภาษีให้กับลูกค้าได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด โดยนำเครื่องแสกนบัตรประชาชน แบบ Card reader มาใช้ เพื่อให้ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยประมวลผลข้อมูลต่างๆ โดยไม่ต้องเสียเวลากรอกข้อมูลบัตรประชาชน ซึ่งสามารถออกใบกำกับภาษีได้ภายในไม่กี่นาที พร้อมเพิ่มจุดออกใบกำกับภาษีให้มากขึ้น โดยให้กระจายไปตามแผนกต่างๆ ทั่วห้าง อีกทั้งเพิ่มจำนวนพนักงาน ที่มีความชำนาญมาช่วยอำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำตามจุดต่างๆ อีกเท่าตัว และเรื่องที่ 4. เข้าถึงลูกค้าด้วยการประชาสัมพันธ์ทุกช่องทาง
ในส่วนของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเองก็ได้มีการออกมาลงทุน 300 ล้านบาท จัดแคมเปญและกิจกรรม เพื่อกระตุ้นบรรยากาศการใช้จ่ายในช่วงปลายปีผ่านแคมเปญ “Lighten Up Together ส่งต่อความสุขและพลังใจให้กันและกัน” มอบความสุขให้ลูกค้าด้วยโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับลูกค้าที่ช้อปและทานอาหารในศูนย์ฯ ลุ้นรับโชค ช้อป 1,000 คืน 10,000 ช้อป 10,000 คืน 100,000 และ รับฟรี “กระเป๋าผ้าดีดี” และข้าวกล้องดอยจากโครงการหลวง เพียงช้อปครบ 5,000 บาท นอกจากนี้ ลูกค้าที่ช้อปครบ 15,000 บาท แล้วสามารถนำใบกำกับภาษีไปใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแล้ว ยังได้รับฟรี คูปองเงินสด 500 บาท เพิ่ม
นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ผู้บริหารศูนย์การค้าในเครือเซ็นทรัล กล่าวว่า ช่วงปลายปีถือเป็นช่วงที่มีลูกค้ามาจับจ่ายใช้สอยสูง เพื่อซื้อของขวัญให้ตัวเองและคนที่รักหรือเคารพ บริษัทจึงมั่นใจว่ามาตรการช้อปช่วยชาติ จะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายในช่วงปลายปี ช่วยเพิ่มทราฟฟิก และยอดขายของร้านค้าภายในศูนย์ฯ เช่นเดียวกับปีที่แล้ว ที่รัฐออกมาตรการนี้มาแล้วสามารถช่วยกระตุ้นบรรยากาศการจับจ่ายให้มีความคึกคัก และจากการที่ปีนี้มีการขยายระยะเวลาเพิ่มเป็น 18 วัน บริษัทจึงมั่นใจจะช่วยเพิ่มยอดทราฟฟิกให้กับศูนย์การค้าของบริษัทได้ไม่ต่ำกว่า 30%
ด้าน บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป ก็ออกมาจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย เพื่อขานรับมาตรการช้อปช่วยชาติเช่นกันผ่านกิจกรรมพิเศษ Let’ Give Good เชิญคนไทยรวมพลังมอบของขวัญปีใหม่ให้ประเทศไทย พร้อมเตรียมความพร้อมรับการออกใบกำกับภาษีลูกค้า หลังรัฐบาลประกาศมาตราการช้อปช่วยชาติ ซึ่งปีนี้ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป คาดว่าจะมีเงินสะพัดภายในห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าในเครือไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท
นายชำนาญ เมธปรีชากุล รองประธานกรรมการบริหาร ด้านการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า จากมาตรการช้อปช่วยชาติที่ภาครัฐบาลประกาศออกมาว่าจะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 14-31 ธ.ค.นี้นั้น บริษัทได้เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการซื้อสินค้าในช่วงดังกล่าว โดยเฉพาะในเรื่องของการออกใบกำกับภาษีให้ลูกค้า เพราะจากประสบการณ์ในปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัทได้จัดเตรียมจุดบริการให้เพียงพอต่อความต้องการค้าลูกค้า ด้วยการเพิ่มจุดออกใบกำกับภาษีจากเดิมที่มีสาขาละ 3-4 จุด เป็นสาขาละประมาณ 7-8 จุด เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการจำนวนมาก โดยใช้พนักงานที่มีความชำนาญในการออกใบกำกับภาษี รวมถึงเพิ่มพนักงานบริการอำนวยความสะดวกในแต่ละจุด จาก 2-3 คน เป็น 4-5 คน
นอกจากนี้ ยังจะมีการมอนิเตอร์ความต้องการในเรื่องการออกใบกำกับภาษีของลูกค้าในสาขาใหญ่ เช่น พารากอน ดิ เอ็มโพเรียม และเดอะมอลล์ บางกะปิ ถ้าไม่เพียงพอต่อความต้องการยังสามารถเพิ่มจุดบริการได้อีก รวมไปถึงการบริการจัดทำใบกำกับภาษีเพื่อให้ลูกค้ามารับในวันถัดไป เพื่อบริการลูกค้าที่ไม่ต้องการรอคิวในวันนั้นๆ และเพื่อให้ลูกค้าเข้ามาจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้มีการเตรียมการในเรื่องการจัดโปรโมชั่นเสริมพิเศษอย่าง brilliant Thanks และจัดงานเซลครั้งใหญ่ปลายปีนอกพื้นที่ภายใต้ชื่อ “มหกรรมลดทะลุพิกัด: มอบส่วนลดด้วยใจ ลดใหญ่ส่งท้ายปี” ระหว่างวันที่ 21-25 ธ.ค. นี้ที่ ฮอลล์ 5-8 อิมแพค เมืองทองธานีอีกด้วย
จากมาตรการช้อปช่วยชาติที่จัดขึ้นในปีนี้จะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคออกมาจับจ่ายใช้สอยถึงตัวเลข 25,000 ล้านบาท ตามที่คาดหมายหรือไม่ คงต้องลุ้นตัวเลขหลังจบมาตรการในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ ส่วนห้างค้าปลีกจะได้ส่วนแบ่งกันไปเท่าไหร่ก็ต้องรอลุ้นอีกเช่นกัน แต่ถ้าดูจากแคมเปญการตลาดที่ออกมาเปิดตัว น่าจะโกยยอดขายกันได้มากพอสมควร
ข่าวเด่น