"เพซฯ "สร้างปรากฎการณ์ดีลการร่วมลงทุนครั้งยิ่งใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยอีกครั้ง หลังประสบความสำเร็จ ดึง"อพอลโล" สถาบัันการลงทุนระดับโลก ร่วมลงทุน 8.4 พันล้านบาท ในโครงการมหานคร เปิดเซ็นต์สัญญาต่อหน้ารัฐบาลไทย พร้อมมั่นใจปีนี้พลิกมีกำไรรับรู้ Backlog โครงการมหานครกว่า 9 พันลบ. ล้างขาดทุนสะสม 3.7 พันล้านบาทเกลี้ยง
นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค.2560) บริษัท เพซฯ หรือ “PACE” ได้ประกาศความร่วมมือทางธุรกิจ กับ บริษัท อพอลโล โกลบอล แมเนจเมนท์ และบริษัทในเครือ, “Apollo” (NYSE: APO) หนึ่งในสถาบันจัดการการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของโลก เพื่อลงทุนประมาณ 8.4 พันล้านบาท (235 ล้านเหรียญสหรัฐ ) ในโครงการมหานคร ซึ่งเป็นโครงการแฟล็กชิปของบริษัทและอาคารแลนด์มาร์คที่สูงที่สุดในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นดีลใหญ่ที่สุดที่กองทุนต่างชาติขนาดใหญ่เข้าลงทุนในวงการอสังหาริมทรัพย์ของไทย
โดยการลงทุนครั้งนี้ ประกอบด้วย สัดส่วนการลงทุนของอพอลโล 5.9 พันล้านบาท (165 ล้านเหรียญสหรัฐ) และโกลด์แมน แซ็คส์ (NYSE: GS) 2.5 พันล้านบาท (70 ล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งจะร่วมลงทุนด้วยสัดส่วนการลงทุน 49% ใน 3 ส่วนหลักของโครงการมหานคร ได้แก่ โรงแรมบางกอก เอดิชั่น ส่วนรีเทล มหานคร คิวบ์ รวมถึงจุดชมวิว ออบเซอร์เวชั่นเด็คและรูฟท็อปบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย
“การลงทุนที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อประเทศไทย รวมถึงสร้างโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจและการลงทุนในอนาคตของการท่องเที่ยวไทย โดยองค์ประกอบของมหานครในดีลครั้งนี้ ได้แก่ รีเทล โรงแรม จุดชมวิว ออบเซอร์เวชั่น เด็ค และรูฟท็อปบาร์ของโครงการมหานคร ซึ่งเป็นสินทรัพย์สำคัญที่จะช่วยสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องให้กับบริษัท และเป็นกลยุทธ์สำคัญที่แสดงถึงวิสัยทัศน์ที่ก้าวหน้าของเพซในการวางรากฐานเพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับโครงการมหานคร”นายสรพจน์กล่าว
นายสรพจน์กล่าวต่อว่า การลงทุนมูลค่า 8.4 พันล้านบาทในครั้งนี้ จะสามารถสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินและลดสัดส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทได้อย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่โครงการที่พักอาศัยของเพซทั้งหมด 4 โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ได้แก่ เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก ในโครงการมหานคร โครงการมหาสมุทรวิลล่า โครงการนิมิต หลังสวน และโครงการใหม่บนถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งมีมูลค่าโครงการทั้งหมดประมาณ 3 หมื่นล้านบาท รวมมูลค่าแบ็คล็อคทั้งหมด 1.75 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2560 เป็นต้นไป และด้วยความร่วมมือของอพอลโล จะช่วยให้เพซมีสภาพคล่องทางการเงินและสามารถขยายธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มแบรนด์ไอคอนจากนิวยอร์ค ‘ดีน แอนด์ เดลูก้า’ ในประเทศไทย ญี่ปุ่น อังกฤษ และสหรัฐอเมริกาได้ตามแผนธุรกิจที่วางไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง
"การเข้ามาลงทุนของ อพอลโลและโกลด์แมน แซคส์ ในครั้งนี้ มีการเจรจามานานกว่า 6-7 เดือน โดยวันนี้ (10 ม.ค. 2560) เป็นขั้นตอนการเซ็นต์สัญญา ซึ่งหลังจากนี้คาดว่ากระบวนการทุกอย่างจะแล้วเสร็จในอีก 2-3 สัปดาห์ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีเงินทุนเพิ่มขึ้นถึง 8.4 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทจะนำมาใช้ในการพัฒนาธุรกิจทุกด้าน และส่วนหนึ่งนำมาชำระหนี้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน โดยคาดหวังอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) จะปรับตัวลดลงเหลือ 2-3 เท่า ภายในงบไตรมาส 1 ปีนี้ จากปัจจุบัน D/E อยู่ที่ 8 เท่า"นายสรพจน์กล่าว
นายสรพจน์ยังกล่าวถึงโครงสร้างสัดส่วนรายได้ของเพซในปีนี้ จะมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 70% และจากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ ดีน แอนด์ เดลูกา 30% อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดหวังว่าในอนาคต รายได้หลักจะมาจากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอให้กับบริษัท ขณะที่รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ที่เฉลี่ยต่อปี 1 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ นายสรพจน์ยัง กล่าวแสดงความมั่นใจว่า ปีนี้ PACE จะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้หมด 3.7 พันล้านบาท หลังทยอยรับรู้รายได้จาก backlog โครงการมหานครกว่า 9 พันล้านบาท รวมถึงมีส่วนที่ยังเหลือขายอีก 5 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะปิดการขายได้หมดภายในปีนี้หรืออย่างช้าในปีหน้า นอกจากนี้ สิ้นปีนี้บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการมหาสมุทรบางส่วนอีกมูลค่าประมาณ 1-2 พันล้านบาท ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลให้ผลประกอบการในสิ้นปีนี้พลิกกลับมามีกำไรอีกครั้ง
นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่อีก 2-3 แห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ มูลค่ารวม 1 หมื่นล้านบาท โดยในประเทศเบื้องต้นในปีนี้จะเปิดโครงการใหม่คอนโดมิเนียมสูง 40 ชั้น บริเวณถนนนราธิวาส มูลค่า 3 พันล้านบาท ซึ่งคาดจะไปรับรู้รายได้ในปี 2563 และยังอยู่ระหว่างเจรจาขอซื้อที่ดินทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ส่วนต่างประเทศจะเปิดโครงการบ้านพักตากอากาศ ที่ประเทศญี่ปุ่น มูลค่า 4 พันล้านบาท
ด้าน นายฟิลิป มินทซ์ ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเอเชียของอพอลโล กล่าวว่า อพอลโลรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมลงทุนในสถาปัตยกรรมไอคอนระดับโลกอย่างมหานคร และได้ทำงานร่วมกับทีมงานเปี่ยมคุณภาพมากประสบการณ์เช่นเพซ โดยเราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะสานต่อความร่วมมือครั้งนี้ในระยะยาว เพื่อต่อยอดความสำเร็จยิ่งๆ ขึ้นไป โดยเราเชื่อมั่นว่ามหานครจะเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย
ข่าวเด่น