กสิกรไทยมองเศรษฐกิจไทยปีนี้ ขยายตัว 3.3% ปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากการลงทุนภาครัฐ และการท่องเที่ยว มองน้ำท่วมใต้กระทบเล็กน้อย ชี้ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจไทย มาจากนโยบาย “โดนัลด์ ทรัมป์” ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ กับนโยบายกีดกันการค้า เพิ่มภาษีนำเข้า กระทบเศรษฐกิจจีนชะลอตัว และกำลังซื้อนักท่องเที่ยวจีนมาไทยหด   

นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจไทยในปีนี้น่าจะขยายตัวประมาณ 3.3% จากการลงทุนภาครัฐเป็นหลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และธุรกิจภาคการท่องเที่ยวที่ช่วยผลักดัน ขณะที่ภาคการส่งออดคาดขยายตัว 1-2% จากเศรษฐกิจโลกที่คาดจะขยายตัวในปีนี้ราว 2.7% และคาดว่าในระยะยะยาวการส่งออกจะไม่ขยายตัวมากนัก หากไทยยังไม่สามารถปรับปรุงสินค้าในรูปแบบใหม่ออกมา

ส่วนกรณีน้ำท่วมภาคใต้ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจเพียงเล็กน้อย เนื่องจากขนาดเศรษฐกิจของภาคใต้ มีสัดส่วนเพียง 8.6% ของจีดีพีประเทศ อย่างไรก็ตาม หลังน้ำท่วมคลี่คลายจะต้องมีการซ่อมแซมถนนและสะพานที่ชำรุด ซึ่งจะเป็นอานิสงส์ให้กับเศรษฐกิจบ้าง

สำหรับปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ได้แก่ นโยบายการค้าของ "โดนัลด์ ทรัมป์" ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เพราะหากสหรัฐปรับเพิ่มภาษีนำเข้าจะทำให้เศรษฐกิจของจีนชะลอตัวลง ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางมายังประเทศไทยด้วย และหากนโยบายกีดกันการค้าเกิดขึ้นจริง รัฐบาลไทยอาจจะต้องหันมากระตุ้นการบริโภคในประเทศ ผ่านการเบิกจ่ายงบประมาณเข้าระบบ

นอกจากนี้ นโยบายการลดภาษีนิติบุคคลของ “โดนัลด์ ทรัมป์” จะทำให้เกิดเงินเฟ้อในระบบมากขึ้น จากการนำเงินออกจากตราสารหนี้ไปยังตลาดหุ้น และจากนโยบายที่ส่งเสริมการแข่งขันทางการค้า จะทำให้สินค้าราคาแพงขึ้นด้วย จึงมองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งเท่านั้นในปีนี้ เนื่องจากหากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 2-3 ครั้งตามที่ตลาดคาด จะทำให้เงินฝืดมากขึ้น

ส่วนทิศทางอัตราดอกเบี้ย นายกอบสิทธิ์มองว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิมต่อไปในปีนี้ แต่จะไปปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า

สำหรับทิศทางค่าเงินบาทในปีนี้  นายกอบสิทธิ์มองว่า มีแนวโน้มอ่อนค่าลง โดยในไตรมาสแรกปีนี้ คาดเงินบาทจะอยู่ที่ 36 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าค่าเงินบาท ณ สิ้นปี 2560 จะอยู่ที่ 36.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ จากดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลอยู่ราว 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ