Key point

มูลค่าการส่งออกไทยเดือน ธ.ค. ขยายตัวที่ 6.2%YOY จากการส่งออกไปยังจีน และ CLMV
ซึ่งขยายตัวกว่า 27%YOY และ 17%YOY ตามลำดับ โดยสินค้าที่ขยายตัวสูงในตลาดดังกล่าว คือสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน

มูลค่าการส่งออกทั้งปี 2016 ขยายตัวได้เล็กน้อยที่ 0.5%YOY ซึ่งนับว่าเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 4 ปี อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมทองคำจะหดตัวที่ 1.2%YOY

มูลค่าการนำเข้าขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ที่ 10.3%YOY จากการนำเข้าสินค้าเชื้อเพลิงที่ขยายตัวตามราคาน้ำมัน ส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าทั้งปี 2016 หดตัวที่ 3.9%YOY

Implication

มูลค่าการส่งออกไม่รวมทองคำที่หดตัวสะท้อนว่าภาคการส่งออกไทยโดยรวมยังไม่ฟื้นตัวอย่างแท้จริง โดยเฉพาะสินค้าอุตสาหกรรมหลักอย่าง เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ยังคง
หดตัวในปี 2016 ซึ่งสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังฟื้นตัวช้าและปัญหาเชิงโครงสร้างของกลุ่มสินค้าดังกล่าวที่เริ่มล้าสมัย และประสบปัญหาด้านการย้ายฐานการผลิต

อีไอซีคาดว่ามูลค่าการส่งออกไทยในปี 2017 จะขยายตัวได้เล็กน้อยที่ 1.5%YOY ตามปริมาณการค้าโลกที่ยังคงซบเซา รวมถึงความเสี่ยงจากนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ที่มีต่อจีน
ซึ่งอาจกระทบการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมหลักของไทยผ่านห่วงโซ่การผลิต โดยเฉพาะ
เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เม็ดพลาสติก และไม้สำหรับทำเฟอร์นิเจอร์ อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจะส่งผลให้ราคาและมูลค่าการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันพลิกขยายตัวต่อไปได้ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2017

อีไอซีคาดว่ามูลค่าการนำเข้าจะพลิกกลับมาขยายตัวได้ที่ 3.5%YOY ในปี 2017 จากมูลค่า
การนำเข้าสินค้าเชื้อเพลิงที่จะปรับตัวดีขึ้นตามราคาน้ำมัน รวมถึงความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มการบริโภคภาคครัวเรือนที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม การลงทุนของภาคเอกชนในกลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่ยังมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องถึงปี 2017 จะเป็นปัจจัยกดดันต่อการนำเข้าสินค้าทุนในระยะต่อไป