จากผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือน ธ.ค.2559 ที่ผ่านมาของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นอยู่ในระดับ 73.7 ซึ่งถือว่าดีขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากประชาชนมีความมั่นใจในสถานการณ์เศรษฐกิจในอนาคตว่าจะปรับตัวดีขึ้นประกอบกับการส่งออกกลับมาขยายตัวสูงสุดในรอบ 9 เดือน เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรขยายตัวดีขึ้น โดยเฉพาะยางพารา ซึ่งจากแนวโน้มที่ดีดังกล่าว ส่งผลให้คาดการณ์ว่าไตรมาสแรกของปี 2560 นี้ ภาพรวมเศรษฐกิจของไทยน่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างแน่นอน เพราะแต่ละปีประเทศไทยจะมีเม็ดเงินสะพัดในช่วงเทศกาลตรุษจีนทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท

สำหรับเทศกาลที่คาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้ภาพรวมการท่องเที่ยวและธุรกิจปรับตัวดีขึ้น คือ เทศกาลตรุษจีน เพราะนอกจากจะเป็นเทศกาลที่ประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนจะออกมาซื้อสินค้าข้าวของเครื่องใช้และเครื่องเซ่นไหว้ เพื่อทำพิธีในวันตรุษจีน ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 6,400 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 3% หรือมีอัตราเฉลี่ยการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อครอบครัวที่ 3,600 บาทแล้ว ยังจะมีเม็ดเงินสะพัดในด้านของการท่องเที่ยวเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยอีกด้วย

ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ของท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนระหว่างวันที่ 27 ม.ค.-2 ก.พ.นี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนในประเทศไทยประมาณ 8.25 แสนคน เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 7.94 แสนคน สร้างรายได้ 1.91 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 17,000 ล้านบาท

ความคึกคักที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบการห้างค้าปลีกต่างออกมาจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงเทศกาลตรุษจีนกันอย่างคึกคัก เพื่อชิงเม็ดเงินสะพัดทั่วประเทศที่เกิดขึ้นประมาณ 50,000 ล้านบาท ซึ่งกิจกรรมที่แต่ละห้างค้าปลีกจัดขึ้นมาก็มีทั้งการทำโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม และการมอบโชคให้ลูกค้าได้ร่วมลุ้นโชคท่องเที่ยวในต่างประเทศ

น.ส.ชนิสา แก้วเรือน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานกิจกรรมการตลาดและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีนถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศและเป็นช่วงโอกาสทองทั้งของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและธุรกิจค้าปลีกไทย ในปีนี้บริษัทได้ร่วมกับร้านค้าแบรนด์ดังในศูนย์การค้า สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ จัดแคมเปญรับปีไก่ทอง “สยามแมกนิฟิเซนท์ ไชนีสนิวเยียร์ 2017” ยกขบวนทั้งโปรโมชั่นพิเศษ และกิจกรรมอีเว้นท์ต้อนรับนักช้อปภายใต้งบลงทุน 50 ล้านบาท

เริ่มด้วยโปรโมชั่นสินค้าแบรนด์ดังที่นำมาลดราคาสูงสุด 70% ระหว่างวันที่ 26 ม.ค. – 5 ก.ค. 2560 และพิเศษเพิ่มเติมสำหรับผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทย รับสิทธิพิเศษหรือส่วนลดจากร้านค้าชั้นนำที่ร่วมรายการถึงวันที่ 12 มี.ค. 2560 นอกจากนี้ ในแต่ละศูนย์การค้ายังมีการทำโปรโมชั่นพิเศษ เช่น ลูกค้าสยามพารากอน ช้อปครบตามเงื่อนไขรับทันที สยามกิ๊ฟท์การ์ด ,สปาบิ้วตี้แพคเกจจากรมย์รวินท์ หรือ บัตรรับประทานอาหาร เครื่องดื่มจากร้านดังในสยามพารากอน  

ส่วนลูกค้าสยามเซ็นเตอร์ ช้อปครบตามเงื่อนไขรับทันทีสยามกิ๊ฟท์การ์ด ,บัตรกำนัลจากร้านลอฟท์ ,ฟู้ดรีพับพลิค หรือ ถุงนำโชค Absolute Siam และลูกค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ ช้อปตั้งแต่ 35,000 บาทขึ้นไป รับทันทีสยามกิ๊ฟท์การ์ดมูลค่า 1,200 บาท พร้อมกันนี้ ยังมีสิทธิพิเศษรับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 17% จากบัตรเครดิตชั้นนำที่ร่วมรายการ ซึ่งหลังจากจบแคมเปญดังกล่าว คาดว่าจะช่วยร้านค้าเช่าเพิ่มยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 15-20%

ในส่วนของห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ทุกสาขา , ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์, พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ และ บลูพอร์ต หัวหิน ก็ออกมาทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท จัด GLORIOUS CHINESE NEW YEAR ฉลองตรุษจีน อัดกิจกรรมและโปรโมชั่นพิเศษกระตุ้นการใช้จ่าย สร้างความคึกคักการใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีน หวังชิงเงินสะพัดตรุษจีนให้กับธุรกิจไม่ต่ำกว่า 2,500  ล้านบาท

นายชำนาญ เมธปรีชากุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ Glorious  Chinese  New  Year ระหว่างวันที่ 19 ม.ค. – 5  ก.พ.ที่ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ทุกสาขา , ดิ เอ็มโพเรียม ,ดิ เอ็มควอเทียร์, พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ และ บลู พอร์ต หัวหิน โดยเมื่อช้อปตั้งแต่ 1,500 – 15,000 บาท รับคูปองส่วนลด 10-50% หรือ ใช้คะแนน M Point 100 – 1,200 คะแนนแลกรับ และเฉพาะสมาชิก M Card ช้อปครบทุก 2,000 บาท  ลุ้นรับไข่ทองคำมงคล มูลค่า 2 แสนบาท

นอกจากนี้  ยังมีการจัดแคมเปญพิเศษ The Mall Shopping Center GLORIOUS CHINESE NEW YEAR 2017 ตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.– 28 ก.พ. นี้ ลุ้น กิน ฟิน เที่ยว มูลค่ารวมกว่า 1.5 ล้านบาท เมื่อใช้จ่ายภายในศูนย์การค้าครบทุก 1,000 บาท ลุ้นทริปปักกิ่ง ทริปมหัศจรรย์ ทานเหลา เที่ยวหรูพร้อมตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพ-ปักกิ่ง โดยสายการบินไห่หนานแอร์ไลน์ Hainan Airlines พร้อมรับอั่งเปาแทนเงินสด

ด้าน น.ส.ปิยวรรณ ลีละสมภพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้า เซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนถึงวาเลนไทน์นี้  ห้างเซ็นทรัลได้ใช้งบ 120 ล้านบาท  จัดแคมเปญส่งเสริมการขายต่อเนื่อง โดยในส่วนของเทศกาลตรุษจีนบริษัทได้จัดรายการ  “Central Chinese New Year 2017” ระหว่างวันที่ 19 ม.ค. – 5 ก.พ.2560  มอบข้อเสนอที่น่าสนใจให้กับลุกค้าที่เข้ามาใช้บริการในห้างเซ็นทรัลทุกสาขา, ร้านในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี, ร้านในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาแกรนด์ พระราม 9 ด้วยกัน 5 ต่อ

ต่อที่ 1 จะเป็น- มอบส่วนลดสูงสุด 30% สำหรับสินค้าราคาปกติ,  แผนกบิวตี้ แกเลอรี ลด 10-15% (เฉพาะศุกร์ - อาทิตย์) ต่อที่ 2 - ช้อปฯ ทุก 1,500 บาท หรือนำคะแนนสะสม The 1 card 100 คะแนน แลกรับสติ๊กเกอร์ Central Season of Giving 2017 เพื่อใช้สะสมเป็นส่วนลดในการ ช้อปปิ้ง สูงสุด 50% ต่อที่ 3 -เมื่อใช้คะแนน The 1 Card ลดเพิ่มสูงสุด 12.5 % ต่อที่ 4 -รับฟรีคูปองส่วนลดแทนเงินสด 100 บาท เมื่อช้อปครบทุก 3,000 บาท  และต่อที่ 5 - รับฟรี iPhone 7 32GB  เฉพาะ 80 ท่านแรก ที่ช้อปผ่านบัตร MasterCard ครบตามเงื่อนไข

สำหรับลูกค้านักท่องเที่ยว เมื่อช้อปครบ 1,000 บาท รับสิทธิ์ลุ้นจับรางวัลกว่า 15,000 ชิ้น เช่น เครื่องสำอางจากหลากหลายแบรนด์ดัง, บัตรกำนัล และกระเป๋าเดินทางจาก Nautica  นอกจากนี้ ยังได้รับสิทธิ์จากรายการ Central Chinese New Year 2017 แลกรับส่วนลดสูงสุด 15 %  รับเพิ่มเครดิตเงินคืน และรับสิทธิ์แบ่งชำระ0% นาน 3 เดือน จากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ

ส่วนเทศกาลวาเลนไทน์ ก็จะมีการ จัดรายการ “Central Season of Giving 2017” ช้อปฯ ทุก 1,500 บาท หรือนำคะแนนสะสม The 1 card 100 คะแนน แลกรับสติ๊กเกอร์เพื่อใช้สะสมเป็นส่วนลดในการ ช้อปปิ้ง สูงสุด 50%  และหากช้อปผ่านบัตร The 1 Card ลดเพิ่มสูงสุด 12.5 %  พร้อมกับรับสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิตชั้นนำถึงวันที่ 7 มี.ค. 2560 โดยหลังจากจบ 2 แคมเปญดังกล่าวคาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 1,800 ล้านบาท

บรรยากาศที่ผู้ประกอบการศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าต่างๆ พากันเนรมิตขึ้นในครั้งนี้ น่าจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ในการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ภายหลังจากปลายปีที่ผ่านมาบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยเริ่มกลับมาจากมาตรการช็อปช่วยชาติ ซึ่งห้างค้าปลีกแต่ละค่ายก็โกยยอดขายเพิ่มขึ้นจากปกติได้เป็นที่น่าพอใจกันถ้วนหน้า