อสังหาริมทรัพย์
"พฤกษาฯ" ปรับยุทธศาสตร์ กินรวบทุกเซ็กเมนต์


"พฤกษา เรียลเอสเตท" ปรับตัวรับมือแข่งดุ ลุยขยายตลาดสู่กลุ่มพรีเมี่ยม หวังครองมาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 ทุกตลาด ตั้งเป้ายอดขายและยอดโอนกว่า 5 หมื่นล้าน เตรียมผุดโครงการพรีเมียมมูลค่ากว่าหมื่นล้าน

 

นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท  จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2560 ว่า จะยังคงเน้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ระดับกลาง-ล่าง เพราะเป็นตลาดที่ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แต่จะขยายฐานกลุ่มลูกค้าระดับบนมากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมในทุกเซ็กเมนต์ เนื่องจากภาวะการแข่งขันสูง ทำให้ต้องมีสินค้าที่หลากหลายและครอบคลุมตลาด

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อความคล่องตัวในการขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจใหม่ที่สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาโอกาสทางธุรกิจอื่นๆ เพื่อรองรับให้บริษัทเติบโตต่อไปในอนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยในวันที่ 17 กุมภาพันธ์นีั จะสามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมเสนอขออนุมัติจากบอร์ด

ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 52,900 ล้านบาท และยอดโอน 50,200 ล้านบาท เติบโตจากปี 2559 อยู่ที่ 19% และราว 9%

 

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปี 2560 ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดว่าจะเติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 5% มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 3.79 แสนล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนโครงการลงทุนด้านการคมนาคมของภาครัฐบาล มูลค่า 1.77 ล้านล้านบาท  และในปีนี้จะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่โครงสร้างทางธุรกิจ การแข่งขันของผู้ประกอบการ รวมไปถึงรูปแบบการพัฒนาโครงการ

โดยตลาดพรีเมียมเป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ที่พฤกษา เรียลเอสเตท จะเข้าไปชิงส่วนแบ่งการตลาด เนื่องจากมีมูลค่าตลาดเพิ่มมากขึ้นทุกปี ปัจจุบันสัดส่วนของตลาดพรีเมียมอยู่ที่ประมาณ 22-32% ของตลาดรวม ซึ่งบริษัทมีแผนการเปิดโครงการพรีเมียม จำนวน 6 โครงการ มูลค่า 9,900 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวสูง 5 โครงการ มูลค่า 8,800 ล้านบาท และแนวราบ 1 โครงการ มูลค่า 1,100 ล้านบาท

ด้าน นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท กล่าวว่า ภาพรวมตลาดของกลุ่มธุรกิจ Value มีส่วนแบ่งตลาด คิดเป็น 70-80% ของมูลค่าตลาดรวม โดยบริษัทถือครองส่วนแบ่งตลาดเซ็กเมนต์ Value มากกว่า 15% ของตลาดรวมทั้งหมด

ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายใน 3 แนวทาง แนวทางแรก คือ การบริหารรอบธุรกิจให้สั้น ซึ่งปัจจุบันระยะเวลาจากลูกค้าจองถึงโอนกรรมสิทธิ์ มีระยะเวลา ในกลุ่มทาวน์เฮาส์ เพียง 49 วัน  บ้านเดี่ยว  91 วันคอนโดมิเนียมไม่เกิน 8  ชั้น ใช้ระยะเวลา 425 วัน และ คอนโดมิเนียมอาคารสูง ใช้ระยะเวลา 754 วัน 

 

 

แนวทางที่ 2 คือ แผนการเปิดโครงการใหม่จำนวน 72 โครงการ มูลค่ารวม 60,800 ล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 39 โครงการ บ้านเดี่ยว 20 โครงการ คอนโดมิเนียม 7 โครงการ และโครงการพรีเมียม 6 โครงการ นอกจากนี้ยัง มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายอีก 176 โครงการ 

และแนวทางที่ 3  คือ การใช้กลยุทธ์บ้านพร้อมอยู่ ในการบริหารจัดการโครงการทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยว  ซึ่งมั่นใจด้วยกลยุทธ์ 3 แนวทางนี้ จะทำให้บริษัทฯ บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 31 ม.ค. 2560 เวลา : 09:45:04
27-12-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 27, 2024, 2:14 pm