"การลงทุนของรัฐวิสาหกิจ" ยังเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีนี้ให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวน
โดยในงานสัมมนาและมอบนโยบายผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจ (เอสโออี ซีอีโอ ฟอร์รั่ม) ทั้ง 54 แห่ง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจทุกแห่งเร่งลงทุน เนื่องจากปีนี้รัฐวิสาหกิจจะเป็นแรงสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เพราะมีวงเงินเบิกจ่ายงบลงทุนปี 2560 รวมกว่า 371,910 ล้านบาท หรือคิดเป็น 95% ถือเป็นส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในช่วงที่การใช้จ่ายภาคเอกชนยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ โดยคาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) จะขยายตัวได้ดีกว่าปี 2559 ที่คาดว่าขยายตัวได้ 3.2% ต่อปี และมากกว่าปี 2558 ที่ขยายตัวได้ 2.8% ต่อปี
ขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2560 ได้ผ่านจากจุดต่ำสุดมาแล้ว สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าไทย ที่ออกมาดี และล่าสุดได้รายงานนายกรัฐมนตรี ทราบว่าดัชนีของปูนซีเมนต์ไทยปรับตัวดีขึ้น สะท้อนถึงการเติบโตของวัสดุก่อสร้างที่คาดว่าจะเป็นบวกในรอบ 3 ปี ถือเป็นตัวที่น่าเชื่อถือได้ดีที่สุด เพราะหากเศรษฐกิจขยายตัว วัสดุก่อสร้างจะขยับตามทันที ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรฟื้นสนับสนุนรายได้เกษตรกร และรายได้คนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้น ช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ด้าน นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การประชุมผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจครั้งนี้ จะเป็นการแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ เพื่อนำไปปรับใช้และพัฒนาองค์กรของแต่ละแห่ง รวมถึงจัดทำแผนรัฐวิสาหกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยให้นำกรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12, ไทยแลนด์ 4.0 และแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจในภาพรวมมาเป็นกรอบจัดทำแผนรัฐวิสาหกิจ ถือเป็นการรวมพลังของกลุ่มรัฐวิสาหกิจ เพื่อผลักดันภารกิจสำคัญที่จะสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 2560 แม้ว่าภาคเอกชนจะเริ่มมาลงทุน แต่ยังมีจำนวนน้อยและล่าช้ากว่าที่คาด จึงต้องเร่งผลักดันให้รัฐวิสาหกิจเร่งลงทุนในปีนี้อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ก็มีการพัฒนาบทบาทการทำงานอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเป็นผู้ถือหุ้นเชิงรุก ผ่านคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจที่เป็นตัวแทนของกระทรวงการคลังที่ต้องเพิ่มบทบาทในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ขององค์กรให้เดินหน้าสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี หรือเน้นเพียงการสร้างรายได้เพียงอย่างเดียว พร้อมทั้งต้องมีการวางยุทธศาสตร์การทำงานในระยะยาว 5-10-20 ปี ควบคู่กันไป รวมทั้งยังเน้นย้ำเรื่องธรรมาภิบาล ซึ่งรัฐวิสาหกิจต้องมีวิสัยทัศน์เรื่องนี้บรรจุอยู่ในแผนยุทธศาสตร์ด้วย และให้ใช้หลักธรรมาภิบาลในการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขณะที่ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการ สคร. กล่าวว่า การจัดสัมมนา SOE CEO Forum ครั้งนี้ นับเป็นมิติใหม่ของการเป็นหุ้นส่วนเชิงรุก โดยให้ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางการบริหารงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ และการจัดทำแผนรัฐวิสาหกิจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ และการช่วยให้รัฐวิสาหกิจสามารถจัดทำแผนงานในระยะสั้นและระยะยาวให้มีความชัดเจนขึ้น
ข่าวเด่น