บล.โกลเบล็ก เผยหุ้นไทยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานประกาศผลการดำเนินงานปี 59 ใน สัปดาห์นี้ และ ทรัมป์เตรียมประกาศแผนปรับลดภาษีครั้งใหญ่ พร้อมแนะจับตาเฟดแถลงนโยบายการเงินต่อวุฒิสภา อาจส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ให้กรอบดัชนี 1,560 – 1,600 จุด แนะลงทุนหุ้นที่คาดว่ากำไรปี 59 จะเติบโตโดดเด่น กลุ่มที่มี Dividend yield สูง แนะนำ KTB-LH -PSH และ BANPU ได้อานิสงส์จาก MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักลงทุน มีผล 28 ก.พ. 60
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากหุ้นกลุ่มพลังงานจะทยอยประกาศผลการดำเนินงานปี 59 ในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่ากำไรจะเติบโตดี รวมถึงในเดือนม.ค.60 กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 890,000 บาร์เรล/วันเมื่อเทียบกับเดือนธ.ค. ส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน
นอกจากนี้ การที่ประธานาธิดีทรัมป์เตรียมประกาศแผนการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ประกอบกับตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯที่แข็งแกร่งจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 43 ปี โดยลดลง 12,000 ราย สู่ 234,000 ราย และการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2560 ส่งผลให้หน่วยงานราชการต่างเร่งจัดหาผู้รับเหมาและลงนามสัญญาโครงการก่อสร้างภายในเดือนมี.ค.เพื่อให้เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ไม่ต่ำกว่า 95% ขณะที่รองนายกฯ สั่งให้ รฟม.เร่งเสนอรถไฟฟ้า 10 เส้นทางเสนอที่ประชุมครม.ภายในปีนี้ล้วนเป็นปัจจัยหนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้
โดยมีปัจจัยกดดันจากความผันผวนของ Fund Flow ต่างชาติจากนโยบายเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ประกอบกับความกังวลผลกระทบจาก BREXIT ซึ่งสอดคล้องกับที่ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กังวลว่าขั้นตอนการเจรจาอาจเป็นชนวนให้เกิดความแตกแยกขึ้นในกลุ่มประเทศที่เหลือในสหภาพยุโรป (EU) ส่วนปัจจัยลบภายในประเทศได้แก่การที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประกาศเลื่อนกำหนดการซักซ้อมความเข้าใจยื่นคำร้องและข้อเสนอขายไฟฟ้าขยะชุมชน
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ วันที่ 14-15 ก.พ. ติดตามนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลง นโยบายการเงินต่อวุฒิสภา ซึ่งคาดว่าอาจจะมีการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากมีการปรับเพิ่มการคาดการณ์เงินเฟ้อขึ้นใกล้ระดับเป้าหมายที่ 2% วันที่ 15 ก.พ. อียูจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนธ.ค. ส่วนสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนก.พ. ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค. ผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนม.ค. รวมทั้งสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเดือนธ.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ และในวันที่ 20 ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ฯมีกำหนดแถลงตัวเลข GDP ในช่วงไตรมาส 4/59
ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ถูกแรงกดดันจากความผันผวนของ Fund Flow ต่างชาติที่พลิกเป็น Net Sell รวมถึงแรงขายตามสัญญาณเทคนิคหลังดัชนีไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,600 จุดได้ อย่างไรก็ตามคาดจะมีแรงซื้อดักงบและเงินปันผลปี 2559 เข้ามาพยุงดัชนีในช่วงอ่อนตัว
ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,560 – 1,600 จุด ทั้งนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไรแบบ Selective Buy ในกลุ่มพลังงาน อานิสงส์ราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูงและคาดว่างบ Q4/59 รวมถึงงบปี 59 จะมีกำไรเติบโตขึ้น กลุ่มที่มี Dividend yield สูง แนะนำ KTB LH และ PSH รวมทั้ง BANPU ที่คาดว่าจะได้อานิสงส์จากการที่ MSCI Rebalance ปรับเพิ่มน้ำหนักลงทุน มีผล 28 ก.พ. 60
ข่าวเด่น