ก้าวเข้าสู่หน้าร้อนเป็นที่เรียบร้อยสำหรับปี 2560 ซึ่งจากการคาดการณ์ว่าปีนี้ประเทศไทยจะมีสภาพอากาศที่ร้อนกว่าทุกปีที่ผ่านมา ส่งผลให้กลุ่มสินค้าเครื่องดื่มประเภทน้ำดำมีความคึกคักมากเป็นพิเศษ เพราะช่วงเวลานี้ถือเป็นช่วงหน้าขายสินค้า ด้วยเหตุนี้ผู้ประกอบการ 2 ค่ายยักษ์ อย่างเป๊ปซี และเอส จึงออกมาประกาศกลยุทธ์เชิงรุก เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงหน้านี้ ภายหลังพบหน้าร้อนเป็นช่วงเวลาที่สร้างยอดขายให้ได้มากที่สุด คือ เป็นอัตราส่วนประมาณ 30-40% ของยอดขายทั้งปี
นอกจากนี้ ช่วงหน้าร้อนยังสามารถสร้างยอดขายให้เติบโตจากปกติได้ไม่ต่ำกว่า 15-30% ด้วยเหตุนี้ ทั้งเป๊ปซี่ และเอส จึงเล็งเห็นโอกาสในการออกมาทำกิจกรรมการตลาดกันอย่างหนักในช่วงเวลานี้ เพื่อผลักดันให้มียอดขายเติบโตจากปกติมากที่สุด ซึ่งในส่วนของ "เป๊ปซี่" ปีนี้ได้ออกมาเปิดเกมรุก ด้วยการเปิดตัวแคมเปญ “เป๊ปซี่ ซัมเมอร์ โมเมนต์” (Pepsi Summer Moment) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เป๊ปซี่ ซ่าทุกที่ ทุกอารมณ์” ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำตลาดน้ำดำในบรรจุภัณฑ์แบบไม่ต้องคืนขวด และเป็นแบรนด์ที่มียอดขายเติบโตสูงที่สุดในตลาดในปีที่ผ่านมา
นายโอเมอร์ มาลิค กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ในปี 2559 ที่ผ่านมา ตลาดน้ำอัดลมยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องดื่มโคล่าหรือน้ำดำ มีอัตราการเติบโตสูงถึง 5.3% เมื่อเทียบกับปี 2558 ซึ่งในส่วนของเป๊ปซี่เองก็มียอดขายเติบโตอยู่ที่ 9.4% ซึ่งถือว่าสูงกว่าภาพรวมตลาด เนื่องจากบริษัทมีการเปิดโรงงานผลิตเครื่องดื่มแห่งที่ 2 ในจังหวัดสระบุรี เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน ยังมีการทำแคมเปญการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายที่มีสีสันตลอดทั้งปี ทำให้สามารถรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดน้ำดำอันดับหนึ่งในกลุ่มบรรจุภัณฑ์แบบไม่ต้องคืนขวด (คือทั้งขวดพีอีทีและกระป๋อง) ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่มากกว่า 45% นอกจากนี้ เป๊ปซี่ ยังมีอัตราการเติบโตของยอดขายที่สูงกว่าตลาดรวมและเป็นอันดับหนึ่งเหนือคู่แข่งทุกแบรนด์ ในขณะที่การวัดผลด้าน Brand Health เป๊ปซี่ยังคงครองแชมป์แบรนด์เครื่องดื่มที่มีความแข็งแกร่งในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์เครื่องดื่มที่เติมเต็มความสดชื่นได้อย่างเต็มที่ (Ultimate Refreshment) แบรนด์ที่ผู้บริโภครักและชื่นชอบ (Brand Love) และแบรนด์ที่มีความเป็นผู้นำเทรนด์ (Trendsetter) ด้วยคะแนน 57%, 58% และ 70% ตามลำดับ
นายสมชัย เกตุชัยโกศล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ช่วงหน้าร้อน ถือเป็นไฮซีซั่นของตลาดเครื่องดื่มโดยเฉพาะน้ำอัดลม เห็นได้จากอัตราการเติบโตของตลาดสูงกว่าช่วงปกติ 20 – 25% ซึ่งในส่วนของเป๊ปซี่ ปีนี้ได้มีการส่งแคมเปญ ‘เป๊ปซี่ ซัมเมอร์ โมเมนต์’ เข้ามาต่อยอดโกลบอลแคมเปญ ‘เป๊ปซี่ โมเมนต์’ (Pepsi Moment) ให้เข้ากับช่วงเวลาซัมเมอร์ในสไตล์ที่โดนใจคนไทย เพื่อสร้างสีสันและผลักดันยอดขายในหน้าร้อนนี้
นอกจากนี้ ยังได้มีการใช้งบอีกประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้ของแคมเปญผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ภายใต้ชื่อ “Summer Moment” ซึ่งนำแสดงโดย 3 พรีเซ็นเตอร์ คือ เจเจ”กฤษณภูมิ, “ทอย” ปฐมพงศ์ และ “ก้อย” อรัชพร มาเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ในแคมเปญโฆษณาชุดล่าสุด พร้อมด้วย 4 หนุ่ม “Getsunova” ที่มาร่วมถ่ายทอดซัมเมอร์โมเมนต์ผ่านเสียงดนตรีกับ ซิงเกิ้ลใหม่ “นักเดินทาง” ที่แต่งขึ้นเป็นพิเศษสำหรับแคมเปญนี้ของเป๊ปซี่โดยเฉพาะ
พร้อมกันนี้ เป๊ปซี่ ยังได้ส่งแพคเกจจิ้งใหม่ล่าสุดรุ่น “ลิมิเต็ด อิดิชั่น” จำนวน 6 ลวดลายรับซัมเมอร์ ทั้งในรูปแบบขวดพีอีทีและกระป๋องมาให้ลูกค้าได้เลือกซื้อเป็นเจ้าของ อย่างไรก็ดี เพื่อให้แคมเปญนี้เป็นที่รับรู้มากขึ้น เป๊ปซี่ ได้มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าผ่านสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกลางแจ้ง สื่อบนสถานีรถไฟฟ้า สื่อในโรงภาพยนตร์ สื่อดิจิทัล สื่อในร้านค้า หรือสื่อ ณ จุดขาย เพื่อสร้างสีสันให้กับตลาดเครื่องดื่มตลอดซัมเมอร์ พร้อมสร้างฐานผู้บริโภคและตอกย้ำความแข็งแกร่งของเป๊ปซี่ในฐานะแบรนด์ของคนรุ่นใหม่ในยุคนี้ ซึ่งหลังจากออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เป๊ปซี่คาดว่าตลอดเดือน มี.ค.-มิ.ย.จะมียอดขายเติบโตจากปกติไม่ต่ำกว่า 30%
ด้าน "เอส" ก็ออกมาใช้งบกว่า 300 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ “เอส ซ่าซี้ดเลือกได้ ทั้งฟินทั้งซิ่ง” ให้แฟนคลับของเอส และ GOT7 ได้ร่วมสนุกลุ้นรับของรางวัลกัน 2 รูปแบบ คือ เลือก “ฟิน” ติดเกาะกับ GOT7 แบบจุใจ จำนวน 500 คน หรือเลือก “ซิ่ง” โตโยต้า ยาริส เที่ยวคลายร้อน จำนวน 100 คัน รวมมูลค่ากว่า 57 ล้านบาท
นางเจษฎากร โคชส์ รองกรรมการผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัท ไทยดริ้งค์ จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทได้มีการต่อยอดความสำเร็จของเอส ด้วยการขยายฐานแฟนเลิฟให้ครอบคลุมในทุกไลฟ์สไตล์วัยทีน โดยการนำเสนอแคมเปญที่รวมฮิตทุกอินไซต์โดนๆ ของคนรุ่นใหม่มาไว้ในแคมเปญ “เอส ซ่าซี้ดเลือกได้ ทั้งฟิน ทั้งซิ่ง” ครั้งแรกของซัมเมอร์โปรโมชั่นครั้งยิ่งใหญ่ ที่เปิดโอกาสให้แฟนเอสได้เลือกรางวัลระหว่างการได้เป็น 500 ผู้โชคดีที่จะได้ไปติดเกาะกับ 7 หนุ่ม GOT7 แบรนด์แอมบาสเดอร์เอส กับครั้งแรกของกิจกรรมสุดฟินริมชายหาดเกาะเสม็ดแบบใกล้ชิดที่ไม่เคยมีมาก่อนของบอยแบนด์เกาหลี แต่หากใครไม่ชอบศิลปินเกาหลีก็สามารถเลือกเป็นเจ้าของรถยนต์โตโยต้า ยาริส ได้จำนวน 100 คัน ซึ่งถือเป็นจำนวนรถยนต์ที่มากที่สุดในการทำแคมเปญของวงการน้ำอัดลมไทย
ขณะเดียวกัน เอสยังได้มีการเพิ่มความซ่าซี้ดรับซัมเมอร์ ด้วยบรรจุภัณฑ์ลิมิเต็ดเอดิชั่น ซัมเมอร์ลาย GOT7 ที่กลับมาตามคำเรียกร้องของบรรดาแฟนคลับ ให้ได้สะสมครบทั้ง 7 หนุ่ม 7 แบบ ในลุคสดใสซ่าซี้ดแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พร้อมจัดเต็มแคมเปญสื่อสารการตลาดแบบ 360 องศา ทั้งภาพยนตร์โฆษณาชุด Choice รวมทั้งกิจกรรมออนไลน์ให้แฟนเอสได้สัมผัสประสบการณ์ความฟินทะลุจอกับของรางวัลอย่างใกล้ชิดแบบ 360 องศา รวมทั้งขบวนทรูปที่ออกเดินสายแจกรางวัลแบบถึงที่ให้ผู้โชคดีทั่วประเทศ
นางเจษฏากร กล่าวอีกว่า จากการทำตลาดที่สร้างจุดยืนที่แตกต่างในตลาดน้ำอัดลมของเอสในปีที่ผ่านมา ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Happening” ที่จับกิจกรรมหรือบุคคลที่กำลังเป็นกระแสและได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่ในแต่ละกลุ่ม ครอบคลุมในเรื่องกีฬา ทั้งการนำ “ณเดชน์” ชวนคนรุ่นใหม่ไปเชียร์ฟุตบอลระดับโลกติดขอบสนาม การสนับสนุนทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยเปิดประสบการณ์เชียร์ไทยสุดซี้ดและสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ รวมทั้งการส่งตรงความบันเทิงด้านดนตรีนำไอดอลระดับเอเชียอย่าง GOT7 มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ชวนวัยรุ่นไทยให้ระเบิดความซ่าซี้ดสุดขั้ว ทำให้ “เอส” สามารถขึ้นเป็นแบรนด์ในใจคนไทยโดยเฉพาะวัยทีนได้อย่างแข็งแกร่ง โดยผลจากการสำรวจสุขภาพแบรนด์ล่าสุด (เดือนพ.ย. 2559) พบว่า เอส มีคะแนนด้านภาพลักษณ์เพิ่มสูงขึ้นในทุกด้าน ทั้งการเป็นแบรนด์สำหรับคนรุ่นใหม่ จาก 55% เป็น 77% เป็นแบรนด์ที่ดูเท่ จาก 44% เป็น 68% เป็นแบรนด์สำหรับฉัน จาก 41% เป็น 52% ซึ่งหลังจากบริษัทเดินหน้าทำการตลาดเอสอย่างต่อเนื่อง คาดว่าช่วงระหว่างเดือน มี.ค.-พ.ค.จะมียอดขายเติบโตจากปกติไม่ต่ำกว่า 15%
ปัจจุบัน ตลาดรวมน้ำอัดลมมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 51,000 ล้านบาท ปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 3% ถือเป็นอัตราการเติบโตที่น่าพอใจ เนื่องจากผู้เล่นในตลาดออกมาทำกิจกรรมส่งเสิรมการขายกันอย่างคึกคัก ซึ่งในมูลค่าดังกล่าว แบ่งเป็นตลาดน้ำดำ 35,000 ล้านบาท มีโค้กเป็นผู้นำตลาด ด้วยส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 50% ตามด้วยเป๊ปซี มีส่วนแบ่งการตลาด อยู่ที่ประมาณ 33% และเอส มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 10.2% โดยในส่วนของแบรนด์ที่มีอัตราการเติบโตมากที่สุดในปีที่ผ่านมา คือ เอส เติบโตที่ 7.4% ตามด้วยเป๊ปซี่ 5.7% และโค้กติดลบที่ประมาณ 1.5%
จากยอดขายที่เติบโตน้อยกว่าคู่แข่งในตลาด เชื่อว่าในเร็วๆนี้ ค่ายผู้นำตลาดต้องออกมาเปิดตัวแคมเปญส่งเสริมการขาย เพื่อป้องกันส่วนแบ่งการตลาดอย่างแน่นอน
ข่าวเด่น