ประกัน
วิริยะประกันภัย เผยผลงานปี 59 ทะลุเป้า มีเบี้ยฯ รับกว่า 3.3 หมื่นล


วิริยะประกันภัย เปิดแผนปี 60  สร้างมาตรฐานใหม่อุตสาหกรรมประกันภัย  จับมือ BCG ยักษ์ใหญ่ระดับโลกเป็นที่ปรึกษาวางระบบไอที  สร้างนวัตกรรมบริการ 4.0 เป็นโครงข่ายใยแมงมุมแบบเรียลไทม์ในทุกส่วนงาน ทั้งสำนักงานตัวแทน ศูนย์ซ่อมมาตรฐาน และผู้เอาประกัน ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคดิจิตอล  ตั้งเป้าอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่า 2%  ส่วนผลประกอบการในปีที่ผ่านมา มีเบี้ยประกันภัยรับตรงกว่า 3.3 หมื่นล้านบาท เติบโต 2.63%

นายสยม   โรหิตเสถียร  รองกรรมการผู้จัดการ  บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยถึง แผนการดำเนินงานว่า ในปีนี้ บริษัทฯ ได้ประกาศให้เป็นปีแห่งการก้าวสู่การเป็นบริษัทนวัตกรรมประกันภัย ด้วยแนวคิด   “70 ปี  วิริยะประกันภัย  มุ่งสู่อนาคต  ด้วยความเป็นธรรม ภายใต้ นวัตกรรมบริการ  4.0”  โดยการนำเทคโนโลยีสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการพัฒนา ปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการประกันภัยอย่างเต็มรูปแบบ  โดยเฉพาะการบริการด้านสินไหมทดแทน เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำบริการ  กล่าวคือ ไอทีจะเข้ามามีบทบาทในการทำงานมากขึ้น  ระบบการทำงานของบริษัทฯ ทั้งสำนักงานตัวแทน ทั้งศูนย์ซ่อมฯ  คู่ค้า  ลูกค้า และผู้เกี่ยวข้อง จะเชื่อมโยงถึงกันเป็นเครือข่ายออนไลน์ทั้งหมด ส่งผลให้การทำงานในทุกขั้นตอนเป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว 
 
“ขณะนี้ บริษัทฯ ได้ว่าจ้าง The Boston Consulting Group บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลก เข้ามาเป็นที่ปรึกษา และเป็นผู้ออกแบบแพลตฟอร์มให้มีระบบการทำงานที่คล่องตัวมากขึ้น ทั้งด้านการรับประกัน และสินไหมทดแทน  ทำให้สามารถเชื่อมโยงการทำงานให้เป็นหนึ่งเดียว และสามารถบริหารจัดการข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพและโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจ  ขณะที่บุคลากร ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีค่าของเรา เมื่อนำระบบเข้ามาสนับสนุนการปฏิบัติงาน  งานก็จะสำเร็จรวดเร็วขึ้น คนก็จะมีประสิทธิภาพมากกว่าเก่า งานก็จะสัมฤทธิ์ผลมากขึ้นด้วย” นายสยมฯ กล่าว

โดยการพัฒนาล่าสุด บริษัทฯ ยังได้ปรับปรุงสำนักงานมาตรฐานตัวแทน ให้เป็นสำนักงานตัวแทนดิจิตอล    เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ เพิ่มความเชื่อมั่นและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการทำธุรกรรมประกันภัย ผ่านช่องทางสำนักงานตัวแทนมาตรฐาน  ที่ได้รับการพัฒนา ตกแต่งทั้งภายนอกและภายใน โดยเน้นรูปแบบ Office Automation   เพิ่มเรื่องความสวยงาม ทันสมัย ตอบสนองทุกการใช้งาน นอกจากนี้ ยังเน้นเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศในระบบการทำงานของตัวแทน เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการปรับโฉมในครั้งนี้รวมถึงศูนย์ซ่อมมาตรฐานของวิริยะประกันภัยด้วย

ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างดำเนินการในเรื่องของการเพิ่มช่องทางในการติดต่อสื่อสาร เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าทั้งในเรื่องข้อมูลข่าวสาร สิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่จะได้รับผ่าน Mobile Application 

ส่วนในเรื่องการลงทุน บริษัทฯ มีนโยบายและมีสัดส่วนการลงทุนตามระเบียบ คปภ. คือ เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยและสภาพคล่องสูง โดยมีสัดส่วนการลงทุนหลัก ได้แก่  เงินฝาก  ตราสารหนี้ภาครัฐ และตราสารทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์  เน้นจัดสรรสภาพคล่องให้เพียงพอต่อภาระหนี้สินและค่าใช้จ่าย คำนึงถึงความเสี่ยงในการลงทุนอย่างรอบคอบ โดยพิจารณาจากการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัท (Credit Rating) ทั้งนี้ ในปี 2559 บริษัทฯ สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ร้อยละ 4.1

ทั้งนี้ ในเรื่องของทิศทางการลงทุนในปี 2560 บริษัทฯ เน้นการลงทุนเช่นเดียวกันกับในปีที่ผ่านมา โดยเพิ่มการติดตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างใกล้ชิดเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในประเทศมีแนวโน้มที่จะปรับสูงขึ้น ส่วนการลงทุนในตราสารจดทะเบียนจะต้องดำเนินการลงทุนด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มขึ้นในหลายด้าน โดยเฉพาะการเมืองภายในประเทศ
“เราตระหนักดีว่า ธุรกิจประกันภัยเป็นงานบริการที่ไม่มีวันสิ้นสุด เนื่องจากความต้องการของลูกค้า  ภาวะความเสี่ยงภัย  ปัจจัยและสภาพแวดล้อมต่างๆ  แปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เราจึงมีช่องว่างที่จะพัฒนา ปรับปรุงคุณภาพการบริการให้ดีขึ้นเสมอ  ที่วิริยะประกันภัย  เราไม่เคยพอใจกับคุณภาพการบริการที่เป็นอยู่  เราจะสรรหานวัตกรรมและช่องทางการปรับปรุงตลอดเวลา เราทำสิ่งนี้มาอย่างต่อเนื่องจนทำให้ชื่อวิริยะประกันภัย คือแบรนด์ประกันภัยอันดับหนึ่งในใจของลูกค้ากว่า 5 ล้านรายทั่วประเทศ”  นายสยมฯ กล่าวในที่สุด

สำหรับแผนการดำเนินงานด้านนอนมอเตอร์  นายวิญญู  อังศุนิตย์  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ  ได้กล่าวชี้แจงว่า จากความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ปีนี้บริษัทฯ  จึงได้กำหนดกลยุทธ์และแผนงานอย่างชัดเจนในการเพิ่มสัดส่วนงานนอนมอเตอร์ทุกประเภทจาก 9% เป็น 10%   พร้อมๆ กับเดินหน้าขยายตลาดอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการประกันสุขภาพ    เนื่องจากมีอัตราการขยายตัวมากเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภค  กอปรกับบริษัทฯ  มีจุดแข็งในการให้บริการผ่านเครือข่ายสถานพยาบาลคู่สัญญามากกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ   ล่าสุดบริษัทฯ ได้ออกกรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคลใหม่ล่าสุด อุ่นใจรักษ์ V-Total Care แผนประกันสุขภาพระดับพรีเมี่ยมสำหรับลูกค้าระดับกลางถึงบน  ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ต้องการดูแลรักษาทางการแพทย์และสุขภาพแบบวีไอพี

นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการรับประกันโครงการที่เป็นงานของพันธมิตรทางธุรกิจ ควบคู่กับการสร้าง Underwriting tool หรือเครื่องมือช่วยการพิจารณารับประกันภัย สำหรับงานกลุ่ม Personal Line เพื่อให้ตัวแทน นายหน้ารายย่อยสามารถพิจารณารับงานเบื้องต้นด้วยตัวเองได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พร้อมๆ กับการรับประกันภัยงานประกันภัยวินาศกรรม ในช่วง 1-5 ปีถัดไป เนื่องจากมองว่าประเทศไทย จะถูกขับเคลื่อนด้วยเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน Infrastructure หรือระบบขนส่งและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน

ในส่วนของการดำเนินกิจกรรมด้านซีเอสอาร์ นางสาวกานดา  วัฒนายิ่งสมสุข  ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร  กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงมุ่งหวังให้ประเทศไทยเข้าสู่สังคมแห่งความปลอดภัย  ในปีนี้จึงยังคงสนับสนุน ผลักดัน และดำเนินกิจกรรมรณรงค์ด้านความปลอดภัยบนท้องถนน ภายใต้ปัจจัย 3 ด้าน ได้แก่ คน รถ และถนน  พร้อมทั้งยังคงขับเคลื่อนโครงการด้านการศึกษา ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของเด็กและเยาวชน  ให้ได้รับโอกาสในการเรียนรู้ การพัฒนาศักยภาพ อันเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศให้ก้าวสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0  และยังคงดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อพัฒนาให้สังคมเกิดความยั่งยืน  อาทิ ด้านศาสนาและวัฒนธรรม   ด้านเศรษฐกิจพอเพียง ด้านการแพทย์และสาธารณสุข และด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมถึงการพัฒนาชุดข้อมูลของ JS.100 Application ให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ของผู้ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วย

อนึ่ง สำหรับผลประกอบการในปี 2559 นั้น บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มีเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 33,272.52 ล้านบาท  คิดเป็นอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.63 %  โดยแบ่งเป็นเบี้ยประกันรถยนต์  30,267.30 ล้านบาท และเบี้ยประกันนอนมอเตอร์ 3,005.22 ล้านบาท

ส่วนฐานะทางการเงินของบริษัทฯ  ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559  มีสินทรัพย์  67,265.05 ล้านบาท  มีเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย 17,979.50  ล้านบาท แต่บริษัทฯ มีเงินกองทุนสูงถึง  39,991.73 ล้านบาท  คิดเป็น  222.43 % และมีกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล 2,192.62 ล้านบาท
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 06 มี.ค. 2560 เวลา : 18:25:45
26-12-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 26, 2024, 1:21 pm