บมจ. ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ เป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) และพลังงานความร้อนทิ้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมถึงธุรกิจสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติ (NGV) โชว์ผลการดำเนินงานปี 59 เติบโตแข็งแกร่ง หลังทำกำไรสุทธิ 1,824.25 ล้านบาท พุ่งขึ้นจากปีก่อน 270% จากปัจจัยการรับรู้รายได้ในการ COD ของโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) จำนวน 2 โรง กำลังการผลิตติดตั้งรวม 80 MW ได้อย่างเต็มปีในปีที่ผ่านมา ด้านผู้บริหารคาดการณ์ว่าโรงไฟฟ้าใหม่อีก 3 โรง กำลังการผลิตติดตั้งรวม 290 MW โดยจะเริ่ม COD ได้ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่ง
นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP ผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) และพลังงานความร้อนทิ้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมถึงธุรกิจสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติ (NGV) เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2559 ที่บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการผลักดันการเติบโตได้เป็นอย่างดี โดยทำกำไรสุทธิ 1,824.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 270% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 493.36 ล้านบาท และมีรายได้รวม 4,433.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.62% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 2,794.83 ล้านบาท ทั้งนี้ คิดเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิ และอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ในปี 2560 ที่สูงถึง 41% และ 21% ตามลำดับ
สำหรับผลการดำเนินงานที่โดดเด่นดังกล่าว มาจากการที่บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ของโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) จำนวน 2 โรง กำลังการผลิตติดตั้งรวม 80 MW แบ่งเป็น กำลังการผลิตติดตั้ง 20 MW และ 60 MW โดยขายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในช่วงปี 2559 ได้เต็มปี หลังจากที่โรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่ง ได้เริ่ม COD ระหว่างปี 2558 ทั้งนี้ เมื่อรวมกับโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้งอีก 2 โรง กำลังการผลิตติดตั้ง 40 MW และ 30 MW ที่จำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ บมจ. ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) อยู่แล้วก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ปี 2559 เป็นปีที่บริษัทฯ สามารถเก็บเกี่ยวรายได้จากการดำเนินการโรงไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ทั้ง 4 โรง ที่มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 150 MW ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบัญชีและการเงิน TPIPP กล่าวว่า ส่วนเป้าหมายปีนี้คาดว่าบริษัทฯ ยังสามารถผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อไป หลังจากที่ได้ลงทุนขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมอีก 3 โรง กำลังการผลิตติดตั้งรวม 290 MW ซึ่งคาดว่าจะเริ่ม COD ได้ในไตรมาส 4 ปีนี้ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) กำลังการผลิตติดตั้ง 70 MW โรงไฟฟ้าถ่านหินและพลังงานเชื้อเพลิงขยะ กำลังการผลิตติดตั้ง 70 MW และโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน กำลังการผลิตติดตั้ง 150 MW
ซึ่งเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะส่งผลให้ TPIPP มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง รวมทั้งสิ้น 440 MW จากโรงไฟฟ้าทั้งหมด 7 โรง และจากการปรับปรุงและเพิ่มเติมหม้อผลิตไอน้ำ เพื่อเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตไฟฟ้าของบริษัทให้สูงขึ้นไปอีก ซึ่งคาดว่าจะสนับสนุนผลการดำเนินงานในปีนี้และปีหน้าให้เติบโตต่อไปอย่างก้าวกระโดดต่อไป
ข่าวเด่น