นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศ หลังจากที่ภาครัฐประกาศให้พักการทำนาปรังรอบที่ 2 เพื่อป้องกันปัญหาภัยแล้ง จึงมีนโยบายให้ทุกหน่วยงานในสังกัดดำเนินงานตามแผนเตรียมความพร้อมเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยแล้ง ด้านการเกษตรปี 2559/60 โดยมีนโยบายให้กรมชลประทานเข้าไปดำเนินการจ้างแรงงานเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรทั่วประเทศ ซึ่งในปีนี้มีการจัดสรรงบประมาณจ้างแรงงานจากภาคการเกษตรมาดำเนินงานด้านก่อสร้างและบำรุงรักษา เช่น งานก่อสร้างโครงการชลประทานขนาดเล็ก งานซ่อมแซมปรับปรุงโครงการ กำจัดวัชพืช ซึ่งจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพระบบชลประทานในการส่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกในช่วงฤดูนาปี
โดยกรมชลประทานมีแผนการจ้างแรงงานจากวงเงินงบประมาณในปี พ.ศ. 2560 จำนวน 3,497.19 ล้านบาทปัจจุบันเบิกจ่ายค่าจ้างแรงงานแล้วจำนวน 559.06 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15.99 ของงบประมาณการจ้างแรงงาน โดยมีการจ้างแรงงานไปแล้วจำนวน 41,184 คน ครอบคลุมทั้ง 76 จังหวัด ซึ่งจังหวัดที่มีการจ้างแรงงานมากที่สุด 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 3,035 คน จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 2,686 คน และจังหวัดสกลนคร จำนวน 2,283 คน ตามลำดับ
สำหรับการจ้างแรงงานดังกล่าว จะให้ความสำคัญในการว่าจ้างเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร หรือลูกหลานของเกษตรกรเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตามหากบางพื้นที่มีจำนวนเกษตรกรมาสมัครไม่เพียงพอ จึงมีความจำเป็นต้องว่าจ้างแรงงานในภาคส่วนอื่นๆ แต่ต้องเป็นคนในพื้นที่หรือพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งคาดว่า จะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องชาวเกษตรกรทั่วประเทศได้ก่อนจะถึงฤดูฝนและการเพาะปลูกข้าวนาปีในฤดูกาลต่อไป ทั้งนี้ เกษตรกรที่ประสงค์จะทำงานในช่วงฤดูแล้งกับกรมชลประทานสามารถขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ที่ สำนักงานชลประทานที่ 1-17 และโครงการชลประทานจังหวัดทั่วประเทศ
ข่าวเด่น