ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีคำสั่งนายทะเบียนที่ 8/2560 ลงวันที่ 3 มีนาคม 2560 ลดเบี้ยประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจร้อยละ 5-10 สำหรับรถยนต์ที่ติดกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ที่ติดตั้งกับรถยนต์ เพื่อเสริมสร้างวินัยจราจรแก่ประชาชนและช่วยลดอุบัติเหตุทางถนน ขณะนี้ สำนักงาน คปภ. อยู่ระหว่างการบูรณาการการทำงานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้คำสั่งดังกล่าว โดยเร่งทำความเข้าใจกับบริษัทประกันภัยเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันและไม่ให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ
โดยหลังจากที่ได้ออกคำสั่งนายทะเบียนเรื่องให้ใช้อัตราเบี้ยประกันรถยนต์ สำหรับรถยนต์ที่ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ที่ติดตั้งกับรถยนต์ เป็นมาตรการแรกด้านประกันภัยเพื่อช่วยลดอุบัติเหตุบนถนนแล้ว ขณะนี้สำนักงาน คปภ.อยู่ระหว่างเตรียมคลอดมาตรการที่สองตามมา โดยจะมีการออกคำสั่งนายทะเบียน เพื่อปรับแก้ข้อยกเว้นในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ กรณีการขับขี่โดยบุคคลซึ่งขณะขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่กำหนดไว้ไม่ น้อยกว่า 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกกำหนด
ทั้งนี้ประเด็นการปรับแก้ข้อยกเว้นในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์เรื่องลดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดให้ต่ำกว่าเดิมนั้น มีการศึกษาและวิเคราะห์กัน โดยหลายฝ่ายเห็นว่า ข้อยกเว้นในกรมธรรม์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันซึ่งกำหนดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดไม่น้อยกว่า 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์นั้นไม่สอดคล้องกับกฎกระทรวงฉบับที่ 16 (พ.ศ.2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2537 ซึ่งบัญญัติว่าถ้ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดตรวจวัดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ให้ถือว่าเมาสุรา ส่งผลให้ผู้เอาประกันภัยรถยนต์ที่ดื่มสุรา ซึ่งตามกฎหมายถือว่าเมาสุรา เมื่อไปขับขี่รถยนต์แล้วเกิดอุบัติเหตุบริษัทประกันภัยก็ยังจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ หากไม่มีการแก้ไขจะส่งผลกระทบให้เสมือนเป็นการจูงใจให้คนที่ดื่มสุรานิ่งนอนใจว่าถึงแม้เมาแล้วขับรถยนต์ชนเกิดความสูญเสีย ก็ยังมีประกันภัยจ่ายแทน
“จากการศึกษาข้อมูลต่างๆ ทั้งข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย รวมทั้งรับฟังข้อเสนอแนะต่างๆ ประกอบการชั่งน้ำหนักผลดี ผลเสีย อย่างรอบคอบแล้ว สำนักงาน คปภ. เห็นว่า การปรับแก้ข้อยกเว้นในกรมธรรมประกันภัยรถยนต์เรื่องลดปริมาณแอลกอฮอล์ให้ เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกกำหนด จะเกิดผลดีต่อประชาชนมากกว่า โดยจะเป็นมาตรการที่ช่วยส่งเสริมการณรงค์ “เมาไม่ขับ” และช่วยสนับสนุนความปลอดภัยทางถนน ตามแผนการปฏิรูประบบความปลอดภัยทางถนน อย่างยั่งยืน อันจะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้จะมีการออกคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าว ในช่วงกลางเดือนมีนาคม 2560 โดยจะมีการกำหนดช่วงเวลาพอสมควรก่อนที่จะให้มีคำสั่งใช้บังคับเพื่อให้ทุก ภาคส่วนมีการปรับตัวรองรับกติกาใหม่นี้ต่อไป” ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวเด่น