เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
IMF มองเศรษฐกิจไทยระยะสั้น-กลางเริ่มฟื้นตัว


เศรษฐกิจไทยปีนี้ เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง  แม้จะความเสี่ยงจากปัจจัยต่างประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอน  จากการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) สรุปผลการประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยว่า  ในปี 2559 เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยขยายตัวได้ 3.2%  จากแรงขับเคลื่อนด้านการส่งออกบริการและการลงทุนภาครัฐ   ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ที่ 0.2% ต่ำกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อสองปีติดต่อกัน   เป็นผลจากราคาพลังงานที่ลดลงและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง  ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลเพิ่มขึ้นจากการนำเข้าที่ขยายตัวในระดับต่ำ ในขณะที่ตลาดการเงินไทย แข็งแกร่งมากและสามารถรับมือความเสี่ยงทั้งภายในและภายนอกประเทศได้เป็นอย่างดี


ส่วนเศรษฐกิจไทยในระยะสั้นถึงปานกลางกลางน่าจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป  จากการใช้จ่ายภาครัฐที่เป็นบทบาทหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ  ตามแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า    ซึ่งจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการลงทุนของภาคเอกชนในระยะต่อไป ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่า  จะเพิ่มขึ้นในปีนี้ตามแนวโน้มราคาพลังงานตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นแต่คาดว่า  ยังต่ำกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2.5% ต่อไปอีกหลายปี   ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานจะยังอยู่ในระดับต่ำ   ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดคาดว่าจะทยอยปรับลดลงตามความต้องการ (อุปสงค์) ในประเทศที่ดีขึ้นในระยะปานกลาง
 
แม้แนวโน้มในระยะต่อไปเศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนและปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน   ทั้งปัจจัยต่างประเทศ เช่น การปฎิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจจีนที่อาจกระทบต่อการส่งออกไทย  รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐ ที่อาจทำให้เงินทุนไหลออกและส่งผลให้ต้นทุนการเงินสูงขึ้น  และยังก่อให้เงินความผันผวนในตลาดการเงินโลก อย่างไรก็ตามจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวได้ดีน่าจะเป็นปัจจับวกที่ทำให้ภาคการส่งออกและท่องเที่ยวของไทยฟื้นตัวในระยะอันใกล้

ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงในประเทศได้แก่  การลงทุนภาคเอกชนที่ต่ำ  อาจส่งผลกดดันความต้องการภายในประเทศและศักยภาพของเศรษฐกิจ  และจากอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานาน และหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูงจะเป็นอุปสรรคต่อการบริโภคและการเติบโตของเศรษฐกิจมากกว่าที่คาด
 
ดังนั้นไอเอ็มเอฟจึงแนะนำ  ให้ไทยดำเนินนโยบายเศรษฐกิจที่ผสมผสานทั้งนโยบายการคลังและนโยบายการเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจ  รวมถึงปฏิรูปเชิงโครงสร้างเพื่อสนับสนุนอุปสงค์ในประเทศระยะสั้นและเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจในระยะยาว  ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยลดการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระยะปานกลางและจะช่วยให้อัตราแลกเปลี่ยนที่แท้จริงปรับแข็งค่าขึ้นผ่านการกระตุ้นเศรษฐกิจ   เพื่อเพิ่มรายได้ที่แท้จริง ทั้งนี้การเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนควรเป็นปราการด่านแรกที่จะช่วยรองรับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก

นอกจากนี้เสนอให้ไทยใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนปรนควบคู่กับการปรับปรุงการสื่อสารนโยบาย  เพื่อช่วยให้ความเสี่ยงเศรษฐกิจมีความสมดุลมากขึ้น และเพื่อให้อัตราเงินเฟ้อเข้าสู่เป้าหมาย  ทั้งนี้การใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนปรนผสม ประสานกับนโยบายการคลังที่ผ่อนปรนขึ้นจะช่วยลดความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานานและป้องกันการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงและภาระหนี้ที่แท้จริง    
      
อีกทั้งยังเป็นการทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับเข้าสู่เป้าหมายได้เร็วขึ้น  ซึ่งจะช่วยให้ไทยหลุดพ้นภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำได้เร็วขึ้นและทำให้เสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงินเข้มแข็งยิ่งขึ้น   และแสดงถึงเจตนารมณ์ที่จะดูแลให้อัตราเงินเฟ้อกลับเข้าสู่กลับเป้าหมายจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการส่งผ่านนโยบายการเงิน               

ไอเอ็มเอฟระบุด้วยว่า  ไทยควรดำเนินการปฏิรูปเชิงโครงสร้างโดยทุกภาคส่วนควรพิจารณาปัจจัยทั้งหมดที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและทั่วถึง และให้ความสำคัญกับความท้าทายที่เกิดจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว ซึ่งการเพิ่มกำลังแรงงานด้วยการลดความไม่เท่าเทียมทางเพศ และการเพิ่มอายุเกษียณ  รวมไปถึงการอำนวยความสะดวกในการย้ายถิ่นฐานของแรงงานฝีมือและ การพัฒนาคุณภาพการศึกษา จะช่วยเพิ่มภาพแรงงานและลดผลกระทบจากปัญหาโครงสร้างประชากร
 

LastUpdate 17/03/2560 13:41:33 โดย : Admin
26-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 26, 2024, 8:19 pm