นายกิตติ โกสินสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไฟเบอร์วัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ที่การดำเนินชีวิตทั้งเรื่องส่วนตัว และเรื่องงาน ดำเนินไปบนวิถีดิจิทัล เช่น เรามีเทคโนโลยีสมาร์ทโฮมที่ช่วยให้ควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านจากระยะไกลผ่านมือถือ เคเบิลทีวี คอนเท้นท์บนโลกออนไลน์ที่ใช้แบนด์วิธขนาดใหญ่ขึ้น เช่น เพลง หนัง วิดีโอ และเกมส์ออนไลน์ สมาร์ทบิวดิ้งในการควบคุมอาคาร สมาร์ทแฟคทอรี่ ในการเป็นผู้จัดการโรงงานในยุคอุตสาหกรรม 4.0 จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและแอพพลเคิชั่นใช้งาน สิ่งเหล่านี้ เป็นปัจจัยในการสร้างความต้องการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และไฟเบอร์วัน เป็นผู้ให้บริการรายเดียวในตลาดที่มีความโดดเด่นด้วยรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบเศรษฐกิจแบ่งปัน หรือ Sharing Economy”
นายกิตติ กล่าวต่อว่า ความร่วมมือกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่หลากหลาย จะช่วยให้ไฟเบอร์วันสามารถขยายโครงข่ายเพื่อให้บริการไฟเบอร์ออฟติกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ พื้นที่กรุงเทพ และปริมณฑล ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในปีนี้ และเพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้กับชุมชน ไฟเบอร์วัน มีแผนจะขยายการให้บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งความร่วมมือกันครั้งนี้จะทำให้เราสามารถขยายการให้บริการได้ครอบคลุมและรวดเร็วขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้
เทคโนโลยีไฟเบอร์ออฟติกจะเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาทดแทนสายทองแดงที่ใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน การวางโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกจะช่วยยกระดับหมู่บ้านและคอนโดในการตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านที่เข้าสู่สังคมดิจิทัลและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป
ทั้งนี้ รูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบเศรษฐกิจแบ่งปัน หรือ Sharing Economy นี้เป็นรูปแบบที่ไฟเบอร์วันเป็นผู้ลงทุนวางระบบโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกให้กับกลุ่มนิติบุคคลบ้านและคอนโด รวมถึงการดูแลรักษาระบบ พร้อมแบ่งรายได้ให้กับนิติบุคคล และยกโครงข่ายให้กับนิติบุคคลเมื่อดำเนินการครบ 15 ปี ซึ่งการดำเนินรูปแบบธุรกิจแบบเศรษฐกิจแบ่งปัน ทำให้ไฟเบอร์วันสร้างการเติบโตได้แบบก้าวกระโดด และเติบโตไปพร้อมกับพันธมิตรธุรกิจทุกรายของเรา
ข่าวเด่น