ภาคเอกชนรายใหญ่ 24 หน่วยงาน เห็นพ้องโอทอปไทยไปได้อีกไกลแต่ต้องพัฒนารูปแบบให้เป็นเชิงพาณิชย์มากขึ้น หากต้องการแจ้งเกิดในตลาด ต้องปรับวิธีคิดผลิตสินค้าให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า เน้น!!คุณภาพมาตรฐานเป็นหลัก พร้อมสร้างวิสัยทัศน์ความเป็นผู้ประกอบการ โอทอปที่เข้มแข็งภาครัฐต้องสนับสนุนให้เป็นเอสเอ็มอีดันเข้าสู่แวดวงธุรกิจเต็มตัว
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือการพัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์และขยายช่องทางตลาดโอทอปตามแนวทางประชารัฐ เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางอภิรดี ตันตราภรณ์) ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประสานความร่วมมือกับภาคเอกชนในการส่งเสริมและผลักดันสินค้าโอทอปของไทยให้เป็นที่รู้จัก พร้อมขยายช่องทางการตลาดให้มีความหลากหลายเพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด”
ซึ่งภาคเอกชนเห็นพ้องกันว่า 1) สินค้าโอทอปของไทยควรจะมีการพัฒนาให้มีรูปแบบเป็นเชิงพาณิชย์มากขึ้นโดยต้องเน้นเรื่องคุณภาพมาตรฐานของสินค้าเป็นหลัก 2) การผลิตสินค้าต้องมีความต่อเนื่อง (เนื่องจากบางครั้งเมื่อสินค้าเริ่มติดตลาดและผู้บริโภคมีความต้องการมากขึ้น ผู้ผลิตไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทันตามความต้องการของผู้บริโภค ทำให้สินค้านั้นอาจสูญเสียตลาดและลูกค้าในอนาคตได้) 3) ผู้ผลิตต้องมีความเข้าใจในกลไกตลาดเป็นอย่างดี (ผลิตสินค้าให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก และต้องประยุกต์ให้เข้ากับกระแสสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่ผลิตสินค้าตามความต้องการของตนเองที่อยากจะผลิต) และ 4) ผู้ผลิตต้องสร้างวิสัยทัศน์ของความเป็นผู้ประกอบการที่พร้อมจะพัฒนา ซึ่งเมื่อผู้ผลิตสินค้าโอทอป หรือผู้ประกอบการมีความเข้มแข็งและเติบโตในระดับหนึ่งภาครัฐก็ควรที่จะผลักดันให้เข้าสู่แวดวงธุรกิจอย่างเต็มตัวโดยการสนับสนุนให้เป็นเอสเอ็มอี และมีความเป็นผู้ประกอบการมืออาชีพมากยิ่งขึ้น
“นอกจากนี้ โอทอปไทยควรได้รับการพัฒนายกระดับอย่างต่อเนื่อง คือ โอทอป 1-2 ดาว ควรยกระดับเข้าสู่ 3-5 ดาว และ โอทอประดับ 3-5 ดาว ก็ควรยกระดับสู่การส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งภาคเอกชนยินดีให้ความร่วมมือที่จะพัฒนาผู้ผลิตให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ยอมรับ และช่วยขยายช่องทางการตลาดสินค้าโอทอปให้เข้าถึงผู้บริโภคได้โดยง่าย”
อธิบดีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “กรมฯ จะนำความเห็นและข้อเสนอแนะของภาคเอกชนมาปรับแนวทางการพัฒนาสินค้าโอทอปของไทยและช่องทางการตลาดให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค ทั้งนี้ ได้กำหนดแผนงานสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนไว้แล้ว ตั้งแต่การคัดสรรกลุ่มเป้าหมายผลิตภัณฑ์โอทอป 3-5 ดาว โดยให้ความร่วมมือคัดสรรและให้คำแนะนำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด การจัดอบรมพัฒนาทักษะผู้ผลิต/ผู้ประกอบการให้เข้าใจถึงกลยุทธ์การตลาด การสร้างตราสินค้า (แบรนด์) และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างตรงจุดและตรงกลุ่มเป้าหมาย”
ข่าวเด่น