นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการส่งเสริมเศรษฐกิจผู้ประกอบการในชุมชนท้องถิ่น ระหว่าง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงศึกษาธิการ และดีแทค โดยมี นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางสาววิไลลักษณ์ ชุลีวัฒนกุล ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายกฤตชัย อรุณรัตน์ เลขาธิการสำนักส่งเสริมการศึกษานอกระบบ นายวิชัย โภชนกิจ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ และนายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ ดีแทค ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงดังกล่าว
นางสาวชุติมา เปิดเผยว่า การลงนามในบันทึกความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการระยะเร่งด่วนตามนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก และเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้ให้กับชุมชน
ทั้งนี้ ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะรับหน้าที่ส่งเสริมพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรของชุมชนแต่ละพื้นที่ รวมถึงการนำนวัตกรรมสู่การผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ กระทรวงดิจิทัลฯ จะรับหน้าที่สนับสนุนการวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพสู่ทุกตำบลทั่วไทย กระทรวงพาณิชย์รับหน้าที่ส่งเสริมด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ส่วนกระทรวงศึกษาธืการจะช่วยยกระดับการเรียนรู้ตลอดชีวิตสู่โลกดิจิทัล ขณะที่ดีแทค จะร่วมบูรณาการกับ 4 หน่วยงานหลัก ในการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้อินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลและการติดต่อลูกค้าในลักษณะองค์รวม ส่งเสริมให้กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมผู้ประกอบการรายใหม่ และเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนแต่ละท้องถิ่น มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ทำธุรกิจ และส่งเสริมให้เป็นผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ชทำการค้าออนไลน์แบบครบวงจร
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ มีนโยบายในปี 2560 ที่จะมุ่งเน้นการยกระดับสินค้าเกษตรสู่ความมั่นคง โดย พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงเกษตรฯ ร่วมกันขับเคลื่อนในทุกด้านทุกมิติ สำหรับในปี 2560 กระทรวงเกษตรฯ มีกิจกรรมโครงการในแผนงานหลายโครงการที่ต้องใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเสริม ทั้งการใช้ประโยชน์สำหรับการดำเนินงานภายใต้โครงการ และนำมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาต่อยอดให้เกิดการค้าออนไลน์ การขายอีคอมเมิร์ซสำหรับสินค้าภาคการเกษตร
ซึ่งหากสามารถยกระดับ และทำความร่วมมือกันทุกภาคส่วนยังจริงจัง จะทำให้ผู้บริโภคได้บริโภคสินค้าดีมีคุณภาพตรงจากฟาร์มหรือแหล่งผลิต ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ในขณะเดียวกันเกษตรกรผู้ผลิต ก็สามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ขายสินค้าภาคเกษตรได้ 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุดขาย ทั้งในตำบล อำเภอจังหวัด ภูมิภาค หรือภายในประเทศ อีกทั้งมีโอกาสขายไปต่างประเทศได้ด้วย
ข่าวเด่น